Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

meetFEEL

เมืองเลยมีภูเขาอยู่มาก เขาเรียก “ทะเลภูเขา” แต่ที่กระบี่ มีเกาะอยู่มาก กลับเรียก “ป่าเกาะ” จะเรียก “ป่าภูเขา” หรือ “ทะเลเกาะ” มันก็จะยังไงๆ อยู่ หันหน้าเข้าหาทะเล บริเวณหาดทับแขก จ.กระบี่ เป็นอีกจุดที่เราจะได้เห็นว่า คำว่า “ป่าเกาะ” เป็นอย่างไร ด้วยความเรียงรายสลับซับซ้อนของเกาะน้อยใหญ่ที่อยู่เบื้องน่า ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่า หนึ่งในเกาะนั้น “เกาะยาวน้อย” เป็นชายคาของมิตรสหาย ที่ยังไม่เคยไปเยือน ได้แต่ดูจากภาพถ่าย ติดตามเรื่องราวของเธอผ่านโลกโซเชียล จนวันนี้ เรียกได้ว่าแทบจะชิดขอบประตูบ้านของเธอแล้ว ก็ยังได้แต่ยืนมองจากชายฝั่ง และตั้งใจว่า คราวหน้า เมื่อมีโอกาสมาเยือน จะต้องไปให้ถึง หันกลับมาที่ท้องทะเลเบื้องหน้า ทับแขกเป็นชายหาดที่แสนสงบ ซึ่งจริงๆ แล้ว ทะเลกระบี่ ขึ้นชื่อเรื่องนี้ มีเพียงบางหาดอย่างอ่าวนางเท่านั้น ที่จะเห็นสีสันของร้านรวง

สถาณการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชม. พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันที่ 26 มกราคม 2562 เวลา 07.00 น. ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานทุกพื้นที่ ฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 41 พื้นที่ สาเหตุจากพื้นที่กทม.และปริมณฑลมีหมอกบางในตอนเช้า อากาศลอยตัวได้ไม่ดีมากนัก ลมพัดอ่อนไม่มีฝน คาดการณ์จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงบ่ายลมพัดแรงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองมีโอกาสเจือจางลงบ้าง ข้อแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุข ควรลดหรือจำกัดการทำกิจกรรมและการออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก เฝ้าระวังสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น หากมีอาการปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก แน่นหน้าอก คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ สายด่วนกรมอนามัย 1675 สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 สายด่วนกระทรวงสาธารณสุข 1669 ข้อมูลจาก :

“ซั่วแท้” ในภาษาอีสานแปลว่า “โง่มาก” ผู้ชายคนหนึ่งได้ยินคำนี้จากปากของคุณพ่อของเขา  ในวันที่เขาอยากพลิกชีวิตการทำงานในเมือง ไปเป็นชาวสวน แต่วันนี้เขาก็นำเรื่องนี้มาเล่าให้ทุกคนได้ฟังด้วยอารมณ์ขัน หากคนเราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และสามารถหล่อเลี้ยงอยู่กับมันไปทั้งชีวิตได้สบายๆ เป็นแต่ก่อนก็คงไม่มีใครกล้าทิ้งทุกอย่างไปง่ายๆ โดยเฉพาะการพลิกจากเมืองสู่ป่า จากตึกสู่เรือกสวนไร่นา ที่ไม่เคยคุ้นมาก่อน “บอย-วิวิช พวงสวัสดิ์”  เกิดในครอบครัวข้าราชการ เคยเป็นทั้งอาจารย์  ผู้จัดการฝ่ายผลิตในโรงงาน  ผู้จัดการในบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ เขาตัดสินใจกลับมาทำสวน ซึ่งในตอนนั้น แทบไม่มีความรู้อะไรเลย จวบจนวันนี้ 6 ปีแล้ว ที่ไร่สุขสวัสดิ์เดินทางมาถึงจุดที่ตอกย้ำแนวคิดที่ว่า ความสุข ไม่ได้เกิดเพราะเรา รวยหรือจน แต่เกิดจาก “พอใจ” หรือ “ไม่พอใจ” ต่างหาก หากย้อนไปตั้งแต่ปี 2542 ไร่สุขสวัสดิ์ เริ่มต้นจากชายผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล “สะท้าน ไชยวงษ์” พ่อตาของคุณบอย อย่าว่าแต่วิชาการด้านการเกษตรเลย คุณพ่อสะท้าน แกอ่านไม่ออก

