Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

Posts by Lanlom

สมัยก่อนเมื่อเดินทางไปไหน จุดที่จะเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่ายได้ดีที่สุด ที่หลายคนมักจะนึกถึงคือ ป้ายของสถานที่นั้นๆ เรียกได้ว่า ถ้ามาแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับป้าย มันจะเกิดอาการตะขิดตะขวงใจเหมือนมาไม่ถึง แต่อย่ามาพูดกันในวันนี้ ถ้าป้ายนั้นไม่เก๋จริง ก็ทิ้งความคิดนั้นไปได้เลย แต่สิ่งที่ยังไม่เชย ไม่เอาท์ คือ การบันทึกภาพพร้อมเอกลักษณ์ที่โดดเด่น อาจจะต้องได้ชื่อว่า มีที่เดียวที่นี่เท่านั้น หากจะนึกง่ายๆ อย่าง วัดพระแก้ว ประเทศไทย หอไอเฟล ฝรั่งเศส หรือ หอเอนปิซ่า ของอิตาลี เห็นแล้วรู้ดีว่า อ๋อ…มาถึงแล้ว นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “แลนด์มาร์ค” สถานที่สำคัญซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าของเมืองๆ นั้น และแลนด์มาร์คนี่เอง ที่เป็นกลยุทธ์ของการท่องเที่ยวในหลายๆ แห่ง เพราะในวันนี้ แลนด์มาร์คไม่จำเป็นต้องเป็นเพียงสิ่งที่สร้างคู่บ้านคู่เมืองนาน  แถมยังสามารถสร้างขึ้นได้ใหม่ ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ (แต่ถ้าใหญ่โตอลังการก็มักจะเป็นที่จดจำและดึงดูดได้ดีกว่า) ประเทศหนึ่งมีได้หลายแบบ หลายแห่ง ตั้งแต่ระดับประเทศ 

ศิลปินผู้ละเมียดละไมทุ่มเวลาอยู่กับความคิดและการตั้งคำถาม นานเท่าที่ความพึงพอใจบ่งบอก เสมือนศิลปินสาวผู้ใช้เวลาที่เรียกได้ว่า เป็นการ “จม” หรือ “ดิ่ง” อยู่กับสิ่งที่เธอสนใจ ก่อนที่จะถ่ายทอดถึงจิตวิญญาณที่เธอได้รับรู้นั้นออกมาเป็นผลงานศิลปินที่แปลกตา เต็มไปด้วยเรื่องราวและที่มาอันชวนคิด ชวนค้นหา แลลีเบรอวีล รู้จักกันในชื่อ "ทิเบตแอฟริกา" มีรากฐานมาจากพิธีเกี่ยวกับการรักษาและวิถีชีวิตที่เก่าแก่แบบชาวกาบอง ที่มีชีวิตประจำวันเชื่อมต่ออย่างลึกซึ้งกับธรรมชาติที่มีบนโลก [caption id="attachment_14159" align="aligncenter" width="616"] Melissa Lin-A Living Room -2017- 118x166cm acrylic on canvas[/caption] และนั่นคือเหตุผลที่ “เมลิซา ลิน” เลือกที่จะจมตัวเองอยู่กับวัฒนธรรมและประเพณีแบบ Bwiti เธออยู่ที่นี่และซาบซึ้งกับสิ่งต่างๆ ที่เห็น รวมถึงสัญลักษณ์พิธีกรรมการเต้นแบบชาวพื้นเมืองที่มีให้เธอเห็นทุกๆ วัน ในช่วงเวลานั้น พวกเขาบอกเล่าความรู้สึกของเธอทั้งหมดผ่านสัมผัสของสี รูปทรง อากัปกิริยา และพิธีกรรม

