Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

meetMARKET

กว่า 10 ปีจากการสร้างสรรค์ในเส้นทาง “สามพรานโมเดล” แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า โลกเราดีขึ้นได้ด้วยสังคมสุขใจ พลังเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ ที่ดีต่อเรา ดีต่อโลก สร้างความเข้มแข็งทั้งกายใจให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งขยายภาพ “เศรษฐกิจสีเขียว” ให้ชัดเจน ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังเป็นความหวังของโลกในวันนี้และในอนาคต หากเดินทางไปเที่ยวหรือผ่านไปสวนสามพราน ในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ อาจจะเคยแวะชม ชิม ช้อป กันที่ “ตลาดสุขใจ” ตลาดน่ารัก ๆ รวมของกินของใช้จากเกษตรอินทรีย์ที่ดีต่อใจ โดยแต่ละปีก็จะมีการจัดงานใหญ่ เพื่อแสดงพลังเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์จากทั่วประเทศ จึงเป็นงานที่หลายคนเฝ้ารอ เพราะจะมีของดีที่มั่นใจได้มาให้เราได้เลือกสรร ถือเป็นอีกงานที่คนรักสุขภาพ รักธรรมชาติ รักสังคม รักสิ่งแวดล้อม ได้มาพบเจอกัน หลังจากโควิด 19 ผ่านไป ความสุขที่หลายคนรอคอยก็กลับมาอีกครั้ง กับ “งานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 8”  ซึ่งเป็นการรวมพลังของ มูลนิธิสังคมสุขใจ

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) สานต่อโครงการ “ส้มปลอดภัย คนไทยยิ้มได้ ปีที่ 9” ขยายจำนวนกลุ่มเกษตรกรที่ร่วมโครงการลดใช้สารเคมี  ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 20,000 ไร่ พร้อมตรวจเข้มตลอดห่วงโซ่  ตั้งแต่แปลงปลูกถึงมือผู้บริโภค สร้างผลตอบรับดีต่อเนื่อง คาดทั้งปี 2565  รับซื้อกว่า 4,500 ตัน สร้างรายได้มั่นคงให้เกษตรกรไทย นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ส้มเป็นผลไม้ยอดนิยมในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะส้มที่ปลูกในประเทศไทยผ่านโครงการ “ส้มปลอดภัย คนไทยยิ้มได้” ที่แม็คโคร ได้ร่วมทำงานกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนสถาบันการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้  พัฒนาเกษตรกรให้ยกระดับมาตรฐานการเพาะปลูกเพื่อผลผลิตที่ปลอดภัย

จากกระแสความตื่นตัวด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับพันธกิจหลักของยูนิลีเวอร์ ในฐานะผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลก ที่ไม่หยุดพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยล่าสุด ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นประเทศแรกในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล้างจาน “ซันไลต์ เลมอน เทอร์โบ” สูตรใหม่ทั้งสะอาดและรักษ์โลก โดยยูนิลีเวอร์ให้ความสำคัญกับประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ และแบรนด์ซันไลต์เป็นผลิตภัณฑ์ล้างจานยอดนิยมอันดับ 11 อยู่ในประเทศไทยมากว่า 90 ปี โดยซันไลต์สูตรใหม่นี้ ได้ปฏิวัติผลิตภัณฑ์ล้างจาน สามารถขจัดคราบฝังแน่นได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่า2 ด้วยเอนไซม์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ พร้อมจับมือโลตัสและแม็คโครผู้ประกอบการค้าปลีกและค้าส่งชั้นนำ ร่วมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ พร้อมแคมเปญ “รักสะอาด รักษ์โลก” เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้บริโภคชาวไทยตื่นตัวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม นางสาววรพักตร์ บรรเลงจิต รองประธานกรรมการบริหารการตลาดผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์และสำรวจความเห็นผู้บริโภค พบว่าคราบฝังแน่นเป็นหนึ่งในคราบที่ทำความสะอาดยากที่สุดในการล้างจาน ทำให้ซันไลต์คิดค้นผลิตภัณฑ์ล้างจานสูตรใหม่ “ซันไลต์ เลมอน