บางครั้งเราก็ลืมไปว่า หน้าที่ของสะพาน ใช้ในการเชื่อมโยงของสองฝั่งเข้าด้วยกัน เพราะวันนี้มีสะพานชมวิวเกิดขึ้นมากมาย บ้างก็ข้ามไปอีกที่ บ้างก็ไม่ได้ข้ามไปไหน แต่ที่สะพานไม้แกดำ นอกจากสะพานจะเล่าเรื่องราวให้เราฟังแล้ว สะพานยังเชื่อมโยงเรื่องราวของอีกฝั่งออกมาอย่างมีสีสัน สะพานไม้แกดำ ตั้งอยู่ที่วัดดาวดึงษ์ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม เป็นสะพานไม้เก่า อายุราวมากกว่า 50 ปี  ที่ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางข้ามอ่างเก็บน้ำหนองแกดำ โดยเชื่อมระหว่างบ้านหัวขัวกับหมู่บ้านแกดำ [caption id="attachment_17370" align="aligncenter" width="800"] ทองอยู่ บุติมนตรี[/caption] จากคำบอกเล่าของ “ทองอยู่ บุติมนตรี” คุณครูวัยเกษียณ ตัวแทนของชมรมอนุรักษ์หนองแกดำ เล่าว่า เดิมทีราวปี 2502 สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นโดยคนในชุมชน เพื่อใช้ข้ามอ่างเก็บน้ำหนองแกดำ ให้ชาวบ้านได้สัญจรไปมา เด็กๆ ได้ใช้เส้นทางนี้ข้ามไปโรงเรียน โดยไม่ต้องอ้อมไปทางถนน สะพานทอดยาว เล่าเรื่องราวในตัวเอง จากสภาพของไม้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เรียงต่อกันด้วยฝีมือของคนในชุมชน สภาพไม่ได้เรียบร้อยเหมือนงานช่างที่เน้นความเป็นระเบียบ

ได้ยินไกด์ท้องถิ่นพูดแว่วๆ ว่า ใครที่ได้มาดาลัดแล้ว ต้องได้กลับมาอีก เพราะการมาเที่ยวดาลัดก็จะได้อะไรดีๆ กลับไปเสมอ อาจจะเป็นความรู้สึกดีๆ ที่เป็นตัวเป็นตน เป็นใครสักคน หรืออาจจะหมายถึงความทรงจำดีๆ ก็เป็นได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เดินทางมาดาลัด แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนได้พบกันครั้งแรก ไม่ใช่ภาพที่เปลี่ยนไปจากระยะห่างนานหลายปี แต่เป็นเพราะภาพเดิมที่ยังคงงดงาม คล้ายๆ กับการได้กลับไปพบเจอใครสักคนที่ได้แอบคิดถึงมานานแล้ว 3 วัน 2 คืนในดาลัดในช่วงปลายฝนเดือนตุลาคม เราพบกับ 4 บุคลิกของเมืองแห่งนี้ ยามเช้าที่หนาวเย็นจนแทบไม่อยากออกจากอาณาจักรผ้าห่ม ตกสายที่เริ่มเจอแดดร้อนเสิร์ฟตรงถึงใบหน้า บ่ายคล้อยเริ่มมีฝนพรำจนต้องวิ่งหลบ แต่พอตกค่ำ ลมหนาวก็กระหน่ำมาเป็นชุดใหญ่ ด้วยเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศเย็นทั้งปี หลายแห่งของที่นี่จึงไม่มีเครื่องปรับอากาศ เช่นเดียวกับโรงแรมใจกลางเมืองที่เราเข้าพัก DU PARK HOTEL DALAT หากร้อนก็เปิดหน้าต่าง แต่ถ้ารู้สึกเย็นก็ปิดหน้าต่างซะ ก็เท่านั้น [caption id="attachment_17303" align="aligncenter" width="800"] วัดเจดีย์มังกร[/caption] มีหลายอย่างที่เราได้เห็นความน่ารักของดาลัดในวันนี้

