Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

meet&EAT

“ใจฟ้าฟาร์ม” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2564 ปัจจุบันฟาร์มขนาดใหญ่แห่งนี้ได้พัฒนาต่อยอดสู่ “แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อสังคม” โดยมุ่งเน้นที่การส่งเสริมด้านกีฬาให้กับเยาวชน ในนามของ “ใจฟ้าอคาเดมี่” ซึ่งริเริ่มโดย “หลวงพ่ออลงกต” เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ หลวงพ่อท่านอยากสนับสนุนและส่งเสริมให้เยาวชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ปลูกฝังความรู้ความสามารถตั้งแต่เด็ก ๆ ให้เป็นทั้งคนดี คนเก่ง และมีวินัย โดยหวังว่าจะผลักดันให้มีอนาคตทีมชาติไทยที่ก้าวไกลถึงบอลโลก ปัจจุบัน “ใจฟ้าอคาเดมี่” อยู่ภายใต้การบริหารจัดการโดยมูลนิธิอาทรประชานาถ วัดพระบาทน้ำพุ ก่อตั้งโดยพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต อาจารย์พิพัฒน์ บุญยกาญจนพล ผู้ดูแลโครงการมูลนิธิอาทรประชานาถ  เล่าว่า ที่นี่เปิดรับเด็ก ๆ ป.1 - ป.6 ที่สนใจในด้านกีฬา ให้เข้ามากินอยู่ และเข้ารับการศึกษาแบบครบวงจร พร้อมการฝึกทักษะฟุตบอล และระเบียบวินัยต่าง

นานเท่าไหร่แล้ว ที่ไม่ได้กินข้าวขาหมูอร่อย ๆ เนื้อ ๆ เน้น ๆ นุ่ม ๆ ชุ่มฉ่ำ ร้านดัง ๆ ระดับตำนานก็อาจจะทะยานราคาจนจับต้องได้ยาก เพราะความอร่อยล้วนมีที่มาจากหลายองค์ประกอบ สำหรับ “ขาหมู” เป็นเมนูที่หากินได้ง่าย แต่หาอร่อยได้ยาก เพราะความลงตัวของเมนูนี้ ต้องมีความพิเศษกว่าการปรุงอาหารทั่ว ๆ ไป ไม่ใช่คิดจะนำขาหมูมาต้มแล้วปรุงรส อาศัยเคี่ยวไปนาน ๆ แค่นั้นยังไม่พอ ต้นทางวัตถุดิบ บวกกับเทคนิคชั้นเลิศ ผสานการให้ใจแบบเต็ม ๆ น่าจะเป็นข้อสรุปเบื้องต้นเมื่อเราได้เจอกับ “ขาหมูละลายลิ้น” ชื่อนี้เชื้อเชิญให้ลองลิ้ม เมื่อได้ชิมจึงลงความเห็นได้ว่า “ถูกใจ”  เป็นขาหมูรสชาติกลมกล่อม หอม นุ่ม ชุ่ม ฉ่ำ เสิร์ฟจานใหญ่ ให้เยอะ ใช้ข้าวนุ่ม

“สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งกรุงธนบุรี คนไทยรู้จักและซาบซึ้งในคุณงามความดีจากพระปรีชาสามารถอันสูงส่งจากหลาย ๆ เหตุการณ์ในอดีต โดยเฉพาะในสมัยที่แผ่นดินกรุงศรีถูกข้าศึกบุกทำลายเสียหายในปี พ.ศ.2310 จนกระทั่ง “สมเด็จพระเจ้าตากสิน” ได้นำทัพกอบกู้เอกราชบ้านเมืองกลับคืนมาได้ เมื่อครั้งอดีตทัพกู้ชาติของ “พระเจ้าตาก” ได้เดินทางผ่านหลายพื้นที่ในหลายจังหวัด  โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีสถานที่หลายแห่งอยู่ในเส้นทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า ผสานรากเหง้าแห่งความศรัทธา ชวนให้ตามรอยไปค้นหา พลาดไม่ได้กับสายมู กับการเดินสายขอพรพระเจ้าตาก ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เปี่ยมด้วยความงดงามมาแต่โบราณ พระราชประวัติฉบับย่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ พระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระนามเดิมว่า สิน ชื่อจีนเรียกว่า เซิ้นเซิ้นชิน เป็นบุตรของขุนพัฒน์ (นายหยง หรือ ไหฮอง แซ่อ๋อง บางตำราก็ว่า แซ่แต้) และ นางนกเอี้ยง (กรมพระเทพามาตย์) เกิดเมื่อวันอาทิตย์ มีนาคม พ.ศ.