“ตลาดซาวไฮ่” แหล่งรวมคนมีใจแบบฉบับบ้านไร่อุทัยธานี เป็นตลาดที่ชาวบ้านทุกคนมีส่วนร่วม ตั้งใจนำเสนอวิถีชีวิตแบบเกษตรพื้นบ้าน อาหารท้องถิ่น พืชผักปลอดสารพิษ แหล่งรวมของกินของใช้ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเข้าสู่ตัวตลาด จะได้ยินเสียงดนตรีที่ไพเราะก้องกังวาน ผลงานจากศิลปิน "ซุมข้าวแลง" ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศแห่งความผ่อนคลายภายใต้ร่มไม้ครึ้ม ชาวบ้านส่วนใหญ่พร้อมใจกันใช้ภาชนะจากวัสดุธรรมชาติ พร้อมนำเสนอผัก ผลไม้ ผลิตผลจากชุมชน วางขายกันแบบเล็ก ๆ น้อย สบาย ๆ ตามผลผลิตที่มีในสวนในไร่ รวมทั้งเมนูจากวัตถุดิบปลอดสารพิษ จากผลผลิตจากในชุมชน อาทิ ทอดมันหัวปลี ที่ใช้กาบของหัวปลีมาเป็นภาชนะ ดูแล้วน่ารัก น่าซื้อหา แถมรสชาติยังโดนใจ เมนูก๋วยเตี๋ยวผักกูด ที่นำวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างผักกูดมาผสมผสานเป็นเมนูอร่อย หรือจะเป็นข้าวยำสมุนไพร ที่ครบเครื่องด้วยสมุนไพรปลอดสารพิษนานาชนิด เป็นต้น [gallery columns="2" size="full" ids="28829,28828"] ด้านของใช้ก็มีผ้าย้อมสีธรรมชาติ ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง พร้อมทั้งผ้าทอบ้านไร่อันสวยงาม ตลาดมีขนาดใหญ่กำลังดี มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งพักท่ามกลางความร่มรื่น

ย้อนไปราว 5 ปี คำว่า “อีสปอร์ต” ได้ฉายภาพชัดในเมืองไทยให้เห็นว่า “นักเล่นเกม” ไม่ใช่แค่ “เด็กติดเกม”  ปัจจุบันมีผู้เล่นเกมระดับมืออาชีพทั่วโลก ในประเทศไทยเองก็มีทีมเกมเมอร์มือโปรเป็น 100 ทีม ช่องทางในการเล่นเกมอาศัยฮาร์ดแวร์หลัก ๆ คือ กลุ่มพีซีและโน๊ตบุ้ค กลุ่มเล่นเกมผ่านสมาร์ทโฟน และเกมคอนโซล แม้ว่า Mobile Game จะเป็นกลุ่มหลักในตลาดที่ขับเคลื่อนภาพรวมของซอฟแวร์เกม แต่ในกลุ่มแรกก็มีบทบาทอย่างมาก ต่างกันเพียงข้อจำกัดด้านการพกพาที่ทำให้มีสัดส่วนน้อยกว่าเท่านั้น และนี่คือเรื่องราวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของตลาดอีสปอร์ต และทิศทางต่อจากนี้ โดยแบรนด์แถวหน้าด้านนวัตกรรมคอมพิวเตอร์และผลิตภัณฑ์เกมมิ่งอย่าง “เอเซอร์” ซึ่งมีซับแบรนด์ “Predator” ที่เหล่าเกมเมอร์รู้จักกันดี นอกจากนั้นเอเซอร์มีการสนับสนุนอีสปอร์ตตั้งแต่ยังไม่มีสมาคม และเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการจัดตั้งสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย อีกทั้งที่ผ่านมายังได้สนับสนุนทีมอีสปอร์ต 1-2 ทีมในทุก ๆ ปี แต่ละทีมได้สร้างผลงานมาอย่างต่อเนื่อง โควิด-ติดบ้าน ส่งอีสปอร์ต-เกมมิ่งโตสวนกระแส นายนิธิพัทธ์

ผนึกกำลังพุ่งทะยานตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซ สหพัฒน์ดึง ช้อป โกลบอล ร่วมกับ มาเนโกะ ชูแพลตฟอร์มสุดล้ำ เจาะ Insight ลูกค้า Data-Driven จากไลฟ์สด โพสต์ขายผ่านโซเชียลมีเดียทั่วประเทศ จากการเติบโตของตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซที่เริ่มมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เหล่าธุรกิจยักษ์ใหญ่ต่างเล็งเห็นโอกาส ในการสร้างรายได้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิตอล ล่าสุด  บริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือสหพัฒน์ ร่วมกับ มาเนโกะ แพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซครบวงจรในเครือ บริษัท จันวาณิชย์ จำกัด  จัดมหกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านระบบ ไลฟ์สด และโพสต์ขาย ด้วยฟีเจอร์ Marketing Technology ฉลาดล้ำ ของมาเนโกะ ผ่านช่องทางออนไลน์ของ ช้อป โกลบอล