ผู้หญิงกับดอกไม้เป็นของคู่กัน แต่วันนี้ได้เห็นแล้วว่า ถ้าเจอทุ่งดอกไม้งามๆ ก็เล่นเอาผู้ชายใจสลายได้เหมือนกัน และนี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวราวความคิด ที่อยู่ในเมืองสวรรค์ อย่าง “นครสวรรค์” เข้าหน้าหนาวแล้ว ท้องฟ้าขับสีเข้มอวดโฉม ใครที่มองหาบรรยากาศแห่งทุ่งดอกไม้ในเมืองไทย มีจุดหมายให้เลือกหลายแห่ง เช่นเดียวกับนครสวรรค์ ซึ่งหลายคนอาจจะทราบแล้ว แต่หลายคนก็ยังไม่ทราบว่า ในช่วงปลายปีจะมีบรรดาทุ่งดอกไม้อวดโฉมอยู่เหมือนกัน ทุ่งปอเทืองไร่ธรรมชัย อ.ตากฟ้า กลายเป็นสวรรค์ของคนรักดอกไม้ เพราะมาที่นี่แล้ว จะได้พบกับทุ่งดอกไม้ถึง 3 ชนิด แถมยังเป็นดอกไม้ที่สวยและมีประโยชน์อย่างมาก ปกติแล้วเกษตรกรชาวนครสวรรค์นิยมปลูกต้นปอเทืองเพื่อบำรุงดินหลังจากการทำไร่นา แต่ที่ไร่ธรรมชัยถือว่าเป็นทุ่งปอเทืองที่มีขนาดใหญ่ราว 40 ไร่ แถมยังมีฉากหลังเป็นภูเขาอันงดงาม สัมผัสได้ตั้งแต่แรกเริ่มที่มาถึง ที่ไร่ธรรมชัยจะทำการปลูกปอเทืองราวตุลาคม ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่กำลังบานยาวไปจนถึงต้นปีหน้า อากาศที่เย็นลง เป็นแรงจูงใจที่ดีสำหรับการเข้ามาท่องเที่ยว การปลูกปอเทืองเริ่มจากการเตรียมเมล็ดพันธุ์ เริ่มเพาะ โดยจะใช้เมล็ดพันธุ์ราว 5 กิโลกรัมต่อไร่ จากนั้นก็ทำการหว่านเมล็ดลงไป 3-5 วันต้นอ่อนจะเริ่มงอกออกมา 50-60 วันดอกเหลืองๆ จะเริ่มผลิบาน

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวลำภู เดินหน้าสานพลังไทยนิยมยั่งยืน จัดโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี นำเสนอของดี วิถีเด่น ชูเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ใน 6 หมู่บ้าน พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนภายใต้การประกวด “นักเล่าเรื่อง” เสริมเสน่ห์ท่องเที่ยววิถีไทย สืบสานคุณค่าภูมิปัญญาท้องถิ่น หนุนฐานรากอันเข้มแข็ง สู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน [caption id="attachment_17145" align="aligncenter" width="900"] สงวน มะเสน (ขวา)[/caption] นางสงวน มะเสนา พัฒนาการจังหวัดหนองบัวลำภู  เปิดเผยว่า จังหวัดหนองบัวลำภู มีศักยภาพและความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยสภาพทางธรรมชาติที่มีความงดงาม เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และวิถีชุมชนอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยภูมิปัญญาที่ทรงคุณค่า สามารถพัฒนาและต่อยอดเพื่อขยายการรับรู้ไปในวงกว้าง เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้และความเข้มแข็งให้กับชุมชน ส่งผลต่อการเติบโตในภาพรวมของเศรษฐกิจระดับประเทศ โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาลมอบหมายให้ทุกจังหวัดดำเนินการขับเคลื่อนภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน โดยเป็นแนวคิดในการพัฒนา

สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ภูมิปัญญา ความคิด หรือ ความงาม เรียกกันว่า “ศิลปะ” แต่ไม่ใช่ว่า อารมณ์ความนึกคิดทุกอย่างจะเป็นศิลปะ เพราะต้องสอดแทรกด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยมีจุดประสงค์ที่แน่นอนแฝงอยู่ และที่สุดแล้ว  ต้องถูกกลั่นกรองออกมาจากความตั้งใจ แต่อย่าไปสนใจหรือบีบบังคับด้วยการท่องจำเลยว่า ศิลปะจะหมายถึงอะไร เพราะหากหัวใจเปิดรับความงดงามของศิลปะได้ก็เพียงพอแล้ว รอยขูดเขียนบทผนัง หรือ กราฟฟิตี้ (Graffiti) อาจจะเคยอยู่ในโลกปิด และไม่อาจจะยอมรับได้มาก่อน เพราะหากจิตรกรมีหน้าที่ในการซื้อผืนผ้าใบของตัวเอง เหล่าศิลปินกราฟิตี้ ก็น่าจะต้องสร้างผนังของตัวเองมาเช่นกัน แต่ใช่ว่าผนังกำแพงจะสามารถขวางกั้นความงดงามได้ เพราะวันนี้มีพื้นที่อีกมากมาย พร้อมเป็นเฟรมขนาดใหญ่ให้ศิลปินผู้เต็มไปด้วยไอเดียและฝีมือเข้ามาบรรเลงกันให้หนำใจ และดูเหมือนว่าตอนนี้ เกือบทุกที่จะมี Street Art เท่าที่เดินทางไปในหลายจังหวัด ก็ได้เจอศิลปะแนวนี้อยู่แทบจะทุกแห่ง และมันไม่ใช่ศิลปะของคนเมืองอีกต่อไป เพราะแม้จะอยู่ในชนบทห่างไกลก็ยังเจอ วันนี้เราเดินทางมายังจังหวัดร้อยเอ็ด ที่นอกจากเกินร้อยแล้ว มักจะเป็นคำโดนต่อท้ายด้วย “เจ็ดย่านน้ำ” ทำให้เป็นจังหวัดที่ดูพลังล้นเหลือ แล้วก็ได้เห็นจริงๆ ก่อนหน้านี้ ราว

รู้สึกดีที่ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปถึงไหน แต่เราก็ยังมีสายตามองเห็นความงามได้เช่นเดิม สิ่งที่เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่อยากให้ลืม เกิดขึ้นหลายอย่างในปีนี้คือ “คนทำดีถือว่าเท่” และกลายเป็นแบบอย่างให้เราได้อุ่นใจอยู่เสมอ ท่ามกลางข่าวสารที่แสดงให้เห็นความน่ากลัวของคน มากขึ้นทุกวัน ที่พัทลุงเขาก็เท่ ไม่ได้เท่เพราะแคมเปญ “เที่ยวไทยเท่” อย่างเดียวหรอกนะ ได้กลับไปเยือนครั้งนี้ ได้เห็นมุมมองดีๆ จนอยากจะบอกต่อ เพราะสิ่งที่เขาทำ เกิดเป็นความดีที่เท่แท้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องของการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เป็นจุดขายของแต่ละพื้นที่ สิ่งที่ทำได้ง่ายและทำได้เลยก็คือ การรวมตัวของคนในชุมชนเป็นตลาดนัดชุมชน ที่นำของดีของเด็ดของแต่ละคนมานำเสนอ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสกันแบบที่เดียวครบ จบทุกของดีของอร่อย [caption id="attachment_17064" align="aligncenter" width="799"] เท่ตั้งแต่แรกเห็น[/caption] ที่พัทลุงเขามีตลาดใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง ซึ่งไม่ได้มีแค่เอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่มีความเท่แท้อย่างที่เราบอกไป เริ่มต้นจาก “ตลาดป่าไผ่” ชื่อเต็มๆ ว่า “ตลาดป่าไผ่สร้างสุข” อ.ควนขนุน ห่างจากตัวเมืองพัทลุงแค่ 17 กิโลเมตร จะไม่สุขได้อย่างไร เพราะที่นี่เป็นตลาดแห่งความรักษ์ รักโลก รักสิ่งแวดล้อม ด้วยการร่วมมือร่วมใจของคนซื้อและคนขาย ตลาดป่าไผ่สร้างสุข