เชื่อว่าในทุกจังหวัดของประเทศไทย ย่อมมีวิถีการกินตามวิถีถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีหลากมิติทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะการกินจากต้นทางของวัตถุดิบ ลึกลงไปถึงที่มาของรสชาติ เมื่อปี 2564 เพชรบุรีได้รับการประกาศเป็น “เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร” โดยยูเนสโก ด้วยความแข็งแกร่งทางศิลปะวัฒนธรรม ควบคู่กับวิถีการกินอันโดดเด่น มีแหล่งกำเนิดรสชาติหลัก ๆ จนเรียกได้ว่า “เมือง 3 รส” เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีเส็บ สำนักงานภาคกลาง นำคณะผู้บริหารสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์และการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ DMC และสื่อมวลชน ร่วมสำรวจและทดสอบเส้นทางไมซ์ ในกิจกรรม Media & Association Fam Trip - Meaningful Culinary Journey เปิดประสบการณ์ไมซ์เชื่อมกรุง สัมผัสเมืองเพชรระดับนานาชาติ  เป็นเวลา

คำว่า Storytelling ไม่ได้ห่างไกลจากคนไทยสักเท่าไหร่ หากย้อนนึกดูดี ๆ คำว่า “ภูมิปัญญา” นั่นแหละคือ “เรื่องราว” ที่น่าทึ่ง อยู่ที่ว่าจะเล่าอย่างไรให้เห็นภาพ และน่าติดตาม นอกจากภูมิปัญญาที่ตกทอดมาจากคนรุ่นก่อน การปรับปรุงพัฒนาและสรรหาสิ่งที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ก็เป็นการต่อยอดเรื่องเล่าให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ใครที่เคยได้ยินชื่อร้านอาหาร “โกเท้” หรือ “สมชัยเป็ดพะโล้”​ จ.นครปฐม คงพอจะทราบดีถึงชื่อชั้นในวงการ เมนูเด็ดระดับตำนานกว่า 80 ปีของเขาคือ “เป็ดพะโล้” โดยมีร้านดั้งเดิมอยู่ที่ อ.บางเลน ตำนานของโกเท้ จุดเริ่มต้นของ “โกเท้” (ตี๋ แซ่เอี๊ยว) เริ่มต้นตั้งแต่ ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ ที่เร่ขายบนเรือในคลองบางภาษี อ.บางเลน ก่อนจะขยายขึ้นมาเปิดร้านเป็ดพะโล้บนบก ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพพื้นที่ในสมัยก่อน เมื่อทางราชการมาเวนคืนที่ โกเท้จึงต้องย้ายจากบ้านริมน้ำมาอยู่บนบก ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดก็ต้องมาตั้งอยู่ริมถนนลูกรังที่ไม่ค่อยมีคนสัญจร ซึ่งตอนนั้นทางเจ้าของก็เริ่มหวั่น ๆ

ทีเส็บ สำนักฯ ภาคกลาง จัดกิจกรรมเส้นทางสายไมซ์ Meaningful Culinary Journey Gala Dinner – Chef’s Table ร่วมกับงานเทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง Phetchaburi Harmony Puppet Festival 2024 ณ พระรามราชนิเวศน์ (พระราชวังบ้านปืน) จังหวัดเพชรบุรี ทีเส็บ สำนักฯ ภาคกลาง โดย ดร.สุรัชสานุ์ ทองมี ผู้อำนวยการสำนักฯ ภาคกลาง นำคณะผู้บริหารสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์และการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ DMC และสื่อมวลชน ร่วมสำรวจและทดสอบเส้นทางไมซ์ ในกิจกรรม Media & Association Fam Trip