คอนเซ็ปต์ “ถูก ครบ ดี ส่งเร็ว ติดตั้งฟรี ผ่อนง่าย” เป็นการสื่อสารที่ตรงจุดและเข้าใจง่าย เหมาะกับกลุ่มลูกค้าทั่วไป หรือกลุ่มแมส ที่มองหาความคุ้มค่า พร้อมตัวช่วยในสภาวะเศรษฐกิจเยี่ยงนี้ สีแดงแรงฤทธิ์ กับตัวอักษรบิ๊ก ๆ ของโลโก้ go!Power แสดงให้เห็นถึงความมีพลัง  ชัดเจน เป็นกันเอง สะดุดตา สร้างการจดจำ  แถมด้วยคอนเซ็ปต์ “ผ่อนง่าย” ตัวใหญ่ ๆ  เป็นการสื่อสารตรง ๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน “โก! เพาเวอร์” (go!Power) เป็นร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มต้นเมื่อเดือนเมษายน 2565 เป็นแบรนด์ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล ซึ่งเดิมทีมีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในศูนย์การค้าแบรนด์ “เพาเวอร์บาย” กว่า 100

วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนไทยได้ขยายตัวขึ้นจนกลายเป็น “ไลฟ์สไตล์” ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการชงดื่มที่บ้าน ที่ทำงาน นัดพบปะสังสรรค์ การออกเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันพบว่า คนไทยมองหาร้านกาแฟเช่นเดียวกับการมองหาที่พักและร้านอาหาร และกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อออกทริป แต่ด้วยโอกาสอันหอมกรุ่นของตลาดกาแฟในประเทศไทย ส่งผลให้เกิดร้านกาแฟขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าชุมชนไหนก็มีร้านกาแฟเปิดให้บริการ แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตลอดระยะสองปีที่ผ่านมา ตลาดร้านกาแฟก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับธุรกิจบริการอื่น ๆ ร้านขนาดเล็ก-กลาง มีการปิดตัวไปมาก สาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากการท่องเที่ยว และวิถีการดื่มกาแฟของคนไทยยังไม่เปลี่ยนไปไหน นายมีชัย อมรพัฒนกุล นายกสมาคมบาริสต้าไทย เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19  การบริโภคกาแฟในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการเดินทางมีอัตราที่ลดลง แต่พฤติกรรมของคนยังคงเลือกซื้อกาแฟเพื่อดื่มที่บ้านแทนการออกไปดื่มที่ร้าน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดร้านกาแฟ โดยประมาณการณ์ค่า หากบรรยากาศการท่องเที่ยวกลับคืนสู่ปกติ ตลาดร้านกาแฟยังสามารถขยายตัวได้ถึง 3 เท่า อีกทั้งยังมีกาแฟที่หลากหลายรูปแบบและระดับราคาเข้ามามากขึ้น อาทิ กาแฟแก้วละ 800 บาท "ในภาวะปกติธุรกิจกาแฟและร้านกาแฟเติบโตอยู่ที่ 3-5% มูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ

ในยุคที่มีกาแฟแก้วละหลายสิบจนไปถึงหลักร้อย อยากกินเบเกอรี่ดี ๆ สักชิ้นต้องจ่ายแพงเป็นร้อย “ความคุ้มค่า” จึงเป็นช่องว่างทางการตลาด ที่ก็ต้องอาศัยความ “จริงใจ” มากกว่าการแสวงหาเพียง “กำไร” จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แห่งความสำเร็จของร้านขนมปัง “Daily Bread” ย่านปาตอง จ.ภูเก็ต ทำเลที่ใครหลายคนเคยคิดว่า อะไร ๆ ก็แพง แต่วันนี้คนภูเก็ต ทั้งชาวบ้าน คนทำงาน หรือ นักท่องเที่ยว สามารถเอื้อมถึงเบเกอรี่คุณภาพดีระดับโรงแรม ในราคาเริ่มต้น 10-45 บาทเท่านั้น ใครที่ไปเดินเล่นย่านป่าตอง บนถนนนาใน มีร้านขนมปังเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า “Daily Bread” (เดลี่ เบรด) เป็นแบรนด์ของคนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต เจ้าของเดียวกับ