เมื่อวันที่อาหารการกิน ไม่ได้จำกัดเรื่องราวเพียงวัตถุดิบ รสชาติ หรือวัฒนธรรม และเป็นวันที่ห้องครัวที่เคยถูกปิดเป็นพื้นที่หวงห้ามถูกเปิดขึ้น เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่เราได้รู้จักกับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีผู้อยู่เบื้องหลังศิลปะการปรุงมากขึ้น และนี่คือความสุข จากความคิดและการสร้างสรรค์วิถีความเป็นอยู่ ยกระดับมื้ออาหารให้เป็นหนึ่งในช่วงเวลาของการละเลียดผลงานศิลปะ ผ่านเรื่องราวที่เชฟบรรจงสร้างมา Meetthinks มีโอกาสเดินทางไปยังจังหวัดตรัง และแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามหลายแห่ง และในดินแดนที่ได้ชื่อว่า “ยุทธจักรความอร่อย” ก็ยังมีรสชาติใหม่ๆ ให้สัมผัสอยู่เสมอ [caption id="attachment_16978" align="aligncenter" width="800"] ระยะการเดินขึ้นไปชมน้ำตกใกล้ๆ แค่ 5 นาที[/caption] กะช่องฮิลล์ อาจจะเป็นชื่อที่คุ้นเคยของผู้ที่ผ่านไปผ่านมาบริเวณเขาพับผ้า ที่เชื่อมเส้นทางของจังหวัดและพัทลุงเข้าด้วยกัน ท่ามกลางความเขียวขจีของขุนเขาที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ หลายคนอาจจะเคยเดินทางมาเที่ยวน้ำตกกะช่อง ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาน้ำตกของตรัง เนื่องจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เคยเสด็จมาประพาสเมื่อปี 2502 และประวัติศาสตร์ไทยยังได้จารึกไว้ว่า น้ำตกแห่งนี้ยังมีพระมหากษัตริย์ทรงเสด็จมาประพาสอีก 2 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 6 เมื่อปี 2548 และรัชกาลที่

ไม่อยากขึ้นต้นเลยว่า เป็นจังหวัดที่ใกล้แค่ขับรถเพียงชั่วโมงกว่าๆ ก็ไปถึง เพราะจริงๆ นักท่องเที่ยวไทย ก็ไม่ได้มีแค่คนที่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ และอยากบอกว่า นี่คืออีกแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทย ที่ไม่ได้มีใครซุกซ่อนไว้ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก อ่างทองเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรม มีวัดที่มีเอกลักษณ์จากความเป็นที่สุด ถึง 3 แห่ง ทั้ง วัดม่วง ซึ่งประดิษฐาน “หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก  “วัดขุนอินทประมูล” ที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาสักการะบูชา “องค์พระพุทธไสยาสน์” ที่มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย รวมทั้ง “วัดจันทรังษี” โดยมีรูปหล่อของ "หลวงพ่อสด"  ซึ่งเป็นหลวงพ่อสดองค์ใหญ่ที่สุดเช่นเดียวกัน วันนี้เราเดินทางมายังอ่างทอง เพื่อเปิดมุมมองใหม่ แต่จะว่าไปก็ไม่ได้ใหม่สดแบบเพิ่งเกิดขึ้น แต่อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพราะที่นี่คือ “วัดบ้านพราน” วัดเก่าแก่ของจังหวัดอ่างทองที่มีอายุมากกว่า 900 ปี ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ชัยมงคล

ได้ยินเรื่องราวน่ารักจากการสนทนาของเด็กน้อยกับคุณน้า เด็กน้อย : ประเทศอะไรมีนาอยู่ตรงกลาง น้า : ปานามา เด็กน้อย : ผิด! แคนาดา ต่างหาก น้า : อ้าว แล้วปานามาไม่ถูกหรือ เด็กน้อย : มีที่ไหน ประเทศปานามา

