Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

meetFEEL

เด็ก ๆ ที่ปางปูเลาะยังเขินกล้องอยู่เลย นี่คือสิ่งที่เราอาจจะไม่เห็นได้ง่ายนักในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย ที่มักจะคุ้นเคยกับแขกผู้มาเยือน และการเรียนรู้ที่จะผูกมิตรกับคนแปลกหน้าที่ผ่านไปผ่านมาอยู่เสมอ แต่เด็ก ๆ ที่บ้านปางปูเลาะไม่ได้เป็นเช่นนั้น แค่ถือกล้องเดินเข้าไปใกล้ ๆ พวกเขาก็เบือนหน้าหนี บ้างก็ซุกตัวโผเข้าหาแม่ [caption id="attachment_29962" align="aligncenter" width="798"] ถนนสวย ๆ ที่รถขับเข้าไปได้อย่างสะดวกสบาย แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง[/caption] แม้ว่าบ้านปางปูเลาะ จะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองพะเยามากนัก แต่ด้วยระยะทางคดเคี้ยวไปตามถนนสายเล็ก ๆ ไต่ขึ้นดอยสูงราว 16 กิโลเมตร ก็นับเป็นสถานที่อันซ่อนเร้นอยู่พอสมควร สองข้างทางผ่านสวนลิ้นจี่ขนาดใหญ่ เริ่มขึ้นดอยก็เห็นไร่กาแฟ สองสิ่งนี้คือผลผลิตทางการเกษตรหลัก ๆ ของชาวบ้านปางปูเลาะ ได้ยินว่าช่วงเมษายน-พฤษภาคม จะมองเห็นทุ่งลิ้นจี่สีแดงเป็นวงกว้าง ฟังแล้วได้แต่นึกภาพตาม ชาวบ้านที่นี่คือชาวเมี่ยนหรือชาวเย้าจากจีนได้อพยพมาอยู่ในเมืองไทยกว่า 100 ปีมาแล้ว ดั้งเดิมหมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่า “บ้านปู่ล่อ” ตามชื่อพ่อค้าชาวจีน ก่อนที่จะมาอาศัยในบ้านปางปูเลาะ ชาวไทยภูเขาเผ่าเมี่ยนกลุ่มนี้

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สร้างความสุขและความหวังสู่หัวใจคนไทยรับศักราชใหม่ ด้วยกิจกรรม “Amazing Thailand Countdown 2023” ชูคอนเซปต์ “รุ่งอรุณแห่งศรัทธา ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2566" ณ ท่าวัดโพธิ์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  ประกาศความงดงามผ่านแลนด์มาร์กสำคัญ “พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร”   นายยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 ททท. ได้กำหนดจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2023 ณ ท่าวัดโพธิ์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ภายใต้แนวคิด “รุ่งอรุณแห่งศรัทธา

กาญจนบุรีได้ชื่อว่า “แดนสวรรค์ตะวันตก” จากความพรั่งพร้อมทางธรรมชาติ มีป่าเขาลำเนาไพรอันอุดมสมบูรณ์ เป็นเมืองแห่งสายน้ำสะท้อนความผูกพันกับวิถีชีวิตของผู้คน ทั้งยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ หากได้มาสัมผัสแล้วจะไม่แปลกใจเลยว่า จะมาเยือนเมืองกาญจน์กี่ครั้งก็ยังตกหลุมรักกาญจน์อยู่เสมอ ทริปนี้เป็นการสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ระหว่างวันที่ 16-20 พฤศจิกายน 2565 ออกไปตามล่าความสุขในดินแดนสวรรค์ “กาญจน์” ได้เลย รักกาญจน์วิวใหม่ สกายวอล์กกาญจนบุรี ใครที่กลัวความสูงเหมาะมากสำหรับการมาเยือนสกายวอล์กเมืองกาญ เพราะเป็นสะพานลอยฟ้าที่ไม่สูงมากนัก ตั้งอยู่ในทำเลเลียบแม่น้ำ  ตัวโครงสร้างและทางเดินกระจกนิรภัยรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่ง ไม่ได้โล่งโปร่งแบบมองลงไปแล้วใจหาย แต่ถ้ายังกลัวก็แนะนำง่าย ๆ ว่าอย่ามองลงไปด้านล่าง มีมือคนข้าง ๆ ก็ให้จับไว้ เดินคนเดียวก็เกาะราวสะพานไป  ทอดสายตาอันยาวไกล  จะเห็นวิวสวย ๆ โปร่งโล่งสบาย [gallery columns="2" size="full" ids="29759,29760"] “สกายวอล์กกาญจนบุรี” เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2565  ริมท่าน้ำในตัวเมืองกาญ เป็นสะพานสูง