นับเป็นกระแสในสังคมที่น่ายินดีว่า เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้กลับมาสร้างความสนใจให้กับคนไทยในยุคนี้มากขึ้น แม้ว่าละคร “บุพเพสันนิวาส” ใกล้จะจบลงแล้ว แต่เรื่องของวิถีไทยและประวัติศาสตร์ ยังคงมีความน่าสนใจในหลากหลายแง่มุม หนึ่งในนั้นคือเรื่องของการแต่งกายในอดีต ซึ่งนอกจะมีความงดงามแล้ว ยังเต็มไปด้วยที่มาที่ไปที่ชวนให้ขบคิดและค้นหาคำตอบ   [caption id="attachment_14085" align="aligncenter" width="769"] พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2468[/caption] การแต่งกายสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นวัฒนธรรมที่มีการสืบทอดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและได้มีพัฒนาการจนกระทั่งเกิดการผสมผสานกับเครื่องแต่งกายของประเทศตะวันตกที่เริ่มเข้ามามีอิทธิพลตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 และ5 จนถึงช่วงรัชกาลที่ 6 การแต่งกายของไทยย่อมมีทั้งส่วนที่คงรูปแบบตามจารีตดั้งเดิมไว้และส่วนที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ขุมทรัพย์ของแผ่นดินเรื่อง “วิวัฒนาการการแต่งกายสมัยกรุงรัตนโกสินทร์” เป็นสื่อการเรียนรู้ในชุด “ขุมทรัพย์ของแผ่นดิน” คัดสรรหนังสือและเอกสารหายากที่มีคุณค่า นำมา พัฒนาและดัดแปลงโดยใช้เทคโนโลยีให้น่าอ่านและน่าสนใจโดยนำมาให้บริการผ่าน TK Application   [caption id="attachment_14082" align="aligncenter" width="376"] พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องขัตติยภูษิตาภรณ์ตามแบบโบราณราชประเพณี พร้อมทรงฉลองพระองค์ครุยประกอบเครื่องราชูปโภค[/caption]   [caption

การสร้างสรรค์รูปแบบของค้าปลีกสมัยใหม่นับเป็นเรื่องที่ท้าทายยิ่ง ในห้วงเวลาที่โลกออนไลน์ และร้านค้าสะดวกซื้อใกล้บ้านได้ฉกชิงพื้นที่การซื้อขายไปอย่างมาก แต่เป้าหมายของศูนย์การค้าในวันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเข้ามาเพื่อจับจ่ายซื้อหาสินค้า เพราะต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คน เป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจ เปิดโลกแห่งการสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้ชื่นตาชื่นใจอยู่เสมอ [caption id="attachment_14046" align="aligncenter" width="900"] ภาพจำลอง ‘ไอคอนสยาม’[/caption]   ล่าสุดได้ทราบข่าวความคืบหน้าของ “ไอคอนสยาม” โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดยักษ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยมูลค่าการลงทุนถึง 5.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ หนึ่งในคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจคือ การเปิดพื้นที่ “สุขสยาม” ด้วยมูลค่าการลงทุน 700 ล้านบาท นำเสนอมนต์เสน่ห์แห่งวิถีไทยที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาเยี่ยมเยือนปีละ 21.9 ล้านคน [caption id="attachment_14047" align="aligncenter" width="900"] ภาพจำลองพื้นที่ ‘สุขสยาม’[/caption]   “สุขสยาม” นำเสนอคอนเซ็ปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า ‘Co-Creation’ หรือการร่วมกันรังสรรค์ คือผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจ ศิลปิน วิสาหกิจท้องถิ่น ชุมชนวิถีไทย

ไม่ใช่แค่กระแสที่โด่งดังไปทั้งเมือง แต่ตอนนี้บทบาทของละคร “บุพเพสันนิวาส” ยังดังเปรี้ยงปร้างตั้งแต่ในทุกบ้าน ทุกชุมชน  ทุกสื่อ ไปจนถึงทำเนียบรัฐบาล และกลายเป็นกิมมิคของการท่องเที่ยวและการตลาด ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้     เดิมที่ก็มีการรณรงค์แต่งไทยไปเที่ยวสงกรานต์ เที่ยวสงกรานต์แบบย้อนยุคย้อนประวัติศาสตร์ แต่ไอเดียดีๆ ที่คิดกันไปได้อีกมาก ต่อยอดมาถึงเรื่องของผลงานศิลปะ จะเรียกว่า เป็นกิมมิคซ้อนกิมมิคก็ว่าได้     เพราะภาพวาด 3 มิติ ในงาน “สงกรานต์หน้าวัง” โดย ม.ศิลปากร นอกจากจะต่อยอดภาพวาดธรรมดาๆ ให้ออกมาในเชิงโต้ตอบและมีส่วนร่วม  ด้วยการใช้รูปแบบของงาน 3 มิติ ที่ทำให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมภายในภาพได้แล้ว ยังต่ออีกยอดด้วยการนำคาแรคเตอร์จากละครบุพเพสันนิวาสมาเป็นตัวแทนของสงกรานต์ในปีนี้  นับเป็น 2 กิมมิคซ้อนที่สร้างสีสันและความแตกต่าง     ภาพวาด 3 มิติ ทั้งแม่การะเกด พี่หมื่น พี่ผิน พี่แย้ม อ้ายจ้อย และภาพอื่น