คนเราไม่ชอบความเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ แม้ส่วนใหญ่ชอบออกมาตะโกนว่า อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง เพราะแม้แค่การปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างในชีวิตประจำวัน เราก็รู้สึกขัดหูขัดตาเสียกระบวนท่าการใช้ชีวิตไปเสียแล้ว “แปรงสีฟันฉันอยู่ไหน” รับรองว่าคุณจะเป็นอีกคนที่มึนงงหน้ากระจก หากวันใดวันหนึ่ง อุปกรณ์ยามเช้าของคุณได้ย้ายที่อยู่ออกไปตั้งรกรากใหม่ แม้จะเป็นเพียงฝั่งซ้ายไปฝั่งขวา ก็เขม่นลูกกะตาแล้วว่า ฝีมือใคร! ความรู้สึกพอๆ กับแม่มาเยี่ยมที่หอพัก พอกลับไปแล้ว อะไรที่เคยอยู่ (ไม่เป็นที่) ก็กลายเป็นหายไปตามระเบียบ (เรียบร้อย) คนอยากผอม จึงอยากได้ความเปลี่ยนแปลง ทั้งๆ ที่ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง ก็ยังอยากฟินกินสุโก้ยโซ้ยแหลกอยู่นี่นา จะย้ายร่างออกไปตุเลงเต๊งชึ่งในฟิตเนสก็แหม ไม่มีมีเวลามากหรอกนะ คนทำงานมาเหนื่อยๆ มันต้องพักบ้างรู้รึเปล่า

คำว่า “ทั้งปี” มักจะอยู่ในรูปประโยคที่ไม่ค่อยดี เช่น เป็นอย่างนี้ทั้งปี! ที่แสดงถึงการบ่นถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง  แต่มองอีกด้าน คำว่า “เป็นอย่างนี้ทั้งปี” มันก็เสมอต้นเสมอปลายดีนะ พอบอกว่า “ทั้งปี” จะหมายถึงอะไรได้บ้าง สภาพอากาศ ฝนตกทั้งปี ออกดอกทั้งปี ออกผลทั้งปี มาถึงคราวนี้ เราจะได้เข้าใจความหมายของคำว่า “ทั้งปี” กันมากขึ้น “ทั้งปี” ไม่ได้หมายถึง “ทุกวัน” เหมือนดอกไม้ที่ออกดอกทั้งปี ก็ไม่ได้ออกดอกทุกวัน จบคาบภาษาไทยแล้ว ออกไปเที่ยวกันได้ เพราะเวลาบอกว่าที่เบตง มีหมอกให้ชมทั้งปี คนก็หมายความว่า มันต้องมีให้เห็นทุกวันสินะ แต่บางครั้ง วันฝนตก อากาศไม่เป็นใจ มวลมหาหมอกก็ไม่มารวมตัวกันให้เราชม เหมือนบรรดาพลังแสงยามเช้าหรือยามเย็น ที่ต้องเฝ้ารอคอยชมความงามกันในแต่ละที่ เจอกับอิทธิฤทธิ์ของเมฆฝนเข้าไป ก็ทำให้บังแสงที่ควรจะส่องให้ชมได้ ที่ “เบตง” ได้ชื่อว่า “เมืองในหมอก” ที่ซึ่งจะชมความงามของหมอกรอบตัวได้ทั้งปี

เวลาเจอใครแล้วได้รับคำทักทายว่า “ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ” ก็แอบยิ้มในใจ เหมือนการได้รับคำถามในครั้งนี้ ก็อยากบอกเหมือนกันว่า แม้จะไม่เหมือนเดิมทั้งหมด แต่ภาพรวมๆ ก็ยังไม่เปลี่ยน นานมาแล้วที่เราเดินทางไปเกาะหมาก และอีกหลายครั้งที่มีโอกาสได้เดินไปทางไปเยือน พร้อมข่าวคราวที่น่ายินดีของเกาะแห่งนี้ ที่ทำให้วันนี้ เกาะหมาก เป็นเกาะหนึ่งในประเทศไทย ที่มีการเจริญเติบโตทางด้านการท่องเที่ยว แต่สภาพแวดล้อมของเกาะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปไหนมาก และวันนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีอีกครั้ง เมื่อเกาะหมากได้รับการจัดการที่เข้มแข็งขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตที่อาจจะควบคุมไม่ได้ในอนาคต เพราะปัจจุบัน แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ยังบริหารด้วยคนเกาะหมาก แต่ก็มีบางส่วนถูกขายให้คนต่างพื้นที่แล้ว ดังนั้น นอกเหนือจากการควบคุมทางด้านการก่อสร้างที่ไม่ให้สูงเกินตามกำหนดแล้ว ยังต้องล้อมรั้วเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม จากคนทุกภาคส่วน ไม่นานมานี้ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกาะหมาก ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และประชาชนบนเกาะหมาก จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “เกาะหมากสดใส ร่วมใจลดคาร์บอน Kohmak