สะพานไม้ที่ทอดเป็นทางยาวข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เชื่อมโยงวิถีของคนทั้งสองฝั่งเข้าไว้ด้วยกัน เป็นวิถีไทยมอญที่กลมกลืนเป็นเอกลักษณ์ และจะคึกคักขึ้นในช่วงวันหยุด  เหล่าผู้มาเยือนต่างมุ่งหน้าเพื่อมาสัมผัสบรรยากาศแห่งศรัทธาที่สะท้อนออกมาจากสะพานแห่งนี้ สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานแห่งน้ำใจจากความร่วมมือของชาวบ้านและหน่วยงานต่าง ๆ  ย้อนไปเมื่อปี 2529 สะพานมอญถูกสร้างขึ้นจากดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ใช้เวลาก่อสร้างถึง 2 ปี โดยอาศัยแรงงานชาวมอญในท้องถิ่น [caption id="attachment_29716" align="aligncenter" width="799"] ความคึกคักบนสะพานมอญในช่วงวันหยุดยาว[/caption] จนเมื่อปี 2556 ข่าวของสะพานมอญที่ขาดเป็นสองท่อนเนื่องจากเหตุน้ำป่าไหลหลาก  ทหารช่างจากกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ค่ายสุรสีห์ ร่วมกับชาวบ้านอำเภอสังขละบุรีได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันซ่อมแซม จนสะพานแห่งนี้สามารถเปิดใช้ได้ในวันที่ 18 ตุลาคม 2557 นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้ [caption id="attachment_29717" align="aligncenter" width="800"] ท่าเรือจอดรับนักท่องเที่ยว[/caption] ปัจจุบันสะพานมอญเป็นจุดท่องเที่ยวที่คึกคักตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็น เพราะเป็นจุดชมวิวที่ทุกคนไม่อยากพลาด

399 โค้งไต่ระดับเลียบภูผา เป็นเส้นทางที่ต้องอาศัยความชำนาญในการขับรถอยู่พอสมควร ชาวบ้านบอกในช่วงกลางคืน จะไม่มีการสัญจรไปมา ด้วยสภาพถนนเลียบแนวเขาสูงที่มีโค้งสลับซับซ้อนจนอาจจะเสี่ยงอันตราย และอาจจะพบกับกับเหล่าช้างป่าขาใหญ่ที่จะออกมาหาอาหาร  เมื่อมาถึงบ้านอีต่อง มองเห็นเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขา มองไปทางไหนก็มีแต่ผืนป่า แทบไม่น่าเชื่อว่าสมัยก่อน ตอนเหมืองแร่มีคนงานอาศัยอยู่มาก ที่นี่เคยมีโรงหนังถึงสองแห่ง หมู่บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อีกแหล่งเหมืองแร่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ปัจจุบันยังคงหลงเหลือหลักฐานทางประวัติศาสตร์เป็นอุโมงค์เหมืองแร่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม ด้วยความสูงเหนือระดับน้ำทะเลราว 1,000 เมตร ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีอากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงค่ำ สายอีโคชอบมาก เพราะเป็นหมู่บ้านในหุบเขา อยู่กลางป่ากลางดง มีเส้นทางเดินขึ้นเขาชมธรรมชาติท้าท้ายแข้งขา ที่ถูกใจถูกจริตผู้พิชิตมาก ๆ ก็เห็นจะเป็นเขาช้างเผือก ซึ่งต้องมาเริ่มต้นกันที่หมู่บ้านแห่งนี้ [caption id="attachment_29690" align="aligncenter" width="800"] ห้องพักแบบโฮมสเตย์เรียบง่าย ที่ "กลิ่นไอหมอก"[/caption] [gallery columns="2" size="full"

ความสวยงามอลังการของอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ หรือเดิมเรียกว่าเขื่อนเขาแหลม ภาพของแผ่นน้ำและผืนฟ้าที่โอบเรือลำน้อยที่ค่อย ๆ ล่องออกไป ทิวเขาที่เรียงรายเป็นฉากหลังสวยงาม หลายคนรู้จักที่เนื่องจากมีที่พักและร้านอาหารให้บริการท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล แต่ยังมีอีกมุมอันงดงาม จะว่าลับก็คงไม่ใช่ แต่เพราะหลายคนอาจจะยังไม่เคยไปหรือไม่เคยรู้จัก ต้องอาศัยการเหมาเรือเข้าไปอีกไกล ทำให้บ้านโบอ่อง อาจจะยังอยู่นอกเหนือเส้นทางท่องเที่ยว ทั้งที่อาจจะผ่านไปทองผาภูมิมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง [caption id="attachment_29683" align="aligncenter" width="799"] บ้านท่าแพ จุดลงเรือไปบ้านโบอ่อง[/caption] บ้านโบอ่อง  ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อยู่บนเกาะเล็ก ๆ ภายในอ่างเก็บน้ำ เขื่อนวชิราลงกรณ มีพื้นที่ราว 5,000 ไร่ จากบ้านท่าแพริมอ่างเก็บน้ำ เรือหางยาวจะใช้เวลาราว 45 นาที   [caption id="attachment_29666" align="aligncenter" width="800"] ท่าขึ้นเทียบเรือที่บ้านโบอ่อง[/caption] สภาพภายในหมู่บ้านมีความเงียบสงบ มีชาวบ้านประมาณ 1,200 คนอาศัยอยู่ที่นี่

กาญจนบุรีในอดีตเคยเป็นแหล่งแร่นานาชนิด ภาพของเหมืองแร่ในวันวานยังสะท้อนผ่านเรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังอย่างไม่จบสิ้น มีหลักฐานสำคัญที่ซ่อนความเร้นลับซับซ้อนเอาไว้ เป็นอุโมงค์ที่เจาะลึกเข้าไปใต้ภูเขา เส้นทางสั้นยาวหลายช่วงรวมแล้วมากกว่า 10 ถ้ำ แม้วันนี้ภายในจะเหลือเพียงความว่างเปล่า แต่กลับสะกดทุกความรู้สึกเมื่อได้มาเห็นกับตา เมื่อเข้าจากทางปากถ้ำ ผ่านความมืดเข้าไป แสงสว่างที่ปลายทางอาจพาเราไปยังทางออกที่แตกต่างกัน และอาจจะย้อนภาพคืนและวันที่เหมืองแห่งนี้เคยคึกคักไปด้วยผู้คน เป็นมิติที่สัมผัสได้ด้วยความรู้สึก "อุโมงค์สามมิติ"  หรือ หรือ “อุโมงค์ ดร.ผล กลีบบัว” ผู้ที่เคยสัมปทานเหมืองแร่แห่งนี้ อุโมงค์เหมืองแร่ เป็นส่วนหนึ่งของเหมืองสองท่อ ใน อ.ทองผาภูมิ แหล่งผลิตแร่ตะกั่วใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เส้นทางในอุโมงค์มีหลายช่วง เชื่อมต่อถึงกันอยู่ภายใต้ภูเขาหินปูน [caption id="attachment_29625" align="aligncenter" width="800"] เดินทางออกจากจุดชมวิวเนินสวรรค์[/caption] [caption id="attachment_29626" align="aligncenter" width="799"] จุดแรกเป็นอุโมงค์ระยะสั้น เดินทะลุได้[/caption] [caption id="attachment_29627" align="aligncenter" width="800"] สภาพในอุโมงค์แรกที่แวะชม ยังพอมีแสงสว่าง

