Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

“ทั้งปี” ที่ “เบตง”  

คำว่า “ทั้งปี” มักจะอยู่ในรูปประโยคที่ไม่ค่อยดี เช่น เป็นอย่างนี้ทั้งปี! ที่แสดงถึงการบ่นถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง  แต่มองอีกด้าน คำว่า “เป็นอย่างนี้ทั้งปี” มันก็เสมอต้นเสมอปลายดีนะ

พอบอกว่า “ทั้งปี” จะหมายถึงอะไรได้บ้าง สภาพอากาศ ฝนตกทั้งปี ออกดอกทั้งปี ออกผลทั้งปี มาถึงคราวนี้ เราจะได้เข้าใจความหมายของคำว่า “ทั้งปี” กันมากขึ้น

“ทั้งปี” ไม่ได้หมายถึง “ทุกวัน” เหมือนดอกไม้ที่ออกดอกทั้งปี ก็ไม่ได้ออกดอกทุกวัน

จบคาบภาษาไทยแล้ว ออกไปเที่ยวกันได้

เพราะเวลาบอกว่าที่เบตง มีหมอกให้ชมทั้งปี คนก็หมายความว่า มันต้องมีให้เห็นทุกวันสินะ แต่บางครั้ง วันฝนตก อากาศไม่เป็นใจ มวลมหาหมอกก็ไม่มารวมตัวกันให้เราชม เหมือนบรรดาพลังแสงยามเช้าหรือยามเย็น ที่ต้องเฝ้ารอคอยชมความงามกันในแต่ละที่ เจอกับอิทธิฤทธิ์ของเมฆฝนเข้าไป ก็ทำให้บังแสงที่ควรจะส่องให้ชมได้

ที่ “เบตง” ได้ชื่อว่า “เมืองในหมอก” ที่ซึ่งจะชมความงามของหมอกรอบตัวได้ทั้งปี และยังมีอีกหลายสถานที่ที่ยังไม่เปิดให้เข้าชม และบางที่ ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เช่น  “ฆูนุงสีรีปัต”  ซึ่งเป็นจุดชมหมอกแนวแอดเวนเจอร์ ที่ต้องปีนป่ายใช้พลังกันระดับหนึ่ง

“ฆูนุงซีลีปัต”   คนเก่าคนแก่เรียกว่า “ฆูนุงซาลี”  ส่วนชาวบ้านจะเรียกกันว่า “เขาหิน” เนื่องจาก “ฆูนุง” เป็นภาษาท้องถิ่น เเปลว่า เขาหิน ตั้งอยู่ที่ กม.28 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองได้รอบตัว 360 องศา ยอดสูงถึง 670 เมตร จากระดับน้ำทะเล

การเดินทางขึ้นไปด้านบนต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ  รถกะบะหรือรถจิ๊ปสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เดินทางเท้าต่ออีกประมาณ 2 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดที่พักกางเต้นท์  ซึ่งรับได้จำนวนจำกัด ด้วยการจัดการที่พัก น้ำท่า ที่ยังไม่สะดวกสบายนัก การชมหมอกบนจุดสูงสุด ต้องเดินไต่ตามสันเขาไปอีก 200 เมตร สู่จุดสุดยอดเขาหิน ซึ่งมีพื้นที่บนยอดเขาประมาณ 18 ตร.ม.

ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง “ฆูนุงซีลีปัต”   จึงเหมาะกับผู้ที่มีใจรักการท่องเที่ยวแบบกลมกลืนกับธรรมชาติ นอกจากจะต้องออกแรงเดินและปีนป่ายกันพอสมควรแล้ว ลานกางเต้นท์ซึ่งทางชุมชนมีไว้ให้บริการ ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะการใช้น้ำอย่างประหยัด การกินอยู่แบบกลมกลืนกับธรรมชาติ

ที่แห่งนี้ เราจะได้ใช้เวลากับตัวเองจริงๆ ได้มองเห็นตัวตนของธรรมชาติอันงดงาม ทั้งยามเช้าและยามเย็น ซึ่งจากจุดกางเต้นท์ ก็ต้องปีนเขาขึ้นไปอีกราว 200 เมตร แม้จะทุลักทุเล แต่ก็นับว่าคุ้มค่ามาก กลุ่มชาวบ้านจะคอยบริการเรื่องที่พักและอาหาร รวมทั้งอาหารเช้าบนจุดชมวิวแบบ 360 องศา เรียกได้ว่า กาแฟแก้วที่แพงที่สุด ก็เทียบไม่ได้เลยกับ กาแฟธรรมดาๆ  ท่ามกลางมุมมองอันงดงามไม่รูปแบบที่ไม่เคยซ้ำกันเลย