อุณหภูมิเดือนเมษายน ทำเอาหลายคนแทบไม่อยากก้าวออกไปไหน แต่ถ้าจะเลือกเดินทางไป ที่เป็นเป้าหมายก็มักจะมุ่งหน้าลงทะเลหรือแหล่งที่มีธารน้ำไหลผ่าน จะมีใครอยากขึ้นเขาหรือเข้าป่า เพราะส่วนใหญ่คิดว่า ต้องรอฝนฟ้ามาเติมความชุ่มเย็น หรือไม่ก็รอลมหนาวพัดมาเชื้อเชิญกันก่อน เช้าตรู่ที่ป่าแก่งกระจาน ทำให้เราลืมไปเลยว่านี่คือหน้าร้อน เมื่อรถยนต์ 4WD ขับเคลื่อนเข้าไป ยิ่งไกล ยิ่งรับรู้ถึงความเย็นที่ค่อย ๆ แทรกซึมมากับสายลม นานแล้วที่ไม่ได้สัมผัสความสุขจากอุณหภูมิห้อง หัวใจจึงลิงโลด เรียกร้องให้เก็บเกี่ยวความทรงจำให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะมีเวลาที่จำกัดก็ตาม เราเดินทางสู่จังหวัดเพชรบุรี กับทริปพิเศษที่จัดขึ้นโดย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี และสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) ทริปพิเศษกับขบวนรถไฟ KIHA 183 “นั่ง 4WD ไปห่มหมอก เที่ยวป่าต้นน้ำเขาพะเนินทุ่ง” จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 20-21 เมษายน 2567 ทริปนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ความเป็นเอกลักษณ์ของ โรงแรม อินดิโก้ กรุงเทพ สะท้อนผ่านการออกแบบตกแต่งที่ผสมผสานความเก๋าด้านประวัติศาสตร์ของ ถ.วิทยุ อันเป็นทำเลที่ตั้ง บวกกับลูกเล่นและความทันสมัยได้อย่างลงตัว นับเป็นโรงแรมบูทีคระดับ 5 ดาวที่ให้ความอบอุ่นไปพร้อมกับความรู้สึกที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ที่นี่ยังมีกิมมิคน่ารัก ๆ อย่างการให้ยืมชุดไทย (Borrowed by Hotel Indigo) พร้อมด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่ช่วยแต่งเติมความเพลิดเพลินใจ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แขกที่เข้าพักสามารถใส่ชุดไทยและใช้เวลากับประสบการณ์อันน่าจดจำนี้ได้ถึง 12 ชั่วโมง นอกจากจะใส่ชุดไทยแล้วถ่ายรูปกับมุมต่าง ๆ ของโรงแรมแล้ว นักท่องเที่ยวยังนิยมใส่ชุดไทยไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ สถานที่ได้รับความนิยมมากก็คือวัดพระแก้ว [gallery columns="2" size="full" ids="32602,32612"] ในช่วงหน้าร้อนนี้ นับเป็นโอกาสดีสำหรับทุกคน เพราะที่โรงแรมอินดิโก้ ถนนวิทยุ ได้นำเสนอ “ชุดข้าวแช่” ณ ห้องอาหารเมโทร

ได้กลับไปอยู่ในบรรยากาศท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช เห็นได้ชัดว่ามีความคึกคักขึ้นเป็นอย่างมาก จากบรรดาที่พัก ร้านอาหาร ที่ผุดขึ้นมาทุกพื้นที่ เพราะเมืองคอน คือ “นครศรีดี๊ดี” ที่มีครบทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก ศิลปวัฒนธรรม มีวัดเก่าแก่กระจายตัวอยู่มากมาย และเป็นเป้าหมายของสายมู ด้านความเชื่อความศรัทธา อาทิ ไอ้ไข่วัดเจดีย์ ที่ยังมีผู้คนหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย พลอยทำให้ที่ธุรกิจที่พัก ร้านอาหาร คึกคักตามไปด้วย [caption id="attachment_32451" align="aligncenter" width="746"] เต้าคั่ว เมนูเบา ๆ คล้ายสลัด นิยมกินกันมากแถบสงขลา พัทลุง[/caption] ลงใต้รอบนี้ จึงตระเวนหาของกินอร่อย ๆ ตามใจปรารถนา ทั้งอาหารบ้าน ๆ ที่ทำกินในครัวเรือน หรือขายกันตลาดตลาด และร้านอาหารขึ้นชื่อที่ยังติดอยู่ความนิยม [gallery columns="2" size="full" ids="32447,32448,32449,32450"] [gallery