เอื้อพันธ์ ศรีสุนทร รางวัล “มิชลินไกด์” 2023 สำหรับร้านอาหารที่ได้ 2 ดาวมิชลิน มี 6 ร้าน (ที่ยังรักษาดาวไว้ได้) และปีนี้ร้านที่ได้ 1 ดาวมิชลินปีแรกมี 5 ร้าน, ดาวมิชลินรักษ์โลก 3 ร้าน มิชลินไกด์ ไทยแลนด์ ประกาศผลรางวัลมิชลิน 2023 สำหรับร้านอาหารที่ได้ 2 ดาวมิชลิน ยังคงมีรายชื่อและจำนวนเท่าเดิม 6 ร้าน (ทุกร้านเป็นร้านที่รักษาสถานะ 2 ดาวมิชลินเอาไว้ได้) ได้แก่ Chef’s Table, Le Normandie, Mezzaluna, R-Haan (อาหาร), Sorn (ศรณ์) และ Sühring (ซูริง)  ปีนี้พิเศษที่เพิ่ม ดาวมิชลินรักษ์โลก หรือ มิชลิน กรีนสตาร์

กระต่ายสาวสุดเซ็กซี่กับลีลาบนซับบอร์ดอันโฉบเฉี่ยว เป็นภาพสะดุดตาเรียกความสนใจให้กับผู้ที่พบเห็น นอกจากคอสเพลย์สุดเก๋แล้ว กระต่ายนักพายคนนี้ยังทำเวลาได้ดีเป็นลำดับต้น ๆ อีกด้วย จากจุดปล่อยตัวที่ “มาแคนน์รีสอร์ท” บริเวณริมแม่น้ำแควใหญ่ ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแควในตัวเมืองกาญจนบุรี มาจนถึงบริเวณลานกิจกรรม “River Kwai SUP Fun Fest 2022” ไม่มีใครละสายตาจากเธอไปได้ และอาจจะเป็นนักพายที่รับรางวัล “ขวัญใจช่างภาพ” ไปโดยปริยาย “แจ็คกี้” เจ้าของร้านแต่งหน้า-ทำผม Jack Factory ในเมืองกาญจนบุรี เธออาจจะใหม่สำหรับวงการ SUP เพราะลองเล่นมาแล้วสามสี่ครั้ง แต่ก็เคยลงแข่งขัน SUP 100 (การแข่งขันระยะทาง 100 กิโลเมตร) มาแล้ว เธอจึงยืนยันได้ว่า กีฬากระดานยืนพาย หรือ SUP เป็นเรื่องที่ทุกคน ทุกเพศ

รายการแข่งขันมวย THAI FIGHT ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ในแวดวงกีฬาในประเทศไทย นอกจากการยกระดับมวยไทยสู่การยอมรับในระดับสากล สามารถดึงดูดผู้คนให้หันมาสนใจในศิลปะการต่อสู่ของมวยไทยแล้ว ยังพลิกสถานการณ์ในวงการสื่อโฆษณาสำหรับรายการมวยทางทีวี ที่เคยตกต่ำมากว่า 30 ปี จากค่าโฆษณาเพียง 7,000-8,000 บาทต่อนาที เพิ่มสูงเป็น 450,000 บาท เปลี่ยนภาพลักษณ์จากสปอนเซอร์หลักที่เคยเป็นสินค้าทางการเกษตร  สู่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็น  ช้าง โออาร์ อีซูซุ  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  ฯลฯ ยกระดับค่าตัวนักมวยจาก 7,000-8,000 บาทสู่หลักล้านต่อไฟท์ พลิกโฉมวงการมวยไทยสู่สากล [caption id="attachment_29487" align="aligncenter" width="379"] นพพร วาทิน[/caption] THAI FIGHT คือ เวทีการแข่งขันมวยไทยภายใต้การบริหารงานของ “นพพร วาทิน” ผู้สร้างตำนานศิลปะการต่อสู้ของมวยไทย และสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับวงการมวยไทยด้วยสถิติผู้ชมในสนามมากกว่า 80,000