ในฤดูใบไม้ผลิ เกือบทั่วทุกมุมในประเทศญี่ปุ่นจะปกคลุมไปด้วยความงดงามของดอกซากุระ  อันเป็นช่วงเวลาอันแสนหวานที่ชาวญีปุ่่นและนักท่องเที่ยวเฝ้ารอ บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง รีเทล เมเนจเม้นท์ จำกัด ที่ดำเนินกิจการศูนย์การค้ากว่า 68 แห่งทั่วประเทศ ได้แนะนำหนึ่งในจุดชมซากุระที่ดีที่สุดให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย อย่างย่าน “นิฮงบาชิ” กรุงโตเกียว และ จังหวัด “คะนะงะวะ” ย่านนิฮงบาชิถือเป็นอีกหนึ่งย่านที่คนญี่ปุ่นแนะนำเมื่อมาเยือนโตเกียว เพราะนักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่จะได้เพลิดเพลินไปกับสถานที่ช้อปปิ้งที่น่าตื่นตาตื่นใจและชื่นชมความงดงามของทิวทัศน์อันคลาสสิกของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังจะได้สัมผัสกิจกรรมสุดพิเศษที่มีเฉพาะในช่วงนี้เท่านั้น นั่นก็คืองาน “นิฮงบาชิ ซากุระ เฟสติวัล” (Nihonbashi Sakura Festival) โดยไฮไลท์ของงานในครั้งนี้คือ อุโมงค์ซากุระ หรือ SAKURA TUNNEL บนถนน นากา โดริ (Naka Dori Street) ที่ได้รับการเนรมิตเป็นถนนแห่งศิลปะดอกซากุระด้วยการตกแต่ง

นี่ไม่ใช่อาหารมื้อสุดท้ายของนักโทษประหาร และไม่ใช่งานเลี้ยงครั้งสุดท้ายที่จะหวังคร่าชีวิตศัตรูแบบในหนัง  แต่สำรับแห่งความตาย คือ คุณค่าหนึ่งแห่งการมีชีวิตอยู่ เป็นเมนูที่ต่อยอดมาจากการระลึกถึงความตายตามคำสอน “มรณานุสติ” ของพระพุทธเจ้า มรณานุสติ  สอนให้ทุกคนระลึกถึงความตาย ที่ไม่ใช่แง่มุมของการสูญเสียและหวาดกลัว แต่พึงระลึกไว้เพื่อความมีสติและไม่ประมาท ระลึกไว้เป็นพื้นฐานว่า ความตายเป็นเรื่องธรรมดาใกล้ตัว ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แล้วตั้งคำถามกับตัวเองว่า ก่อนตายเราจะทำอะไร ยังอยากทำความชั่วร้ายหรือเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจให้กับใครอีกหรือไม่ แล้วจะหันมาทำสิ่งดีๆ เพื่อตัวเองและคนใกล้ชิดบ้างไหม   นี่คือหนึ่งในแนวทางการแก้ปัญหาของสังคมของ “สถาบันคิดใหม่” โดยก่อนหน้านี้ได้จัดสร้างร้านกาแฟ Kid Mai Death Awareness Cafe หรือ  “มรณานุสติ” เพื่อเป็นที่สื่อสารให้คนได้ระลึกถึงความตาย ล่าสุด Kid Mai Death Awareness Cafe จัดแข่งขันการประกอบอาหาร “สำรับแห่งความตาย”  ขึ้นเพื่อปลูกฝังธรรมมะ ผ่านการทำอาหารในหัวข้อมรณานุสติ ที่จะทำให้ผู้สมัครนึกถึงคุณค่าของชีวิตผ่าน เมนูอาหารที่คิดค้นขึ้น

  โลกในนิทานเป็นบทเรียนแรกๆ ในการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เด็กที่ว่าซนสักแค่ไหน เมื่อได้เห็น ได้อ่าน หรือได้ฟังเรื่องราวจากนิทาน ก็จะนิ่งเหมือนถูกสะกด ประตูของพวกเขาเปิดออกสู่โลกกว้างอันไร้ขอบเขต หนังสือนิทานจึงเป็นงานศิลปะเชิงจิตวิทยา แถมยังเป็นช่วงเวลาของความอบอุ่น จริงหรือไม่ ลองนึกภาพตัวเองยามที่นอนหนุนอกพ่อแม่ฟังนิทานที่ท่านเล่า จำได้หรือไม่ได้ไม่ใช่สาระ รู้เพียงว่าคิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็อบอุ่นใจทุกที พัฒนาการของหนังสือนิทานยังคงเดินหน้าไป ท่ามกลางสื่อใหม่ที่หมุนผ่านเข้ามา คนที่จะเขียนนิทานหรือวาดภาพประกอบนิทานได้ นับเป็นศิลปินและนักเขียนที่ต้องมีความละเมียดละไมอย่างมาก และตอนนี้ก็ได้มีการจัดงาน เทศกาลหนังสือนิทานภาพนานาชาติประจำปี 2561 หรือ TK park International Children’s Picture Book Festival 2018  โดยอุทยานการเรียนรู้ TK park  หรือ ทีเค พาร์ค   ซึ่งได้รวบรวมกิจกรรมเกี่ยวนิทานเอาไว้มากมาย ดร. อธิปัตย์ บำรุง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ กำกับดูแล สำนักงานอุทยานการเรียนรู้