กล้วยเป็นพืชอาหารของคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนานนาน เมืองไทยเรามีกล้วยหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งที่ปลูกไว้กิน ใช้ หรือประดับเพื่อความสวยงาม นอกจากผลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย  หยวกกล้วยยังเป็นทั้งอาหารคนและอาหารสัตว์ นิยมนำมาต้มหรือแกง หัวปลีก็นำมาทำอาหารหรือกินแนมได้ ใบยังนำมาเป็นทำหีบห่อที่ย่อยสลายได้ง่าย  ลำต้นส่วนที่แข็ง ๆ ยังนำมาทำเป็นเชือกกล้วย ปัจจุบันยังพัฒนาไปทำเป็นกระเป๋าได้ด้วย ทั่วทุกภูมิภาคของเมืองไทยมีต้นกล้วยเป็นพืชล้มลุกที่ปลูกกันอย่างแพร่หลาย เป็นทั้งพืชบ้าน ๆ และพืชเศรษฐกิจที่ปลูกเพื่อส่งขายกันทั้งผลและใบ หลายคนรู้จักการกินกล้วยสุก แต่ก็อาจจะไม่รู้จักการกินกล้วยดิบ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านที่กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ รวมทั้ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา วิถีแห่งสายน้ำ บ้านนา บ้านไร่ หล่อหลอมเป็นเรื่องราวของการกินอยู่แบบชาวนครหลวง ไม่ว่าจะเป็นปลาแม่น้ำที่หมุนเวียนไปตามฤดูกาล  ยังมีวัตถุดิบบ้านจากท้องนาอย่าง กบ ปลาไหล ให้หากินได้ตามธรรมชาติ พร้อมด้วยพืชผักสมุนไพรที่ปลูกไว้ อยากกินเมื่อไหร่ก็มาเก็บไปปรุงกันสด ๆ ที่ร้าน “ครัวสวรรค์บ้านไร่”  เป็นร้านอาหารของครอบครัว ดูแลโดย “คุณเมย์” ถ่ายทอดเมนูบ้าน ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ให้ผู้มาเยือนได้ลิ้มลอง ผลคือติดอกติดใจ

อาการของคนหลงราตรี เมื่อเจอบรรยากาศดี ๆ ก็มักจะไม่อยากเข้านอน อย่างการเดินทางล่าสุด ในเส้นทาง Fam Trip สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวกับ ททท. ภูมิภาคภาคกลาง ก็อยากเกเรกันซะตั้งแต่คืนแรก เพราะค่ำคืนบนสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ช่วงปลายมกราคม ยังมีไอเย็น ๆ ให้พอชื่นใจ แค่หลบจากฝุ่นกรุงเทพฯได้ ก็อยากจะซึมซับอากาศดี ๆ เก็บไว้เยอะ ๆ แต่เมื่อรู้ว่าเช้ามืดของวันพรุ่ง ต้องออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า ก็จำยอมซุกหมอนกันแบบไม่ดึกจนเกินไป 6.15 น. เราเดินทางมาถึง “ตลาดโอ๊ะป่อย”​ แสงจากดวงไฟน้อย ๆ ยังทำงานท่ามกลางความสลัว แต่ก็เต็มไปด้วยสีสันของสิ่งที่เราคิดว่ามันคือ “ตุง” แบบทางเหนือ ซึ่งจริง ๆ มันเรียกว่า “คังด้ง” ในภาษากระเหรี่ยง แปลว่า