หลายคนอาจจะไม่ได้ติดใจในรสชาติของคาเฟอีน แต่อินกับบรรยากาศในการดื่มกาแฟ  ไม่ชอบกินกาแฟเลย แต่ชอบนั่งร้านกาแฟก็เป็นได้ แล้วถ้าชวนไปกินกาแฟหน้าวัด ภาพในจินตนาการของคุณคืออะไร เพราะเป็น "พันธุ์ไทย" จึงใส่ใจเป็นพิเศษกับเรื่องราวของความเป็นไทย ไม่ว่าอดีตกาลผ่านไป หรือความเป็นปัจจุบันร่วมสมัย และนี่คือร้านกาแฟอีกแห่งที่อยากชวนไปสัมผัส ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอีกเมืองที่มีร้านกาแฟหลากหลายสไตล์ แต่ด้วยความเป็นเมืองเก่า ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม จากยูเนสโก กิจกรรมสำคัญเมื่อมาเยือนอยุธยา ก็คือการได้มาสัมผัสกับกลิ่นอายแห่งความรุ่งเรืองทางประวัติศาสตร์ ความงดงามจากสถาปัตยกรรมโบราณาอันทรงคุณค่า ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งจังหวัด หนึ่งในนั้นคือ “วัดราชบูรณะ” ถนนมหาราช ในตัวเมืองอยุธยา ทำเลที่มีคาเฟ่เก๋ ๆ รวมตัวอยู่จำนวนหนึ่ง ล่าสุดกับ “ร้านกาแฟพันธุ์ไทย” สาขาอยุธยา (หน้าวัดราชบูรณะ) อยู่ริมถนนมหาราช เส้นทางการท่องเที่ยวชมความงดงามทางวัฒนธรรมของเมืองไทย เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย สาขาอยุธยา (หน้าวัดราชบูรณะ) (Punthai Café and Restaurant) ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2565

เสน่ห์ของเมืองเก่าอยุธยายังคงตรึงตาตรึงใจ ไม่ว่าจะเดินทางมาครั้งใด ก็ยังชื่นใจมิเคยเสื่อมคลาย จากคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรม ความเชื่อ ความศรัทธา ท่ามกลางวิถีชีวิตของผู้คนอันน่าสนใจ จากสภาพภูมิอากาศในช่วงหน้าฝนของปีนี้ ส่งผลให้หลายพื้นที่ในหลายจังหวัดของประเทศไทย ประสบกับภาวะน้ำท่วม หนึ่งในนั้นคือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่านถึง 3 สาย ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี คนอยุธยาจึงคุ้นชินกับวิถีชีวิตกับสายน้ำ บ้านเรือนริมชายฝั่งส่วนใหญ่มีเรือเป็นของตัวเอง แม้ว่าการสัญจรทางน้ำจะไม่เป็นที่นิยมเหมือนในอดีต แต่เมื่อฝนเทลงมา ชาวอยุธยาจึงต้องเตรียมรับกับสภาพน้ำที่เอ่อล้นอยู่เป็นประจำ สำหรับปีนี้ในตัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีน้ำท่วมหลายแห่ง แต่ยังไม่เป็นอุปสรรคสำหรับสำหรับเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ล่าสุดเมื่อวันที่ 8-9 ตุลาคม 2565 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง พร้อมคณะสื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมเข้าร่วมงาน “อยุธยา Walking Street” บริเวณถนนนเรศวร ตั้งแต่หน้าวัดมหาธาตุ ไปจนถึงวัดราชบูรณะ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่