เข้าช่วงปิดเทอมแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองก็มองหาสถานที่ท่องเที่ยวให้กับน้องๆ หนูๆ และความใฝ่ฝันหลักของเด็กๆ ก็คือสวนสนุก แต่ได้ชื่อว่า “ประเทศไทย 4.0” ที่ต้องใช้นวัตกรรมนำหน้า แม้แต่เรื่องของสวนสนุกก็ต้องเข้ายุคเข้าสมัย ทราบมาว่า อีกไม่นานจะมีการเปิดตัว “บิท.เพลย์กราวด์”  สวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟเต็มรูปแบบแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลงานของ บริษัท บิท สตูดิโอ จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์เทคโนโลยีสัญชาติไทย ซึ่งมีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก แม้จะไม่ใช่เด็กๆ ก็ถึงกับตั้งตารอคอยกันเลยทีเดียว นายเกียรติยศ พานิชปรีชา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิท สตูดิโอ จำกัด  ให้ข้อมูลว่า บริษัท มีความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับในต่างประเทศด้านการพัฒนา และการสร้างสรรค์เทคโนโลยีให้กับกลุ่มธุรกิจหรือ B2B ส่งผลให้ บิท สตูดิโอ ตัดสินใจจัดงาน bit.playground (บิท.เพลย์กราวด์) ขึ้น

แม้ว่าจะไม่ใช่นิทรรศการศิลปะที่จัดขึ้นในเมืองไทย แต่ก็คิดว่าสายอาร์ตเมืองไทยก็ไม่อยากพลาดชม ด้วยความโดดเด่นจากฝีมือของ “ต้าน เหวย เคิง”  รวมทั้งเรื่องราวการถ่ายทอดที่น่าทึ่ง ด้วยการใช้เวลานานเป็นปี เข้าไปคลุกคลีวิถีชีวิตของชาวชนเผ่าในป่าใหญ่  จนได้ผลงานชุด Forgotten Beauty ออกมาให้ชื่นชม Forgotten Beauty เป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งที่ 2 โดย “ต้าน เหวย เคิง”  ที่จัดแสดงที่แกลเลอรี “ริชาร์ด โคห์ ไฟน์ อาร์ต” กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยจะจัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 10 - 24 เมษายน 2561 นี่คือผลงานภาพเขียนชนเผ่าต่างๆ ในรัฐซาราวะก์ สมัยที่ศิลปินผู้วาดภาพเคยเดินทางไปเยี่ยมเยือน จำนวน 17 ชิ้น

ความฝันของเด็กผู้ชาย มีอะไรบ้าง นอกจากความเป็นยอดมนุษย์ที่คิดไว้ในวัยเยาว์แล้ว เรื่องของรถคือหนึ่งในความฝัน ที่อยู่คู่ผู้ชายมาอย่างยาวนาน แถมไม่ใช่คันเดียวซะด้วย ผู้ชายที่ชื่นชอบรถ ย่อมต้องการมีรถยนต์ดีๆ ในสไตล์ที่ชอบ ไว้ใช้สักคัน  ไม่เพียงรถยนต์เท่านั้น เพราะมอเตอร์ไซด์ก็คืออีกฝันที่พวกเขาอยากมี เราจึงเห็นผู้ชายสมัยนี้ มีทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซด์ในเวลาเดียวกัน  ก็คงคล้ายๆ กับการที่ผู้หญิงมีรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า เต็มบ้านนั่นแหละ และรถมอเตอร์ไซด์ในฝัน อันเป็นตำนานที่ยังคงอยู่ นั่นคือ  “ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน” หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า “ฮาร์เลย์”  ล่าสุดได้จัดฉลองครบรอบ 115 ปี ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018 ตั้งแต่วันอังคารที่ 27 มีนาคม – วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561 โดยมีการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซด์รุ่นพิเศษ 9