เดือนมกราคม หลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าว ชาวบ้านจะออกหาปูนาเพื่อนำมาปิ้ง เพราะในช่วงนี้ปูจะมีมันเต็มท้อง นำมาปิ้งย่างบนเตาถ่าน โรยเกลือนิดหน่อย พอให้กรอบเกรียวเคี้ยวได้ทั้งตัว จิ้มข้าวเหนียวกับมันปูตัวน้อย ๆ แกล้มส้มตำสักนิดสักหน่อย ก็เพลินมากแล้วสำหรับฤดูกาลนี้ “เพราะถ้ารอไปจนถึงหน้าฝน เป็นช่วงที่ปูตั้งท้องก็จะไม่มีมันปูอีกแล้ว” ตัวแทนจากกลุ่มเกษตรอินทรีย์หนองคู-ศรีวิไล จ.มหาสารคาม ทำหน้าที่ปิ้งไป เล่าเรื่องไป คนเมืองยืนมุง มุ่งความสนใจไปที่เจ้าปูตัวน้อยที่เรียงกันอยู่เป็นตับ ขณะที่ชาวบ้านเคี้ยวเพลินหนุบหนับ ชวนให้ทุกคนลิ้มลอง ติดใจก็อุดหนุนกันได้ในราคาไม้ละ 30 บาท เป็นอีกสีสัน "งานสังคมสุขใจ” ซึ่งจัดมาเป็นปีที่ 9 แล้ว และในปีนี้ก็ยังคงสืบสานความสุขใจได้มากขึ้น เพราะนอกจากเรื่องของสุขภาพแล้ว เป้าหมายใหญ่ของสังคมสุขใจ และวิถีเกษตรอินทรีย์ คือการเคลื่อนไหวเพื่อโลกที่ดีขึ้น ภายใต้วิกฤตที่รบเร้าให้เราทุกคนต้องร่วมลงมือทำอะไรสักอย่าง นอกจากปูนาที่ชาวบ้านช่วยกันขุดหามาเสิร์ฟถึงที่แล้ว ยังมีของดี วิถีเด็ด จากเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศมาโชว์พลัง ทั้งของกิน ของใช้ ที่มีความน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้นทุกปี งานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 9

ย้อนไปราว 10 ปี ชื่อของ “ณดล วิลล่า”​ เป็นรีสอร์ตริมลำธารที่ได้รับคำชื่นชม พร้อมความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบบรรยากาศที่ผ่อนคลายริมลำธาร ด้วยการออกแบบตกแต่งที่นำเสนอความเป็นไทยได้อย่างมีระดับ จนได้รับรางวัล Thailand Boutique Awards 2011 จุดเริ่มต้นของรีสอร์ตแห่งนี้ เป็นอาณาจักรแห่งความสุขของครอบครัวนักการตลาดและโฆษณาชื่อดังอย่าง “คุณไอ๋-ดลชัย บุณยะรัตเวช” ด้วยความชอบจได้เสาะหาเรือนไทยอายุกว่า 100 ปีจากอ่างทอง สิงห์บุรี และชัยนาท ยกมาไว้ในพื้นที่กลางป่า ริมลำธาร ใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เสียงเรียกร้องของเพื่อน สู่การต้อนรับผู้มาเยือน ความร่มรื่นของสภาพแวดล้อม ธารน้ำใสไหลเย็นตลอดทั้งปี มีสระว่ายน้ำกลางป่าเติมชีวิตชีวาให้กับทุกคน จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อน ๆ ที่แวะเวียนมาเยือน เกิดเป็นเสียงเรียกร้องให้ทำเป็นรีสอร์ตอย่างเป็นเรื่องเป็นราว จากนั้นคุณไอ๋จึงสร้างอาคารอีก 2 หลัง ตกแต่งห้องพักในสไตล์ไทยย้อนยุค ให้ความรู้สึกงดงาม ทรงคุณค่า แต่ทว่าเต็มไปด้วยความอบอุ่นใจ