เช้าอีกวันหนึ่งหลังจากชมวิวกันอย่างจุใจแล้ว เราเดินทางลงมายังเมืองเบตงอีกครั้ง เพื่อเดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจุดต่อไป และยังคงปักหมุดที่เป้าหมายความงดงามของธรรมชาติ โดยไปกันที่  จุดชมวิว “ทะเลหมอกเขาร้อยลูก บ้านธารน้ำทิพย์ ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ บริเวณ ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา

ความพิเศษของจุดนี้ คือ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกหนาท่ามกลางขุนเขานับร้อยลูกทั่งทางฝั่งไทยและมาเลเซีย ยามสายเมื่อหมอกคลายตัว ภาพที่ปรากฎขึ้นคือตัวเมืองเบตง ทุกคนสามารถเดินทางมาชมวิวมุมสูงในจุดนี้ได้ไม่ยาก เพราะรถขับเคลื่อนสี่ล้อสามารถพาเราไปถึงจุดหมายได้ ใช้เวลาเดินทางจากตัวอำเภอเบตงประมาณ 45 นาที

เมืองเก่า ต.ท่าสาป

เมืองเก่า ต.ท่าสาป

นานๆ ที จะได้มาเที่ยวยะลา หลังจากชมเมืองเบตงกันให้จุดใจแล้ว ก็แวะไปชมของดีเมืองยะลา พร้อมมุมมองใหม่ๆ กันบ้าง ทราบมาว่า ตอนนี้มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ จากภาพสตรีทอาร์ท เป็นการทักทายยะลาในมุมอาร์ตๆ กันก่อน โดยสตรีทอาร์ตเมืองยะลา มีให้ชมทั้งในตัวเมือง แถวถนนนวลสกุล และที่ ต.ท่าสาป อ.เมือง ซึ่งเป็นเมืองเก่าของยะลา

ของดีที่มีชื่อไม่คุ้นอีกอย่างคือ  “ผ้าปะลางิง” ซึ่งเป็นผ้าทอพื้นบ้าน พิมพ์ลายด้วยบล็อกไม้ที่สาบสูญไปจากทางตอนใต้ แต่ถูกนำกลับมาอีกครั้ง โดย ครูปิยะ สุวรรณพฤกษ์ จากศรียะลาบาติก พร้อมยังเป็นผู้ถ่ายทอดการสกัดสีจากธรรมชาติเพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์ และบอกเรื่องราวท้องถิ่น

 “ผ้าปะลางิง” มีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีกระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องประดับตกแต่งบ้าน ทำให้ชาวยะลามีรายได้ ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ปัจจุบันมีการสืบทอดการทำผ้าปะลางิงควบคู่กับการอนุรักษ์และเผยแพร่ไปยังกลุ่มเยาวชน สถาบันการศึกษา สะท้อนให้เห็นการนำภูมิปัญญาวัฒนธรรมสร้างอาชีพ ซึ่งเป็นอีกแนวอนุรักษ์ผ้าปะลางิงไม่ให้สูญหาย จะได้เป็นผ้าปะละงิง ที่ทำและขายได้ทั้งปี

มุมมันๆ ในเมืองเบตง

คำว่า “ทั้งปี” ไม่ได้มีแค่ด้านลบ เพราะความหมายที่แท้จริง คือ ความสม่ำเสมอ แม้ว่าจะไม่ได้ทำ หรือ ขายได้ทุกวัน แต่ก็ขายได้ทั้งปี คราวนี้ ก็บอกใครๆ ได้เต็มปากแล้วว่า มาเที่ยวยะลากันเถอะ เที่ยวได้ทั้งปี ที่เบตง ก็มีหมอกชม กันทั้งปี

ข้อมูลติดต่อ

ชมผ้าปะละงิง ปิยะ สุวรรณพฤกษ์ 099-2832452

การท่องเที่ยวโดยชุมชนทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต เฮง 081-0938549 และ ซู 082-2656900

ชมทะเลหมอกบ้านน้ำทิพย์  อบต.ธารน้ำทิพย์ อมร นิลรัตน์  089-4872867

Post a comment

12 − 8 =