เสี้ยวนาทีที่แผ่นไม้ขนาดแคบกว่าสายตา ค่อยๆ เคลื่อนตัวช้าๆ เหนือใบหน้า ความมืดคลืบคลานเข้ามาจนปกคลุมทุกพื้นที่ นี่ใช่ไหม วาระสุดท้ายของชีวิต ที่เหลือเพียงกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเก็บกักร่างกาย ก่อนที่ทุกอย่างจะสลาย ทิ้งเพียงชื่อและความทรงจำเอาไว้ อึดอัด หวั่นไหว กระอักกระอ่วนภายใน กลายเป็นคนกลัวที่แคบไปในทันที เพราะที่เรานอนเหยียดกายตรงอยู่นี้คือภายในของโลงศพ และนี่ไม่ใช่การสะเดาะเคราะห์แบบที่เห็นโดยทั่วไป เพราะเป็นการทดลองตาย เพื่อให้รู้จักเสี้ยวหนึ่งของความตาย ก่อนจะกลับไปนึกถึงความตาย ดังที่พระพุทธเจ้าสอนให้เราระลึกถึงความตายอยู่เสมอ พร้อมกับการระลึกถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ด้วยสติ ซึ่งในภาษาธรรมเรียกว่า “มรณานุสติ” ความกลัวบอกเราไม่ให้ประมาท ความกลัวทำให้เราไม่ตัดสินใจทำอะไรที่นำมาซึ่งความเดือดร้อน และ “ความตาย” เป็นสิ่งที่มนุษย์หวาดกลัว และเป็นอีกแนวทางที่จะทำให้คนเราหลีกหนีความชั่ว แม้ตามหลักศาสนาจะบอกกับเราว่า ให้ยอมรับและเข้าใจเรื่องการเกิดแก่เจ็บตาย แต่อย่างไรก็ตาม  คนเราโดยทั่วไป ก็หวาดกลัวต่อความตายอยู่ดี ผู้ฝึกจิตให้เข้าใจเท่านั้น จึงยอมรับได้เต็มปากจริงๆ ว่า ความตายก็คือส่วนหนึ่งของชีวิต ที่เรามองข้ามมันไปเสมอ เพียงเพราะไม่อยากเจอ ทั้งที่รู้ว่าต้องได้เจอกันทุกคน ไม่มีข้อยกเว้นหรืออภิสิทธิ์สำหรับใคร เราหวาดกลัวต่อความตาย แต่เราก็ไม่ได้นึกถึงมันมากนัก

ถ้ามีคนนำเกลือมาเป็นของขวัญให้กับคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร "หาว่าฉันเค็มหรือไง" "นึกว่าฉันไม่มีจะกินใช่ไหม"แต่ก่อนที่จะคิดในแง่ลบ อยากให้พิจารณาคำอธิบายของเกลือนั้นดีๆ หากมันระบุว่าเป็นดอกเกลือ ก็ขอให้รู้ว่า นั่นคือของขวัญชิ้นพิเศษ ที่ไม่ได้หาซื้อหาใช้กันง่ายๆ เกลือเป็นวัตถุดิบคู่ครัวที่อยู่กับมนุษย์มาตั้งแต่อดีตกาล แต่น้อยคนนักที่จะรู้จัก “ดอกเกลือ” ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของเกลือ ซึ่งมีเรื่องราวที่น่าสนใจเหนือกว่าที่คิดไว้มาก ดอกเกลือ คือ ละอองหรือฝ้าที่จะลอยอยู่เหนือน้ำในนาเกลือทะเลในยามเช้า เป็นเกลือที่ไม่ตกผลึกเหมือนเกลือทั่วไป ที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีปริมาณการทำนาเกลือมากที่สุดของประเทศไทย หรือราวๆ 32,000 ไร่ รู้จักดอกเกลือกันเป็นอย่างดี ลักษณะของดอกเกลือจะมีความละเอียดมากกว่าเกลือป่นที่เราคุ้นเคย มีความเค็มน้อยกว่า ชาวนาเกลือทะเล อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี บอกว่า ในการทำนาเกลือแต่ละครั้ง จะได้ผลผลิตดอกเกลือน้อยมาก จึงไม่มีการส่งจำหน่ายเหมือนเกลือทั่วไป ชาวบ้านจะเก็บดอกเกลือไว้ปรุงอาหาร เนื่องจากจะได้รสชาติที่กลมกล่อมกว่า ถ้าจะรู้จักกันดีก็มีกลุ่มเชฟใหญ่ ที่นิยมใช้ดอกเกลือในการปรุงอาหารแทนเกลือโดยทั่วไป นอกจากนั้นชาวนาเกลือยังนิยมมอบดอกเกลือให้บุคคลสำคัญในโอกาสพิเศษต่างๆ เรียกได้ว่า เป็นของล้ำค่า ซึ่งเราอาจจะนึกภาพกันไม่ออก หากใครได้รับเกลือเป็นของขวัญ แต่ไม่รู้ว่าเกลือนั้นเป็นดอกเกลือ หรือไม่รู้จักดอกเกลือ