“เมืองพริบพรี”  เป็นชื่อเรียกขานเพชรบุรีเมื่อครั้งสมัยอดีต หลายคนเพิ่งได้ยินคำ ๆ นี้ เมื่อละครพรหมลิขิตหยิบยกมากล่าวถึง ในอดีตเราอาจจะคุ้นเคยกันว่า “เพชรบุรี” เป็นเมืองขนมหวาน จากวัตถุดิบอันโดดเด่นของน้ำตาลโตนด แต่ของกินเมืองเพชรก็มีความเด็ดเป็นเอกลักษณ์มากกว่านั้น จนได้ชื่อว่า “เมืองสามรส” เพราะมีทั้ง “รสเค็ม” จากเกลือสมุทร จากการทำนาเกลือในเขตอำเภอบ้านแหลม ซึ่งกลายเป็นภาพความงดงามแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน ตลอดสองฝั่งถนนเส้นทางคลองโคน บางตะบูน ไปจนถึงบ้านแหลม “รสเปรี้ยว” มาจากความหอมโดดเด่นของมะนาวเมืองเพชรบุรี ของดีประจำอำเภอท่ายางและอำเภอบ้านลาด รวมทั้ง “รสหวาน” ที่ทุกคนคุ้นเคย จากน้ำตาลโตนดคุณภาพดี หวานหอม โดยเพชรบุรีมีการปลูกต้นตาลมากที่สุดในประเทศไทย นำมาประกอบอาหารได้ทั้งคาวหวาน เรื่องราวความหลากหลายของวัตถุดิบของเมืองเพชรบุรียังไม่ได้จำกัดอยู่แค่ 3 รสชาติที่โดดเด่นนี้ และในปัจจุบัน “เพชรบุรี” ยังได้รับการยกย่องเป็น “เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร” จาก UNESCO หากไปเยือนเมืองเพชรบุรี จึงต้องลองไปพิสูจน์ อาหารการกินที่หลากหลาย

หน้าฝนเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการออกจากบ้าน…. เรื่องนี้สายกรีนเขารู้ดี เพราะฝนจะช่วยชะล้างให้ทุกอย่างดูสดใส แหล่งน้ำที่เคยเหือดหายก็กลับมาเติมเต็ม ภายใต้บรรยากาศที่เย็นใจนี้ ขอกลับไปให้หายคิดถึงอีกสักที ที่ “เขาค้อ” เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เมืองมะขามหวาน และไก่ย่างแสนอร่อย ทริปนี้มีโอกาสแวะกินทั้งขาไปขากลับ พอมาถึงเขาค้อก็ตระเวนหาของกินอร่อย ๆ ทั้งที่เคยติดอกติดใจ และร้านใหม่ ๆ ที่น่าลอง และไม่ลืมที่จะอัพเดทที่เที่ยวใหม่ ๆ มาฝากกัน Phukaew Peak จุดชมวิวสุดพีค  เมื่อมาถึงภูแก้วรีสอร์ทแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดบริเวณวงเวียนน้ำพุ จะเห็นรถสองแถวจอดรอ เพราะการขึ้นไปยังภูแก้วพีคนั้น ถนนเส้นเล็ก ๆ มีความลาดชัน หลังจากซื้อตั๋วค่าเข้าชมคนละ 40 บาทแล้ว รถสองแถวก็พาเราไต่ขึ้นไปบนเนินเขาสูง อันเป็นจุดพีคของสถานที่แห่งนี้ จุดแรกเราจะพบกับ “ภูแก้วพีค คาเฟ่” ร้านกาแฟมุมสูงที่มองเห็นวิวทิวทัศน์กว้างไกล ทิวทุ่งกังหันลมจากมุมนี้มีขนาดจิ๋วลงไปเหมือนก้านไม้ขีด   ถ้าได้มาช่วงเช้ายามมีหมอก หรือแสงเย็นยามพระอาทิตย์ตกก็จะดีงามขึ้นไปอีก เดินขึ้นเนินไปอีกหน่อย ผ่านแนวดอกไม้สีสันสดใส