เคยตกหลุมรักใครตั้งแต่แรกเจอไหม เพียงแค่ได้เห็นหน้าก็เหมือนว่าผูกพันกันมานาน แม้จะเป็นแค่เรื่องราวที่พบเพียงผ่าน แต่การที่ได้เจอกันเพียงช่วงสั้น ๆ ก็สร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน เหมือนกับที่นี่ "ม่อนหมอกตะวัน" ชื่อที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดตัวได้ไม่นาน เพียงแรกพบก็อยากจะใช้เวลาด้วยกันนาน ๆ  เหมือนอยู่ในฝันหวาน ที่ไม่อยากตื่นลืมตา โครงการ “Refresh life …by the way ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ” โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนไปดื่มด่ำท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขา ณ “ม่อนหมอกตะวัน” 1 ใน Unseen New Siries   อ.พบพระ จ.ตาก ชวนกันไปเดินเล่นในสายลมหนาว เคล้าบรรยากาศในอ้อมกอดของขุนเขา รับอรุณด้วยสายหมอกขาวที่เข้ามาหยอกเย้ากันไปจนยามสาย ชื่นใจกับวิถีถิ่นชาวเชาเผ่าม้ง ที่ยังคงเอกลักษณ์อันน่าชื่นชม ม่อนหมอกตะวัน มุมชวนฝันแห่งบ้านป่าหวาย “ม่อนหมอกตะวัน” บ้านป่าหวาย อ.พบพระ

ความเร่งรีบกดดันในแต่ละวัน อาจทำให้คนเราสะสมความเครียดไว้โดยไม่รู้ตัว ทางออกที่ดีคือการได้หยุดพักผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ พาตัวเองออกไปพบเจอกับมุมมองที่โล่ง โปร่ง สบายตา พร้อมเติมเต็มแรงบันดาลใจจากผู้คนรอบข้าง อย่างที่จังหวัดระยอง แม้จะเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่ก็มีมุมสโลว์ไลฟ์ให้เลือกชิลอยู่หลายจุด ภายใต้บรรยากาศของท้องทะเลชายฝั่ง ที่ยังคงความเงียบสงบ โครงการ “Refresh life

 อุทัยธานีอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติที่เขียวขจี ภายใต้วิถีอันเรียบง่าย  พร้อมความหลากหลายทางวัฒนธรรมอันงดงาม ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ต่างอาศัยพื้นที่ทางการเกษตรในการหล่อเลี้ยงชีวิต ชาวอุทัยธานีจึงมีใจ “รักษ์” ในทรัพยากรในถิ่นอาศัย กิน ใช้ ในวิถีปลอดภัย ทั้งต่อตัวเองและสิ่งแวดล้อม พร้อมให้ทุกคนไปสัมผัส กับเส้นทาง “อยู่ดี Green ดี เที่ยวอุทัยธานี”  นำเสนอแหล่งท่องเที่ยว ทั้งจุดเช็คอิน ที่กิน ที่พัก ที่ผ่อนคลายทั้งกายใจ เปิดมุมมองกว้างใหญ่ในอ้อมกอดของธรรมชาติ ท่ามกลางวิถีชุมชนอันน่าชื่นชม เส้นทาง “อยู่ดี Green ดี เที่ยวอุทัยธานี” ได้คัดสรร 14 จุดเช็คอิน ฟินทั้งกายและใจ ในอำเภอเมืองอุทัยธานี อำเภอทับทัน อำเภอลานสัก และอำเภอบ้านไร่ มาให้ทุกคนได้ชื่นใจ