ที่อุทยานแก่งกระจานไม่ได้มีการจัดโปรโมชั่นอะไร แต่ในหมู่ของนักส่องนกเขาบอกว่า  มาที่นี่แล้วสุดคุ้ม ถึงขนาดที่นักดูนกจากต่างประเทศก็ต้องมุ่งตรงเข้ามา เพราะนอกจะมีความหลากหลายของนกนานาชนิดแล้วจากทั่วทุกภาคของประเทศไทยแล้ว ยังมีนกหายากอยู่หลายชนิด เช่น นกกะลิงเขียดหางหนาม นกเงือก นกสาลิกา นกพญาปากกว้างอกสีเงิน นกจับแมลงหัวเทา เป็นต้น ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของจังหวัดเพชรบุรี ทั้งภูเขาและทะเล  ทำให้มีนกอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งเหล่านกอพยพที่นักดูนกต่างรอคอยในแต่ละปี คำบอกเล่าของ พี่กบ-เกียรติศักดิ์ กล่อมสกุล ประธานชมรมดูนกเพชรบุรี ระบุว่า ภาพของนกในประเทศไทยมีอยู่ราว 1,030 ชนิด ประมาณ 700-800 ชนิด พบที่เพชรบุรี ราว 540 ชนิดอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวได้ว่านกที่พบในทุกๆ ภาค ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว จะไม่คุ้มได้อย่างไร เพราะนี่คือ “เพชรบุรี เมืองหลวงของการดูนก” ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ทำให้ทุกคนรู้จักเพชรบุรีในอีกมิติ ไม่เฉพาะบริเวณแก่งกระจานเท่านั้น เพราะนักดูนกสามารถเข้ามาติดตามเฝ้ารอเจ้านกน้อยกันได้ในหลายๆ

น่าจะเป็นเรื่องที่ฟังแล้วเป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย หากจะปรุงอาหารให้มีความหวานด้วยเกลือ แต่สัมผัสแห่งการรับรู้ของมนุษย์ก็ไม่มีแค่เรื่องรสชาติจากการกินเท่านั้น คนที่คิดจะทำเกลือให้หวาน  เลยต้องนึกกันนานอีกหน่อย [caption id="attachment_13517" align="aligncenter" width="800"] บรรยากาศสบายๆ ริมทะเลบ้านแหลม[/caption] ความหวานของเกลือปรากฏอยู่ทั่วงาน “Art of Salt ให้เขารู้ว่า ก.เกลือ มีดี”” งานเทศกาลที่จังหวัดเพชรบุรีจัดขึ้นมาเป็นครั้งที่ 6 บริเวณชายหาดอำเภอบ้านแหลม แหล่งที่เขาผลิตเกลือกันเยอะๆ นั่นแหละ ต้องบอกว่า นี่คือแหล่งผลิตเกลือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลากยาวมาจากคลองโคน บางตะบูน บ้านแหลม สุดที่หาดเจ้าสำราญ รวมพื้นที่กว่า 32,000 ไร่ อลังการงานเกลือ คิดเป็น 70% ของทั้งประเทศ เฉพาะเกลือสมุทรหรือเกลือทะเลเท่านั้นนะ เกลือสินเธาว์ไม่เกี่ยว [caption id="attachment_13519" align="aligncenter" width="799"] เรือประมงริมชายฝั่งใกล้กับบริเวณการจัดงาน[/caption] แล้วจะทำให้หวานได้อย่างไร ก็ต้องคิดกันไปว่า

บอกตรงๆ ว่า นอกจากไก่เบตงแล้ว แทบจะไม่มีอะไรที่คนทั่วไปนึกออกว่านี่คือที่สุดของเบตง จะมีแต่ความรู้จากตำรา ที่บอกว่านี่คืออำเภอที่ได้ชื่อว่าใต้สุดแดนสยาม ซึ่งไม่ได้อยู่ในนราธิวาสดังที่หลายคนเข้าใจ แต่ก็ต้องบอกกันตรงๆ ว่าเบตงยังมีเรื่องราวสุดเก๋ไก๋ สถานที่ระดับไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้อยู่อีกมากมายนัก เบตงเป็นเมืองเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2441 โดยคำว่า “เบตง” (Betong) มาจากภาษามลายูว่า “BuluhBetong” หมายถึงไม้ไผ่หรือไผ่ตง  มีโครงสร้างทางวัฒนธรรมหลัก 3 ชนชาติ คือ ไทย มุสลิม และจีน เราใช้เวลานั่งรถแหวกแนวเขาน้อยใหญ่มาเป็นเวลาร่วมชั่วโมง เพราะอำเภอเบตงอยู่ห่างจากตัวเมืองยะลากว่า 140 กิโลเมตร ครั้งนี้เราเดินทางด้วยเครื่องบิน ลงที่อำเภอหาดใหญ่ แล้วนั่งรถผ่านปัตตานีและตัวเมืองยะลามาเป็นเวลาราว 3-4 ชั่วโมง ย้อนความทรงจำ กับตู้แดงขนาดยักษ์ ภาพแรกที่เห็นเบตงในเวลาบ่ายคล้อย คือ การสัญจรไปมาของผู้คนที่เป็นไปอย่างคึกคัก ตึกรามบ้านช่องสลับเก่าใหม่สีสันแปลกตา บริเวณหอนาฬิกา เป็นจุดที่มีผู้คนผ่านไปผ่านมาไม่ขาดสาย  มุมหนึ่งของถนนบริเวณหอนาฬิกา

