Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

meet&EAT

ความแตกต่างของฤดูกาล บอกถึงความเป็นไปของชีวิต เพราะทุกอย่างหมุนวนไปตามวงจร หากเราเรียนรู้อยู่กับธรรมชาติ จะมองเห็นความงามที่แตกต่างของแต่ละฤดูกาลที่เกิดขึ้น ในช่วงหน้าฝน การเดินทางไปไหนมาไหนย่อมมีอุปสรรคเป็นธรรมดา แต่สายฝนที่พร่างพรมลงมา ก็ได้ชะล้างให้ทุกสรรพสิ่งเยือกเย็นขึ้น เกิดภาพความสดใสเขียวชอุ่ม และการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน ก็มีแง่มุมที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เช่นเดียวกับ Green Season ของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่เราเก็บมาเติมพลังความสดใสให้กับทุกคน เขื่อนกระเสียว เที่ยวไหนก็ห้ามพลาด หากขับรถมาถึง อ.ด่านช้าง แล้ว ต้องลองแวะเที่ยวชม “เขื่อนกระเสียว” อีกมุมดี ๆ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความผ่อนคลาย ทั้งบริเวณสันเขื่อนที่ทอดยาว ในยามเช้าและยามเย็นจะมีผู้คนเข้ามาวิ่งออกกำลังกายหรือปั่นจักรยาน เพื่อชมความงามของวิถีชีวิตบนผืนน้ำเหนือเขื่อน  และถือเป็นอีกจุดชมพระอาทิตย์ตกอันสวยงามของเมืองไทย เขื่อนกระเสียว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2523 เป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำสร้างกั้นลำห้วยกระเสียว ยาว 4,250 เมตร สูง 32.5 เมตร พื้นที่กักเก็บน้ำ 28,750

บนเส้นทางกว่า 50 ปีของสวนสามพราน ผ่านเรื่องราวจากรุ่นสู่รุ่น จนถือได้ว่าวันนี้ ดินแดนแห่งนี้ได้สร้างโมเดลธุรกิจที่เกื้อกูลสังคม ด้วยการทำเป็นตัวอย่าง สร้างการรับรู้ และเชื่อมโยงห่วงโซ่อินทรีย์ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ภายใต้ “สามพรานโมเดล” ที่ดำเนินมากว่า 10 ปี ถือเป็นการออกจาก Comfort Zone

เมืองพัทยา เป็น 1 ใน 6 ไมซ์ซิตี้ของประเทศไทย (กรุงเทพมหานคร, พัทยา, เชียงใหม่, ขอนแก่น, ภูเก็ต และ สงขลา) และเป็นไมซ์ซิตี้เพียงเมืองเดียวเมืองเดียวในภาคตะวันออก   พื้นที่แห่งนี้มีความพร้อมในด้านรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและไมซ์ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุนและธุรกิจบริการ มีที่พัก โรงแรมและศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ที่เหมาะแก่การจัดประชุมและงานแสดงสินค้านานาชาติ เช่น ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุช พัทยา - NICE และ ศูนย์ประชุมนานาชาติพีช พัทยา – PEACH ฯลฯ ที่ผ่านมา เมืองพัทยามีนักเดินทางกลุ่มไมซ์เดินทางสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประสบการณ์การรองรับการจัดงานประชุม งานแสดงสินค้านานาชาติ และเมกะอีเวนท์มากมาย ทำให้พัทยาเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่พร้อมรองรับงานไมซ์ได้อย่างครบวงจร เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC

วัฒนธรรมการดื่มกาแฟ เข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตคนไทยจนแทบจะขาดจากกันไม่ได้ ส่งผลให้ตลาดกาแฟกว่า 3 หมื่นล้านบาท ยังมีทิศทางการเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งยังสร้างกลุ่มสังคมคอกาแฟในหลากหลายพื้นที่ หากมองย้อนไปยังต้นทาง กาแฟเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของชุมชน เรื่องราวเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นมิติที่หลากหลายของกาแฟในประเทศไทย ที่ได้ชื่อว่า เป็นพระเอกขี่ม้าขาวในยุคนี้ ล่าสุด สมาคมกาแฟพิเศษไทย (SCATH) และเดอะคลาวด์ (readthecloud.co) ร่วมเชิดชู กาแฟไทย อนาคตไปไกล มุ่งเน้นการสื่อสารและพัฒนากระบวนการผลิตกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อยกระดับคุณภาพสู่ระดับสากล เชื่อมโยงอุตสาหกรรมเกษตร สู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน [caption id="attachment_20944" align="aligncenter" width="850"] วัลลภ ปัสนานนท์[/caption] นายวัลลภ ปัสนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย ผู้ขับเคลื่อนวงการกาแฟไทย เปิดเผยว่า ทิศทางของ “กาแฟพิเศษ” กลายเป็นเทรนด์ที่สังคมกาแฟโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยคุณภาพ และเอกลักษณ์เมล็ดกาแฟไทยที่มีความโดดเด่น นับเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตให้ธุรกิจกาแฟไทยก้าวหน้า ซึ่งจากวิกฤตโควิด-19