ภาพที่ชินตาหากว่าเราเดินทางไปยังชุมชนห่างไกลในต่างจังหวัด คือบ้านเรือนที่เรียงรายอยู่อย่างเงียบเชียบ มีเพียงคนเฒ่าคนแก่ที่นั่งชะเง้อชะแง้อยู่หน้าบ้าน เพราะลูกหลานต้องไปทำงานหรือไปเรียนกันในเมืองใหญ่ ชีวิตที่แปรเปลี่ยนไป ยามที่เข้าสู่วัยชรา นอกจากกำลังวังชาที่ลดหาย สายตาที่พร่าเลือนแล้ว ความทรงจำดีๆ ก็พาลจะจางตามลงไปด้วย จากที่เคยอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากัน กลับเหลือเพียงความเดียวดาย บางบ้านเหลือกันเพียงสองตายาย แย่หน่อยก็ตอนที่คนใดคนหนึ่งต้องจากไปก่อน "เพราะไม่อยากคุณพ่ออันเป็นที่รักต้องประสบกับภาวะนี้ จึงเป็นที่มาของการสร้างชีวิตให้มีชีวิตชีวา พร้อมส่งต่อความเป็นชีวิตให้กับอีกหลายครัวเรือน" พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ  รวบรวมวิถีชีวิตของคนบึงกาฬในอดีตมาไว้บนเรือนไม้หลังเก่าอันเป็นบ้านแห่งความรักความห่วงใย  จากฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดัง “คุณขาบ สุทธิพงษ์ สุริยะ” ที่ดัดแปลงบ้านที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่เด็กๆ มาเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้วิถีชุมชน โดยผสานความเป็นศิลปะกับธรรมชาติแห่งวิถีชีวิตได้อย่างลงตัว พี่หวัง หรือ สจ.สมหวัง  สาวเก่งสาวแกร่งแห่งโซ่พิสัย หนึ่งในครอบครัวสุริยะ เล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่า นี่คือบ้านหลังเดิมที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ คุณขาบและพี่น้องอยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อพวกเขาเติบโต ก็ออกไปมีครอบครัวและทำงานในต่างพื้นที่ เหลือแค่เพียงพ่อและแม่ ในครอบครัวก็คิดกันว่า ทำอย่างไรให้มีใครสักคนเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่ น้องสาวคนเล็กจึงเสียสละ

เป็นเรื่องจริงที่ว่า คนในระดับผู้บริหารจะไปไหนมาไหนก็ต้องสะดวกสบายสมฐานะ แต่ใช่ว่าเรื่องของการท่องเที่ยวจะจำกัดเฉพาะสถานที่หรูหรา กินหรูอยู่แพงเสมอไป เพราะยังมีอีกหลายแง่มุมให้ท่านไปสัมผัส เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมทั้งไอเดียในการพากันไปท่องเที่ยวกันแบบหมู่คณะ หรือการท่องเที่ยวกลุ่มองค์กร ซึ่งเป็นอีกเป้าหมายของการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยให้ไปถึงชุมชน ไม่นานมานี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ร่วมกับ พันธมิตรภาครัฐและเอกชน จัดงานเปิดตัว WE LOVE LOCAL (วี เลิฟ โลคอล) แคมเปญส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชนสำหรับกลุ่มตลาดองค์กร นำเสนอ 10 คอลเลคชั่น ชุมชนท่องเที่ยวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มองค์กร (Corporate) ทั้งในและต่างประเทศ โดยได้รับเกียรติจาก 10 ซีอีโอจากองค์กรต่างๆ ร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ CEO LOVE LOCAL (ซีอีโอ เลิฟ โลคอล) โปรโมทชุมชนทั้ง 10

