Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

เมษายน 2022

วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนไทยได้ขยายตัวขึ้นจนกลายเป็น “ไลฟ์สไตล์” ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการชงดื่มที่บ้าน ที่ทำงาน นัดพบปะสังสรรค์ การออกเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันพบว่า คนไทยมองหาร้านกาแฟเช่นเดียวกับการมองหาที่พักและร้านอาหาร และกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อออกทริป แต่ด้วยโอกาสอันหอมกรุ่นของตลาดกาแฟในประเทศไทย ส่งผลให้เกิดร้านกาแฟขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าชุมชนไหนก็มีร้านกาแฟเปิดให้บริการ แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตลอดระยะสองปีที่ผ่านมา ตลาดร้านกาแฟก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับธุรกิจบริการอื่น ๆ ร้านขนาดเล็ก-กลาง มีการปิดตัวไปมาก สาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากการท่องเที่ยว และวิถีการดื่มกาแฟของคนไทยยังไม่เปลี่ยนไปไหน นายมีชัย อมรพัฒนกุล นายกสมาคมบาริสต้าไทย เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19  การบริโภคกาแฟในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการเดินทางมีอัตราที่ลดลง แต่พฤติกรรมของคนยังคงเลือกซื้อกาแฟเพื่อดื่มที่บ้านแทนการออกไปดื่มที่ร้าน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดร้านกาแฟ โดยประมาณการณ์ค่า หากบรรยากาศการท่องเที่ยวกลับคืนสู่ปกติ ตลาดร้านกาแฟยังสามารถขยายตัวได้ถึง 3 เท่า อีกทั้งยังมีกาแฟที่หลากหลายรูปแบบและระดับราคาเข้ามามากขึ้น อาทิ กาแฟแก้วละ 800 บาท "ในภาวะปกติธุรกิจกาแฟและร้านกาแฟเติบโตอยู่ที่ 3-5% มูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ

‘มิชลิน ไกด์’ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมแถลงข่าวการขยายขอบเขตคัดสรรร้านอาหารเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ “ภาคอีสาน” ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดของไทยครอบคลุม 20 จังหวัด โดยคู่มือมิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นฉบับที่ 6 ของไทยและมีกำหนดเผยแพร่ปลายปี 2565 นี้ ได้เลือก นครราชสีมา, อุบลราชธานี, อุดรธานี และ ขอนแก่น เป็น 4 เมืองตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จะสะท้อนอัตลักษณ์อาหารอีสานที่โดดเด่นและมีรสชาติจัดจ้าน ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย อาหารอีสานมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอาณาจักรสุโขทัยและอาณาจักรเขมรโบราณ รวมทั้งจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว เวียดนาม กัมพูชา และจีน  ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือประกอบด้วยทุ่งหญ้าและผืนป่าบนที่ราบสูงและเทือกเขาซึ่งเหมาะกับการทำปศุสัตว์ นอกจากนี้ภาคอีสานยังเป็นแหล่งปลูกข้าวคุณภาพสูง ทั้งข้าวหอมมะลิที่โด่งดังไปทั่วโลกและข้าวเหนียว  อาหารอีสานส่วนใหญ่จะไม่ใช้อาหารทะเลเป็นวัตถุดิบเนื่องจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ไม่ติดกับทะเลหรือมหาสมุทร

ราว 40 กิโลเมตรจากตัวเมืองแพร่ เส้นทางบนเนินเขาที่คดเคี้ยว มองเห็นทัศนียภาพอันสวยงาม ดินแดนแห่งนี้มีชื่อสั้น ๆ ว่า “ลอง” เดิมเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดลำปาง หลังจากการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง ในปี 2475 ทางการจึงได้โอนเมืองลองมาเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดแพร่ เอกลักษณ์ของเมืองลอง จึงมีความแตกต่างจากเมืองแพร่ แม้จะใช้ภาษาเดียวกัน แต่หากวิเคราะห์ถึงรายละเอียดที่ลึกลงไป คนเมืองลอง มีตัวตนที่แตกต่างจากคนแพร่ และนี่คือเรื่องราวของเมืองลอง ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมเมืองลอง เจ้าของพิพิธภัณฑ์กมลผ้าโบราณ อาจารย์โกมล พานิชพันธ์ ที่ Meetthinks มีโอกาสได้ร่วมพูดคุยถึงความเป็นไปของเมืองลองในปัจจุบัน [caption id="attachment_27268" align="alignnone" width="799"] เส้นทางจากเมืองแพร่สู่เมืองลอง เต็มไปด้วยความสวยงาม[/caption] ท่องเที่ยวเมืองลองในทัศนะของคนเมืองลอง “อยากให้การท่องเที่ยวเมืองลองไปในแนวของเชิงวัฒนธรรม เพราะเราอาจจะไม่มีวิวที่สวยที่สุด แต่เรามีสิ่งหนึ่งคือ  ตัวตน ของตัวเอง ก็คือวัฒนธรรมความเป็นคนเมืองลอง ถามว่าคนเมืองลองกับแพร่เหมือนกันหรือเปล่า ภาษาเหมือนกัน