ทะเลภาคตะวันออกช่วงปลอดมรสุมผืนน้ำสีฟ้าจะมีความหวานละมุน มองแล้วชื่นสายตา อีกทั้งยังไม่ต้องออกเรือไปไกล หากนั่งสปีดโบ๊ทจากท่าเรืออ่าวมะขามป้อม แหลมแม่พิมพ์ จะใช้ประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้นก็จะไปถึงหมู่เกาะมัน อันประกอบด้วยเกาะมันใน เป็นเกาะที่อยู่ใกล้ฝั่งที่สุด และมีขนาดใหญ่กว่ามันกลางและมันนอก ด้วยพื้นที่ 131 ไร่ เอกลักษณ์ที่สำคัญคือเป็นที่ตั้งของศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เกาะนี้ไม่มีที่พัก แต่สวยงามเหมาะกับการเที่ยวชม โดยเฉพาะช่วงที่มีทะเลแหวก ส่วนเกาะถัดไปคือ เกาะมันกลาง เกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ด้วยสภาพโขดหินที่กระจายตัวสลับกับชายหาดรอบเกาะ เกาะนี้มีที่พัก และมีทะเลแหวกน้อย ๆ เกาะถัดไปที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาเกาะมัน  คือ เกาะมันนอก มีพื้นที่ประมาณ 95 ไร่ มีที่พัก 1 แห่ง ด้วยความไกลจากฝั่งมากขึ้น ก็ทำให้ทะเลมีสีเขียวอมฟ้า และมีชายหาดที่สะอาดตา สวยงามและเป็นส่วนตัวเฉพาะผู้เข้าพักเท่านั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หมู่เกาะมัน จังหวัดระยอง ก็ยังคงเอกลักษณ์ของความเงียบสงบ ล่าสุดที่เกาะมันกลาง

หลังจาก “แห้ว” มีชื่อเรียกใหม่ว่า “สมหวัง” ดูเหมือนว่าภาพรวมต่าง ๆ ก็ดูดีตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าแค่เปลี่ยนชื่อแล้วจะมีความเปลี่ยนแปลง เพราะแห้ว ก็ยังเป็นแห้ว เป็นพืชที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า มีประโยชน์มากแค่ไหน ทั้งตัวผู้กิน ผู้ปลูก และวันนี้แห้วก็เป็นหนึ่งในขบวนการกู้โลกไปแล้ว รู้จักแห้วสุพรรณ GI พื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นแหล่งปลูกแห้วคุณภาพของที่ได้ชื่อว่า มีหัวโต เติบโตได้ดีในพื้นที่นา เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ มีไฟเบอร์สูง และแร่ธาตุต่าง ๆ เพราะปลูกในแหล่งที่ได้ชื่อว่ามีดิน ฟ้า อากาศ ที่เหมาะสำหรับการปลูกแห้ว เพียง 1 เดียวในเมืองไทย จนทำให้ “แห้วสุพรรณ” ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) “สมหวังที่วังยาง” เป็นชื่อที่ทำให้หลายคนได้รู้จักเรื่องราวของแห้วมากขึ้น ทั้งจากการส่งเสริมและพัฒนา “แห้ว” ให้

เป็นอีกจังหวัดที่ไปเมื่อไหร่ก็เป็นอันตกหลุมรักเหมือนเพิ่งได้พบเจอเสมอ ด้วยวิถีแห่งผู้คนและธรรมชาติที่เคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ งดงามและลงตัวในแบบฉบับของตัวเอง ทำให้ “ชัยภูมิ” เป็นหนึ่งในกลางใจ เดินทางไปคราใดก็ยังรู้สึกดี ๆ เสมอ ต้นเดือนพฤษภาคมประเทศไทยยังอยู่ในฤดูร้อน ช่วงเวลาที่หลายคนบอกว่าอยากนอนตากแอร์อยู่บ้านมากกว่าจะออกไปไหน แต่กลับกลายเป็นว่า ไปเที่ยวชัยภูมิในครั้งนี้ มีแต่เรื่องราวชื่นตาชื่นใจ เป็นน้ำเย็นที่ราดรดความรุ่มร้อนให้ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย รับพลังแห่งความชื่นบาน ทุ่งบัวแดง บึงละหาน รับพลังยามเช้าอันงดงามที่บึงละหาน ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ อันดับ 3 ของประเทศไทย มีพื้นที่กว่า 18,000 ไร่ ครอบคลุมหลายตำบลในอำเภอจัตุรัส สะพานไม้ที่ทอดยาว 450 เมตร ถือเป็นแลนด์มาร์คของบึงละหาน ทุ่งบัวแดงที่บานสะพรั่งตั้งแต่ช่วงเช้าไปถึงยามสาย เป็นเวลาที่อันน่าชื่นตาชื่นใจ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการล่องเรือชมความงดงามในบึงกว้าง ทั้งในยามเช้าและยามเย็น โดยเฉพาะในเช้าตรู่ของแต่ละวัน นกนาชนิดต่างออกมาหากินในอยู่ในบึง ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยความอุดมสมบูรณ์ของบึงละหาน ก็ออกเรือมาหาสัตว์น้ำไปกินไปขาย