ตลาดไท ตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์อาหารครบวงจรที่สำคัญของประเทศ วันนี้ ประกาศความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าโครงการ “ตลาดไทช่วยไทย สู้ภัย COVID-19” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนไทยให้ก้าวผ่านสถานการณ์อันยากลำบากจากการระบาดของ COVID-19 นี้ไปให้ได้ โดยภารกิจสำคัญคือการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าทั้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากเกษตรกรทั่วประเทศ และอาหารสดอาหารแห้ง ส่งตรงไปถึงมือผู้ซื้อถึงหน้าบ้าน ให้ได้เลือกซื้อสินค้าตามที่ต้องการ นอกจากนั้น ยังเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่ต้องการหารายได้ สามารถเข้าร่วมเป็นหนึ่งในรถเร่หรือรถพุ่มพวงของตลาดไทได้อีกด้วย นายโชคชัย คลศรีชัย รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) กล่าวว่า “ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยและประชาชนคนไทยทั้งประเทศกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่จากการระบาดของ COVID-19 ตลาดไทขอเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมด้วยช่วยกัน ทำในสิ่งที่ทำได้ เพื่อช่วยกันนำพาประเทศไทยให้ผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปให้ได้ โดยใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของตลาดไทในฐานะตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์อาหารครบวงจรที่สำคัญของประเทศ ต่อยอดระบบนิเวศทางการค้าที่เอื้อโอกาสและอำนวยความสะดวกตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อช่วยเหลือทั้งเกษตรกรผู้ผลิต พ่อค้าแม่ค้า และผู้บริโภค” โดยปกติ จะมีผู้ประกอบการรถเร่ที่หมุนเวียนเข้ามาซื้อสินค้าจากตลาดไท ทั้งผัก ผลไม้ และอาหารสด จำนวนประมาณ 500 คันต่อวัน เพื่อนำออกไปวิ่งรถขายให้ประชาชนตามที่ต่างๆ ซึ่งในช่วงสถานการณ์นี้จะเน้นกระจายและจัดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด โดยผสมสินค้าทั้งอาหารสดอาหารแห้งที่หลากหลายเพื่อให้มีความครบครันทางโภชนาการ รวมถึงมีสินค้าที่จำเป็นสำหรับสถานการณ์แบบนี้

กูร์เมต์ มาร์เก็ต ชวนคนไทย ช้อปช่วยไทย ในงาน “คัดไทย มาร์เก็ต” ตลาดนัดแห่งแรงบันดาลใจของการคัดสรรสินค้าและผลผลิตที่ดีที่สุดของไทย คัดความอร่อย ของดี ของดัง ของขึ้นชื่อ จากท้องถิ่นทั่วไทย คัดภูมิปัญญาชาวบ้าน ช่วยสร้างอาชีพให้ชุมชน คัดผลผลิตสดๆ ส่งตรงจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุด การันตีความสด สะอาด ปลอดภัย จากไร่ออร์แกนิคที่ได้มาตรฐาน   เพื่อตอกย้ำความเป็นองค์กรเอกชนที่มุ่งมั่นเดินหน้าส่งเสริม สนับสนุน และช่วยยกระดับผลผลิตและผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรไทยมาอย่างต่อเนื่อง กูร์เมต์ มาร์เก็ต พรีเมี่ยมซูเปอร์มาร์เก็ตในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ขานรับนโยบายภาครัฐอีกครั้ง พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชน ชวนคนไทย ช้อปช่วยไทย จัดงาน “คัดไทย มาร์เก็ต” ตลาดนัดแห่งแรงบันดาลใจของการคัดสรรสินค้าและผลผลิตที่ดีที่สุดจากทั่วไทย มาให้เลือกชิม เลือกช้อปมากที่สุด เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และผลักดันสินค้าคุณภาพของเกษตรกรไทยสู่บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT ชี้ทางและสร้างโอกาสให้กับผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมจากฝีมือชนเผ่าและกลุ่มชาติพันธุ์ สู่กลุ่มผู้ที่ต้องการใช้งานคราฟต์ ในชีวิตประจำวัน รวบรวมและนำมาจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย กว่า 55 ร้าน ในงาน “ชีวิตใหม่ ใต้ร่ม พระบารมี ครั้งที่ 2” เริ่ม 8 – 12 สิงหาคม นี้ ที่ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น M ควอเทียร์แกลอรี่ และชั้น G ควอเทียร์ อเวนิว นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า งาน “ชีวิตใหม่ ใต้ร่มพระบารมี”