การท่องเที่ยวสายมู เป็นกิจกรรมที่กำลังมาแรง เพราะนอกจากจะได้ออกเดินทางไปชมความงดงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แล้ว ยังถือเป็นโอกาสที่ดีในการเสริมพลังเติมกำลังใจ รับสิ่งดี ๆ อันเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต เรียกว่าไปเที่ยวทีก็เก็บพลังบวกกลับมาบ้านแบบจัดเต็ม ตามความเชื่อของผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ปี 2565 ซึ่งเป็นปีนักษัตรปีขาล หรือ ปีเสือ ดังนั้นผู้ที่เกิดปีขาล ไม่ว่าจะมาจากจังหวัดไหน จะมุ่งหน้าไปจังหวัดแพร่ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของ “วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง” วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ อันเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป  และเป็นพระธาตุประจำปีขาลหรือปีเสือ ในปีนี้เมืองแพร่จึงมีความคึกคักเป็นพิเศษ นอกจากคนเกิดปีขาลแล้ว  คนเกิด “ปีชง” (ปีวอก ปีมะเส็ง ปีกุน) ก็เป็นกลุ่มที่นิยมเดินทางมากราบพระธาตุช่อแฮด้วยเช่นกัน [caption id="attachment_27192" align="alignnone" width="800"] นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์  เป็นประธานปล่อยขบวนคาราวาน ณ สถานีบริการน้ำมัน

ททท.กระบี่ ผนึกอ่าวนาง ทราเวล แอนด์ ทัวร์ ,โรงแรมอ่าวนางปริ้นซ์วิลล์ รีสอร์ทแอนด์ สปา และสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย  เปิดตัว Krabi Wellness Sunset Cruise มิติใหม่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพผ่านเส้นทางล่องเรือสำราญ Aonang Princess 8 ชมกระบี่ ซันเซ็ทที่สวยงาม   นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก กรรมการบริหาร บริษัท อ่าวนาง ทราเวล แอนด์ ทัวร์ และ โรงแรมอ่าวนางปริ้นซ์วิลล์ วิลล่า รีสอร์ทแอนด์ สปา เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการ Krabi Wellness Sunset Cruise มิติใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพผ่านเส้นทางล่องเรือหรูชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ด้วยเรือ

ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเดินทางมายังเกาะลันตา และดูเหมือนทุกครั้งที่เดินทางเข้ามา เราก็ได้พบกับเรื่องราวใหม่ ๆ อยู่เสมอ แม้ในจุดเดิม ๆ ก็ยังเพิ่มเติมด้วยมุมมองใหม่ เป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยซ้ำ เหมือนอะไรหลาย ๆ อย่างบนเกาะลันตา ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนได้อย่างชัดเจน สีสันแห่งยามเช้า ชมพระอาทิตย์ขึ้นปากอ่าว ทุ่งหยีเพ็ง เพราะธรรมชาติ คือ แหล่งพักพิงที่ช่วยผ่อนคลายกายใจได้เป็นอย่างดี ยามเช้าบนเกาะลันตาจึงมีกิจกรรมดื่มด่ำบรรยากาศยามเช้าท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสงบ ได้เราได้พบกับการพักผ่อนที่แท้จริง ภายใต้บรรยากาศของเช้ามืดอันแสนสงบ เรือแจวลำน้อยค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากลำคลอง มีแค่เสียงพายกระทบน้ำเบา ๆ กับสายลมที่เคล้าคลอ นกกาเริ่มออกเสียงอยู่ไกล ๆ เป็นความเคลื่อนไหวที่สงบนิ่ง จนกว่าแสงแห่งวันใหม่จะสาดส่อง “ทุ่งหยีเพ็ง” เป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่บนเกาะลันตาที่ยังไม่มีใครรู้จักมากนัก  เป็นชุมชนมุสลิมที่อาศัยอยู่บนเกาะลันตามากว่า 100 ปี โดยคำว่า “ทุ่งหยีเพ็ง” มาจากผืนป่าชายทะเลอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งในอดีต “โต๊ะหยีเพ็ง”  หรือ

ความสวยงามของท้องทะเลอันดามัน เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาจังหวัดกระบี่ ไม่ว่าจะลงไปเกาะหรือจะเข้าพักตามชายหาดต่าง ๆ ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่กระบี่ก็มีดีกว่าทะเล ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่หลากหลาย จึงยังมีมุมใหม่ ๆ ที่ชวนให้ไปชม เยือนทะเลหมอกกระบี่ ที่ดินแดงดอย กระบี่มีจุดชมวิวมุมสูงบนเนินเขาหลายแห่ง แต่ละที่ก็มีระดับความแอดเวนเจอร์มากน้อยแตกต่างกันไป สำหรับทริปชมแสงยามเช้า เคล้าทะเลหมอกท่ามกลางขุนเขาที่จังหวัดกระบี่ แบบเบา ๆ ขอแนะนำที่ “ดินแดงดอย” ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ดินแดงดอย เป็นเนินเขาเตี้ย ใช้เวลาเดินขึ้นไป 15-20 นาที ตามกำลังแข้งขาของแต่ละคน ใครที่ออกกำลังกายเป็นประจำก็จะรู้สึกสบาย ๆ ส่วนใครที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย ก็จะเคลื่อนไหวกันช้าหน่อย แต่รับรองว่าไม่ต้องปีนป่ายให้ยากลำบากอะไรมากนัก เหนื่อยก็หยุดพักได้ แถมระยะทางเดินขึ้นก็ไม่ไกล กะประมาณที่ 300 เมตรแบบไต่เนินเขา แนะนำว่าควรมาถึงบริเวณทางขึ้นประมาณตีห้าครึ่ง เมื่อรวมเวลาเดินขึ้นเนินเขาแล้ว ก็จะทันพระอาทิตย์ขึ้นพอดี ด้านบนดินแดงดอยเป็นจุดชมวิวที่กว้างใหญ่ เกือบ 360 องศา สามารถมองเห็นภาพบรรยากาศทั้งด้านหน้าและด้านหลัง