ธรรมชาติของดอกบัวจะเริ่มผลิบานตั้งแต่กลางดึก และจะสะพรั่งอย่างเต็มที่ตั้งแต่ช่วงเช้าไปถึงช่วงสาย แต่เราก็ไม่อาจตัดสินใจได้ว่าควรจะมาเที่ยวชมทุ่งบัวแดงบึงละหานในตอนไหน เพราะความเคลื่อนไหวของธรรมชาติ รวมทั้งวิถีของชาวบ้านในละแวก ไม่เคยหยุดนิ่ง ท่ามกลางความเงียบสงบของบึงขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา ปริมาณพื้นที่กว่า 18,000 ไร่ สะพานไม้ที่ทอดยาวเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านและหน่วยงานในพื้นที่ โดยคนในชุมชนได้บริจาคไม้ในการก่อสร้างสะพาน ประกอบกับไม้หมอนที่ได้จากทางรถไฟเก่าที่ทาง อบจ. ได้สรรหามาใช้ เกิดเป็นสะพานไม้ความยาว 450 เมตร สวยงาม ทรงมนต์ขลัง เป็นแลนด์มาร์คกลางทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศไทย “ละหาน” แปลว่า “ห้วงน้ำ” บึงละหานตั้งอยู่ใน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ กินพื้นที่หลายตำบล ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ จึงเป็นแหล่งทำมาหากินของชาวบ้านมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะการทำประมงน้ำจืด รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม เหมาะกับการพักผ่อนตลอดทั้งวัน เช้าตรู่ที่บึงละหาน คือการรับพลังแห่งวันใหม่ จะชื่นชมแค่บริเวณริมบึง เดินเล่นบนสะพานไม้ หรือจะล่องเรือออกไปชมวิถีชีวิตของชาวประมงที่ตั้งตารอคอยด้วยความหวัง หลังจากที่วางเครื่องดักจับสัตว์น้ำไว้ทั้งคืน ตั้งแต่ตีห้าครึ่ง คือช่วงเวลาที่แสงแรกเริ่มทอประกาย เรือลำน้อย

บึงละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เป็นบึงขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย มีพื้นที่รอบบึงกว้างกว่า 18,500 ไร่ และมีพันธุ์ปลานานาชนิดอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปลาตะเพียน ปลาตอง ปลาฉลาด ปลาช่อน ปลาชะโด ปลาแรด ปลาเนื้ออ่อน ปลากราย ฯลฯ ชาวบ้านในบริเวณนี้จึงอาศัยบึงแห่งนี้ในการทำประมงน้ำจืด นอกจากปลาสด ๆ จากบึงแล้ว ที่บ้านดอนละนาม ต.ละหาน อ.จัตุรัส ยังมีภูมิปัญญาที่สืบสานกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย เป็นการแปรรูปสัตว์น้ำ ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านได้รวมตัวกันเป็น “กลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำดอนละนาม” ผลิตสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชัยภูมิ [caption id="attachment_31043" align="aligncenter" width="800"] แม่ประนอมโชว์ปลากรายตัวใหญ่[/caption] วันนี้เราได้เจอกับ แม่ประนอม-ประนอม นามนภาวรรณ ประธานกลุ่มฯ พร้อมปลาหลากหลายพันธุ์ ที่เตรียมสาธิตการแปรรูปปลาให้ทุกคนได้ชม และชิมเมนูเด็ดประจำถิ่น