ลิ้นกับฟันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะกระทบกัน นั่นคือเรื่องที่เราได้ยินกันมานาน สำหรับการครองชีวิตคู่ ซึ่งคนที่ไม่เคยก็คงไม่รู้ ส่วนคนที่อยู่ในจุดนั้น ต่างก็เจอปัญหาที่แตกต่างกัน แต่วันนี้ปัญหาของลิ้นกับฟัน ที่เคยพลาดเคยเผลอเรอ กระทบกระทั่งกันบ้าง กลับลุกลามไปใหญ่ กลายเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นเด็กและสตรี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าใจหายว่า ในบรรดาความรุนแรงในสังคมทั้งหมด ส่วนใหญ่มาจากครอบครัว ครอบครัว เป็นหน่วยของสังคมที่เล็กที่สุด แต่ก็มีความสำคัญมากที่สุด เพราะพลังที่ยิ่งใหญ่ย่อมหลอมรวมมาจากจุดเล็กๆ ครอบครัวของเรา บ้านแต่ละหลัง ก็หมายถึงพลังเล็กๆ ในสังคมที่รวมตัวกัน เมื่อวันที่ปัญหาในครอบครัว กลายเป็นสถิติที่พุ่งสูง จึงต้องได้รับการแก้ไขในหลายมิติ หนึ่งในนั้น คือการขจัดต้นทางแห่งปัญหาด้านเศรษฐกิจ วันนี้เรามีโอกาสได้เข้าร่วมงาน “มหกรรมตลาดนัด สร้างอาชีพให้มั่นคง สังคมไทยไร้ความรุนแรง” โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดขึ้นเพื่อแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมพื้นถิ่น ฝีมือกลุ่มสตรีและครอบครัวทั่วประเทศกว่า 200 ร้านค้า และเชิญภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรง มาออกบูธและจัดแสดงนิทรรศการประเด็นความรุนแรง อีกจำนวน 45 บูธ นอกจากนี้ ยังมีเวทีเสวนาความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงในทุกรูปแบบ

เมื่อพูดถึงเทรนด์สติกเกอร์ที่เป็นที่เป็นกระแสนิยมในโลกปัจจุบัน ไม่เพียงแค่สติกเกอร์ที่ดูน่ารักอย่างเดียว แต่ต้องเป็นสติกเกอร์ที่สื่อสารง่าย และแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ชัดเจน ขณะที่เทรนด์ที่กำลังมาแรงใน “ตลาดไทย” ไม่ว่าจะสติกเกอร์ตามเทรนด์จากละครชื่อดังแล้ว “สติกเกอร์ชื่อ” กำลังฮิตอย่างมาก ด้วยจุดเด่นของ “สติกเกอร์ชื่อ” คือสามารถระบุตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจนใช้แทนตัวเองในบทสนทนาได้เมื่อสติกเกอร์แทนตัวเองได้ก็ทำให้รู้สึกถึงความใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้น

ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก เนรมิตร้านคาร์นิวัล สยามสแควร์ ซอย 1 ให้สัมผัสประสบการณ์ที่ลอยได้แบบเหนือใคร ผ่านแรงบันดาลใจจากโครงสร้าง AIR Unit ในรองเท้า Nike Air Max 270 รองเท้ารุ่นแรกในตระกูลแอร์แมกซ์ ซึ่งเป็นรองเท้าไลฟ์สไตล์โดยเฉพาะเพื่อการสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน ด้วยประสบการณ์สุดพิเศษภายใต้แนวคิด Maxperience ให้ลอยไปบนอากาศแบบเต็มแมกซ์จากการสร้างสรรค์โดยสอง Pionairs แห่งยุค คือ Apostrophy’s และวง Paradox   “สำหรับกิจกรรมสุดพิเศษนี้ ไนกี้ ได้ร่วมมือกับร้านคาร์นิวัล พร้อมได้รับเกียรติจากสอง Pionairs ที่มีคาแร็คเตอร์เฉพาะตัว โดดเด่น และเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ อย่างทีม Apostrophy’s มาสร้างงาน Interactive installation ผสานกับบทเพลงจากวง