หลังการจัดงานอุ่นไอรักแล้ว ทุกคนคงได้เห็นว่า กระแสของชุดไทยมาแรงยิ่งนัก แม้จะถูกนำมาใช้ในงานพิธีหรือกิจกรรมต่างๆ ตามปกติอยู่แล้ว แต่หลังจากงานนี้กลิ่นของกระแสไทยฟีเวอร์ก็เริ่มมา ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ที่จังหวัดลพบุรีก็มีการจัดงาน งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งแม้ว่าจะจัดขึ้นเพียงไม่กี่วัน แต่ประชาชนในพื้นที่พร้อมใจกันแต่งชุดไทยเข้ามาร่วมงานกันแทบทุกคน มาถึงกระแสล่าสุด ที่อาจจะเรียกว่ามาแรงแซงทุกกระแส อย่างละครบุพเพสันนิวาส ซึ่งทำให้คนไทยหันมาสนใจประวัติศาสตร์ และหันมาแต่งกายชุดไทยเพิ่มขึ้น เฉพาะกระแสงานอุ่นไอรักกับออเจ้า ทำให้ร้านเช่าชุดไทยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามียอดเติบโตถึง 3-4 เท่า เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหลักๆ ของละครเรื่องนี้ แทบทุกอย่างที่ปรากฏในละครบุพเพสันนิวาส ล้วนมีจริงในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม วิถีความเป็นอยู่ การแต่งกาย ความเชื่อ รวมทั้งตัวละครแทบทุกตัว ยกเว้นแม่หญิงการะเกดเท่านั้นที่เป็นตัวละครในจินตนาการของผู้เขียน “รอมแพง” และในปัจจุบัน เมื่อละครเรื่องไหนออนแอร์ แล้วสร้างกระแสให้กับคนในสังคม สิ่งที่จะตามมาอีกอย่าง นอกจากคำพูดคำจา ชื่อ หรือนิสัยของตัวละครแล้ว ยังมีอานิสงค์ทางด้านท่องเที่ยว ในรูปแบบตามรอยสถานที่ถ่ายทำในละคร ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ โลเคชั่นในการถ่ายทำละครบุพเพสันนิวาสมีอยู่หลายแห่ง แต่ที่กลายเป็นเส้นทางยอดนิยม คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองมรดกโลกที่มีความงดงามทางประวัติศาสตร์

อากาศร้อนระอุในตอนบ่าย แทบจะเผาไหม้อวัยวะภายในให้หลอมเป็นหนึ่งเดียว แม้จะยืนนิ่งๆ แต่หยาดเหงื่อก็หลั่งชโลมทั่วกาย จะขยับหนีไปไหน ก็เสียจุดยืนในทันที     เรายืนเกาะรั้ว บริเวณลานพิธีลุยไฟ ในงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี ท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด ผู้คนที่แออัด  ได้แต่อิจฉาคนในอัฒจันทร์ใต้หลังคาฝั่งตรงกันข้าม และได้แต่ยืนมอง บรรดาช่างภาพหนุ่มที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเก็บภาพภายในลานพิธีได้ ขณะที่สตรีห้ามเข้าลานพิธีโดยเด็ดขาด     นานราวกว่าชั่วโมง ที่ผู้คนถูกตรึงไว้ใต้เปลวแดด ไม่มีคำบ่น ไม่มีคำตัดพ้อ มีแต่ลมหายใจที่รอพิธีสำคัญที่จะเกิดขึ้นตรงหน้า กลุ่มผู้ดูแลกองไฟ เลี้ยงถ่านและเปลวเพลิงไว้ตั้งแต่เก้าโมงเช้า ซึ่งเราได้ผ่านการชมพิธีลุยน้ำมาแล้ว ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง เพราะแม้จะว่ายน้ำเป็นหรือไม่เป็น ผู้แบกเกี้ยวซึ่งมีองค์พระประทับอยู่ ไม่มีวันจะจมน้ำ ทั้งคนทั้งพระ     เสียงโฆษกประกาศถึงเวลาสำคัญ พิธีกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ผู้ดูแลกองไฟ พัดโหมปลุกความร้อนแรงขึ้นมา ขบวนเกี้ยวองค์พระกว่า 20 องค์ ซึ่งมีทั้งเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เจ้าแม่กวนอิม หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และองค์พระจำลองอื่น ที่ทยอยกันเข้ามา เดินวนรอบกองไฟ แนบแนวรั้วให้ผู้คนได้สัมผัสถึงบารมี