จังหวัดน่าน ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศ และชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี “อำเภอบ่อเกลือ” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดคูล ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมความงามตามธรรมชาติทั้งผืนป่าที่สมบูรณ์ มีภูเขา ลำธาร และแหล่งน้ำที่ใสสะอาด [caption id="attachment_16272" align="alignnone" width="900"] ภาพมุมสูงของลำน้ำมางและธารน้ำตกจากบ่อเกลือวิว[/caption] ‘ลำน้ำมาง’ เป็นลำธารเล็กๆ ที่ไหลผ่าน ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ นอกจากเป็นอัญมณีด้านการท่องเที่ยวของอำเภอบ่อเกลือแล้ว ชุมชนยังถือว่าลำน้ำมางเป็นแม่คนที่ 2 และถือเป็นสายเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชุมชนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในการอุปโภคบริโภคและใช้ในการทำเกษตรโดยเฉพาะการทำนา อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งอาหาร และที่วางไข่ของสัตว์น้ำหลากหลาย เช่น ปลามัน ปลาผีเสื้อ หรือปลาปีกแดงซึ่งเป็นปลาหายาก และยังเป็นแหล่งที่ตั้งของบ่อเกลือสินเธาว์ภูเขาบ้านบ่อหลวงบ่อเกลือโบราณที่มีอายุมานานกว่าพันปีหนึ่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บริเวณลำน้ำมาง ถือเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอบ่อเกลือ แต่ปัจจุบันสภาพความสวยงามของลำน้ำมางหายไป หลังจากถูกทำลายลงจากโครงการของภาครัฐโดยการขุดลอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ บรรเทาปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในช่วงต้นปี 2558 ที่ผ่านมา ทำให้คนในชุมชนออกมาคัดค้าน นอกจากสร้างความเสียหายให้กับชุมชนแล้ว ยังเป็นโครงการที่ไม่โปร่งใส ไม่มีการทำประชามติ ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ทราบรายละเอียด

ความฝันของผู้ชายหลายๆ คน คือการได้ไว้หนวดไว้เครา ส่วนใหญ่ก็อยากมีไว้เพื่อเสริมความคมเข้มบนใบหน้า และแสดงถึงเอกลักษณ์ของชายชาตรี พ่อแม่ผู้ปกครองหรือบรรดาคุณยายคุณย่า อาจจะไม่ชอบพอความรกครึ้มบนใบหน้าของเจ้าลูกหรือหลานชายมากนัก บ้างก็บอกว่ามันดูไม่ดีเอาเสียเลย  อาจจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคเสียด้วยซ้ำ แต่มาในปัจจุบัน การไว้หนวดไว้เครา ได้รับการยอมรับมากขึ้น แถมยังมีประโยชน์อีกมาก นอกจากความมั่นใจในเอกลักษณ์แห่งบุรุษแล้ว เครายังสามารถปกป้องแสงแดด สร้างความอบอุ่นในสภาพอากาศหนาวเย็น รวมทั้งให้ความชุ่มชื่นบนใบหน้า แต่นั่นหมายถึงเคราที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี การไว้เคราจึงเป็นหนึ่งคำถามยอดฮิตของผู้ชายในทุกยุคสมัย ว่าจะทำอย่างไรจะครอบครองความคมเข้มนั้นมาได้ ก็ว่ากันไปตามแต่วิธีการของตน ซึ่งวันนี้เราไม่ได้มีไอเดียสร้างเคราบนใบหน้าผู้ชายมาแชร์  แต่เป็นเรื่องของเครา ที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน คือมีทั้งความสวยงาม ประโยชน์ เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนลุ่มหลง “เคราฤาษี” เป็นชื่อของพันธุ์ไม้ ในวงศ์สับปะรดที่ไม่มีราก ลำต้นห้อยระย้าเป็นทิ้งตัวลง แต่จะดูไม่มีน้ำหนักมากนัก ต้นสมบูรณ์ถึงน้ำถึงแดด จะดูฟูๆ เด้งๆ  ชุ่มชื่นสายตา เราพบเคราฤาษีมานาน  เพราะอยู่ในหนึ่งไม้ประดับตกแต่งสวนที่เลี้ยงง่าย ให้ความงดงาม เพราะหากปลูกเรียงต่อๆ กันเป็นเวลานานก็จะกลายเป็นม่านระย้าที่สวยงาม สามารถบังแสงแดดได้ดี “บิ๊กการ์เด้น” สวนกล้วยไม้ หนึ่งในเส้นทางชุมชนท่องเที่ยวิถีเกษตร มณฑลนครชัยศรี