Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

“สำรับแห่งความตาย” ต้องกินแบบไหน คิดได้มาแข่งกัน  

นี่ไม่ใช่อาหารมื้อสุดท้ายของนักโทษประหาร และไม่ใช่งานเลี้ยงครั้งสุดท้ายที่จะหวังคร่าชีวิตศัตรูแบบในหนัง  แต่สำรับแห่งความตาย คือ คุณค่าหนึ่งแห่งการมีชีวิตอยู่ เป็นเมนูที่ต่อยอดมาจากการระลึกถึงความตายตามคำสอน “มรณานุสติ” ของพระพุทธเจ้า

มรณานุสติ  สอนให้ทุกคนระลึกถึงความตาย ที่ไม่ใช่แง่มุมของการสูญเสียและหวาดกลัว แต่พึงระลึกไว้เพื่อความมีสติและไม่ประมาท ระลึกไว้เป็นพื้นฐานว่า ความตายเป็นเรื่องธรรมดาใกล้ตัว ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แล้วตั้งคำถามกับตัวเองว่า ก่อนตายเราจะทำอะไร ยังอยากทำความชั่วร้ายหรือเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจให้กับใครอีกหรือไม่ แล้วจะหันมาทำสิ่งดีๆ เพื่อตัวเองและคนใกล้ชิดบ้างไหม

 

นี่คือหนึ่งในแนวทางการแก้ปัญหาของสังคมของ “สถาบันคิดใหม่” โดยก่อนหน้านี้ได้จัดสร้างร้านกาแฟ Kid Mai Death Awareness Cafe หรือ  “มรณานุสติ” เพื่อเป็นที่สื่อสารให้คนได้ระลึกถึงความตาย

ล่าสุด Kid Mai Death Awareness Cafe จัดแข่งขันการประกอบอาหาร “สำรับแห่งความตาย”  ขึ้นเพื่อปลูกฝังธรรมมะ ผ่านการทำอาหารในหัวข้อมรณานุสติ ที่จะทำให้ผู้สมัครนึกถึงคุณค่าของชีวิตผ่าน เมนูอาหารที่คิดค้นขึ้น และส่งเสริมเรื่องการประกอบอาหาร ให้ผู้สมัครได้แสดงความรู้ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ที่จะนำไปใช้ต่อยอดความรู้ในอนาคต

 

แนวคิดในการประกวดคือ “สำรับแห่งความตาย” ผู้สมัครจึงต้องไปศึกษาเรื่องราวมรณานุสติ เพื่อมาสร้างสรรค์เป็นอาหาร เครื่องดื่ม และนำเสนอให้เห็นถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่  ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 160,000 บาท เปิดรับสมัครตั้งแต่ 30 มีนาคม – 30 เมษายนนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Facebook : Kid Mai Death Awareness Café และ www.kid-mai.com

โดยภายในงานแถลงข่าว ณ   KID MAI DEATH AWARENESS CAFÉ หรือ “มรณานุสติคาเฟ่” ซอยอารีย์ 1 มีบรรดาเซเลบเข้าร่วม พร้อมโชว์ฝีมือและไอเดีย “สำรับแห่งความตาย” ทั้ง “หนูสิ สิริรัตน เรืองศรี” มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2010 คุณเชาว์และคุณปาร์ค จากวง Cocktail และ “ครูพี่ป๊อบ ณัฐพงศ์ นำสิริกุล”

 

ยกตัวอย่าง เมนู”ชีวิตชีวา” โดย หนูสิ แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ “บริสุทธิ์ จุตติ” โดยเชาว์และปาร์ควง Cocktail นำน้ำมะพร้าวบริสุทธิ์  มาผสมกับน้ำกระเจี๊ยบซึ่งเป็นตัวแทนแห่งสายเลือด  เป็นต้น

 

บรรยากาศเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ เพราะการจัดประกวดในครั้งนี้ นับเป็นการต่อยอดผลงานวิจัยที่มุ่งเน้นในการช่วยแก้ปัญหาทางสังคมด้วยการนำพุทธปรัชญามาสร้างวาทกรรม เพื่อใช้เป็นเครื่องมือที่เหมาะกับสังคม 4.0 เพื่อลดละความโลภ โกรธ เร่งทำความดีที่มีประโยชน์ต่อตัวเองและสังคม

แค่มีฝีมือยังไม่พอ แค่มีไอเดียก็ยังไม่พอ เพราะแต่ละเมนูจะต้องสื่อสารถึง “มรณานุสติ” ออกมาให้ได้ การจะสื่อสารออกมาได้ ก็ต้องศึกษาให้เข้าใจ เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ หากมีโอกาสจะไม่พลาดไปชมแน่ๆ

 

 

 

Post a comment

five × 2 =