ถึงจะเป็นหน้าฝน แต่การล่องเรือชมวิถีชาวแพสะแกกรังก็สวยงามไปอีกแบบ ช่วงที่หลบสายฝนขึ้นไปนั่งพักบนแพของพี่ยุทธ เราก็ได้ฟังเรื่องราวความผูกพันของคนกับสายน้ำ จากปากของลูกหลานชาวแพคนนี้ ได้ทราบว่าชาวแพไม่ได้ว่ายน้ำเป็นกันทุกคนหรอกนะ สมัยก่อนอาจจะใช่ แต่ปัจจุบัน หากเป็นเขยหรือสะไภ้ก็อาจจะว่ายไม่เป็น ส่วนพี่ยุทธนั้น “ใครจะท้าแข่งว่ายข้ามฝั่ง” ก็ขอให้บอกมา “ผมเป็นเด็กชาวแพที่นี่ เกิดที่นี่  แพที่เราเห็นปัจจุบันเหลือน้อยมาก ในมัยก่อนชุมชนเรือนแพมีเป็นพัน ๆ หลังคาแพ มีทั้งมีทะเบียนแพและไม่มีทะเบียนแพ สมัยก่อนการอยู่เกื้อกูลอาศัยซึ่งกันและกัน  มีของกินของใช้อะไรก็แบ่งปันกัน เป็นชุมชนที่มีความผาสุก มีความรัก ความสามัคคีกัน พอโตมาแล้ว ลักษณะการเวลาเปลี่ยนแปลงไป เรือนแพก็เหลือน้อยลง ที่เราเห็นทุกวันนี้ เรือนแพที่มี โดยประมาณ 391 หลังคาครัวเรือน ส่วนประชากรประมาณ 646 คน เป็นชุมชนขนาดกลาง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี มีทั้งหมด 15 ชุมชน ชุมชนนี้เป็นชุมชนที่ 7

บริเวณเกาะเทโพ ซึ่งมีแม่น้ำสะแกกรังไหลเวียนมาบรรจบกัน เป็นเกาะน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ปัจจุบันเป็นแหล่งเกษตรกรรม รวมทั้งการเลี้ยงปลากระชัง อย่างปลาแรด ที่ได้มีการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ว่า เป็นปลาแรด GI หนึ่งเดียวในเมืองไทย เลี้ยงที่ไหนก็ไม่เหมือนที่นี่ “วันเพ็ญ นาทอง” ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลาแรดลุ่มน้ำสะแกกรัง ต.ท่าซุง เล่าวว่า ทางกลุ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2540 มีสมาชิกทั้งหมด 85 ราย  ในช่วงแรกร่วมกันแชร์ความรู้เรื่องการเลี้ยง และแก้ปัญหาทางการตลาด เนื่องจากแต่ก่อนมีพ่อค้าคนกลางมารับปลาไปขาย โดนกดราคาจนแทบไม่ได้อะไร ทางกลุ่มจึงจับมือกันเปิดตลาดปลาสดขายกันเอง หลัก ๆ คือที่ตลาดมโนรมณ์ จ.ชัยนาท นอกจากได้ราคาดีแล้ว ยังขายดีขึ้น จากวันละ 20 กิโลกรัม เป็น  300-400 กิโลกรัมในทุกเช้า และจุดขายสำคัญก็คือ “ปลาแรด GI”

ชาวเมืองอุทัยธานี และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอุทัยธานี ต่างมองหาร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ เพื่อจะสัมผัสกับบรรยากาศแห่งสายน้ำ ในตัวเมืองอุทัย บนเกาะเทโพ เกาะน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีร้านอาหารริมน้ำเรียงรายให้เลือกอิ่มอร่อยในบรรยากาศเป็นกันเอง รับรองความสดของปลาแม่น้ำ โดยเฉพาะปลาแรด GI ที่เลี้ยงในกระชังในแม่น้ำสะแกกรัง “ร้านป้าสำราญ” เป็นอีกร้านดังที่หลายคนไว้วางใจเมื่อมองหาร้านอาหารในตัวเมืองอุทัยธานี ร้านนี้มีเมนูปลาให้เลือกเยอะมาก ๆ รวมทั้งอาหารพื้นบ้านอีกหลายชนิด แถมยังเป็นร้านที่บริการดี รวดเร็วทันใจ อาหารออกไว แม้คนจะเยอะแค่ไหน ป้าก็เดินเสิร์ฟไป ทักทายไป ถามไถ่แบบไม่ให้ต้องรออย่างไร้จุดหมาย เมนูไฮไลต์วันนี้ เป็น “ปลาแรดสมุนไพร” ที่ใช้เนื้อปลาแรดทอด มาปรุงรสกับน้ำยำสมุนไพร ทั้งพริก ขิง หอม มะนาว รสชาติจี๊ดจ๊าดกำลังดี หรือจะเป็น “ปลาแรดทอดกระเทียม” เมนูอร่อยของทั้งครอบครัว กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ ส่วนเมนูอื่น ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน จากการสอบถาม