ความสุขของการเดินทาง เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง ไปจนถึงการเดินทางสิ้นสุดลง และยังคงอานุภาพอีกยาวนานภายใต้สิ่งที่เรียกว่าความทรงจำ แล้วอะไรบ้าง ที่จะอยู่ในความทรงจำจากการเดินทางของคนเรา อาหาร สถานที่ ความเป็นมิตรของเจ้าบ้าน หรือ คนข้างๆ   จะมีสักครั้งไหม ที่เราจะจดจำใครอีกคนหนึ่ง เพราะการเดินทางท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ ล้วนมีองค์ประกอบต่างๆ นานา ความสะดวกสบายในการเดินทาง อาหารอร่อย ที่พักสะอาดปลอดภัย สถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม สภาพอากาศที่เอื้ออำนวย แต่ผู้ที่จะทำให้เรื่องราวเหล่านั้นกลมกล่อม ไม่ว่าสถานการณ์จะบวกลบ ก็ตลบจนเข้าที่  เขาคือ “มัคคุเทศก์” หรือ “ไกด์” ผู้ที่น้อยครั้ง จะได้รับการบันทึกไว้ในความทรงจำ และอาจจะถูกมองเมินตั้งแต่พบหน้า แต่ไม่ใช่สำหรับชายคนนี้ ไกด์ผู้ซึ่งอยู่ในความทรงจำของนักท่องเที่ยว และเป็นไกด์ที่ถูกเรียกร้องให้กลับมานำทริปในโอกาสต่อไปอยู่เสมอ [caption id="attachment_12883" align="aligncenter" width="800"] วัดเขากง นราธิวาส[/caption] ใช่แล้ว “ชายระวีร์” เขาคือไกด์ที่ลูกค้าเลือก ไม่ใช่ไกด์ที่บริษัททัวร์เลือก… “สวัสดีครับ ผมเชื่อว่าทุกท่านคงเคยเดินทางมามาก

“จะมาเที่ยวอะไร ปัตตานีมีอะไรให้เที่ยว” เพื่อนในพื้นที่ตั้งคำถาม นั่นน่ะสินะ… คนในพื้นที่ยังบอกอย่างนั้น แล้วเราจะว่ายังไง นอกจากการเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อย่างมัสยิสกลางอันงดงาม มัสยิดกรือเซะโบราณสถานที่ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวอันเป็นที่เคารพและศรัทธา นอกจากนั้นก็ยังนึกไม่ออกว่า มีอะไรน่าเที่ยว ที่ๆ ได้เปิดหูเปิดตา ตามประสานักท่องเที่ยวผู้มีอารมณ์ซุกซนในใจอย่างเรา [caption id="attachment_13110" align="aligncenter" width="799"] สีสันของตึกรามบ้านช่องในเมืองปัตตานี[/caption] ในความไม่มีอะไร มันต้องมีอะไรสักอย่าง เมืองชายทะเลอันอุดมสมบูรณ์ มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ พร้อมด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำไมมันจะไม่มีอะไรให้เที่ยวบ้างเลยหรือ หรือคำถามจากเพื่อน เป็นแค่เพียงการประชดประชัน ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อได้ลงมายังพื้นที่จริงแล้วพบว่า ปัตตานี มีมุมมองใหม่ๆ ให้ชื่นใจชุ่มตาอยู่นะ นึกไปนึกมา เราก็มายืนขาสั่นอยู่ที่ สะพานลอยฟ้า ที่ว่ากันว่า อีกหนึ่งเส้นทางวัดใจ ใครไม่กลัวความสูง คงไม่เข้าใจ เพื่อนร่วมทางท่านหนึ่งต้องหันหลังกลับ เพียงแค่ขึ้นบันไดมาถึงจุดเริ่มต้น สกายวอล์ค (Sky Walk) ปัตตานี ตั้งอยู่ที่ระหว่างหาดรูสะมีแล