คำว่า “อุทัยธานี” เดิมสะกดว่า “อุไทยธานี” เป็นจังหวัดที่ยังคงวิถีเรียบง่าย สงบนิ่ง เสน่ห์แห่งวันวานของอุทัยธานี นอกเหนือจากวิถีชีวิตที่สะท้อนจากผู้คนแล้ว สถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ในตัวเมืองอุทัย ยังปรากฏความงดงามข้ามกาลเวลาอยู่หลายจุด เช่นเดียวกับที่นี่  “อุไทย เฮอริเทจ” (Uthai Heritage Hotel) ป้ายหน้าทางเข้าระบุชื่อ “โรงเรียนอุทัยวิทยาลัย” ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนแห่งแรกในตัวเมืองอุทัยธานี ที่มีอายุกว่า 70 ปี เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เจ้าของเดิมได้ยกเลิกกิจการโรงเรียนและขายให้กับ “นายห้างควร พรพิบูลย์” ซึ่งท่านได้ซื้อและเก็บรักษาไว้ ตกทอดมาถึงรุ่น  “ทพ.กฤตพล พรพิบูลย์” ที่อยากสานต่ออดีตอันน่าจดจำนี้ไว้ ด้วยการสร้างสรรค์ที่พักในสไตล์บูติกโฮเทล ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างเดิมให้สวยงามอย่างมีสไตล์ เหมาะกับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ ในกลิ่นอายวินเทจ [gallery columns="2" size="full" ids="28973,28974,28981,28980"] “โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ดำเนินกิจการมาก่อน หลังจากเลิกกิจการไปก็ทิ้งตึกร้างไว้ 1 อาคาร

ยามเช้าที่สดใสใน อ.ทับทัน จ.อุทัยธานี เราตื่นมารับอรุณบนเส้นทางแห่งความเขียวชอุ่ม จากทุ่งนาและสวนเกษตร ใกล้กับเขตผืนป่าใหญ่ [caption id="attachment_28941" align="aligncenter" width="800"] ราชันย์ ชาติสุทธิ[/caption] “ราชันย์ ชาติสุทธิ”  โรงแรมสวนเกษตรอินทรีรีสอร์ต ทับทัน เล่าด้วยรอยยิ้มว่า “สวนเกษตรอินทรีย์ รีสอร์ท” มีพื้นที่ทั้งหมด 26 ไร่  เป็นโรงแรมสไตล์ลอฟท์เข้ากับธรรมชาติ 22 ห้อง รวมทั้งมีสระว่ายน้ำแบบสระเกลือ ผู้ที่เข้าพักจะได้อยู่กับธรรมชาติ รายล้อมด้วยทุ่งนา ป่ามะพร้าว และ ผลไม้ต่าง ๆ  รวมทั้งปศุสัตว์มีไข่ไก่ไว้บริการ ที่นี่จะมีการทำนา และมีเครื่องสีข้าว ตอนเช้ามีข้าวต้มได้จากนาข้าวซึ่งมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์  ตอนค่ำประมาณหนึ่งทุ่ม ก็จะพบกับน้องหิ่งห้อยแสนสวยโชว์ตัวทุก ๆ วัน [gallery columns="2"