มึนตั้งแต่เปลี่ยนชื่อโครงการ  “เที่ยวปันสุข” มาเป็น “เราเที่ยวด้วยกัน” คงเพราะได้ปูทาง “เราไม่ทิ้งกัน” มาแล้ว จึงต้อง “เรา” กันต่อ แต่ก็ยังเป็น “ไทยแลนด์ 4.0” ที่ออกแนวงงๆ ใช้ยากอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ผ่านด่านที่หลายคนท้อจนถอยมาได้ ตอนแรกกะว่า เปิดมาวันแรกเว็บไซต์ “เราเที่ยวด้วยกัน” จะล่ม เหมือนโครงการแจกเงินเยียวยา “เราไม่ทิ้งกัน” หรือจะชักช้าอืดอาดไม่ชัดเจน จึงทำการเตรียมใจไว้มาก  จนกลายเป็นคนแรกๆ ในกลุ่มเพื่อนที่ใช้สิทธิ์นี้ได้สำเร็จ วันที่เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” 15 ก.ค. 2563 ก็ไม่พบเหตุขัดข้องใดๆ พอมาดูตัวเลขในวันนี้ (28 ก.ค. 2563) ก็พอเดาได้ว่า เป็นแคมเปญที่ยังไม่เร้าใจ และเข้าใจยาก ที่สำคัญคือ “ไม่ฟรี”

หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายลง  สร้างความ “เบาใจ” ให้กับคนไทย ได้ออกมาใช้ชีวิตปกติในวิถีใหม่ หรือ New Normal กันมากขึ้น สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือการกระตุ้นการออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งเป็นวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนได้อย่างรวดเร็ว ล่าสุด บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เวิลด์แก๊ส” และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้การบริหารจัดการโดย บริษัท เทสอิงค์ เอเชีย จำกัด จัดมหกรรมนำเสนอแพคเกจการกินเที่ยวครั้งใหญ่แห่งปีกับโครงการ “คิดถึงอาหารจานโปรด”  หรือ Thailand Food Paradise รวบรวมเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร  พร้อมรณรงค์สร้างความร่วมมือตามมาตรฐาน

สำหรับสายเบอร์เกอร์ ก็ต้อง “เบอร์เกอร์เนื้อ” เท่านั้น จึงบอกได้ว่า “เข้าถึงดินแดนเบอร์เกอร์” โดยสมบูรณ์ โดยเฉพาะแบรนด์ “เบอร์เกอร์คิง” ที่มีเมนูเนื้อที่หลากหลายถูกอกถูกสาวกได้เต็มปากเต็มคำ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน บางคนไม่กินสัตว์ใหญ่ บางคนไม่กินเนื้อสัตว์ บางคนบอกต้องเป็นไก่เท่านั้น ความหลากหลายของเบอร์เกอร์ในเมืองไทยจึงเกิดขึ้น สำหรับสาวกเบอร์เกอร์ไก่ วันนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจจากเบอร์เกอร์คิงมาฝาก หลังจากการเจรจากับ องค์กรพิทักษ์สัตว์ระดับสากล หรือ ‘ซิเนอร์เจีย แอนิมอล’ องค์กรซึ่งปฏิบัติงานในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของสัตว์ในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร เบอร์เกอร์คิง หนึ่งในแฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟู้ดชั้นนำระดับโลกได้ประกาศดำเนินนโยบายเลือกใช้วัตถุดิบจากฟาร์มปลอดกรงขังในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยนโยบายนี้จะประกาศใช้กับร้านอาหารทั้งหมด 115 แห่ง รวมถึงที่จะเปิดดำเนินการในอนาคตทั้งหมดในประเทศภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นเจ้าของแฟรนไชส์เบอร์เกอร์คิงแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะเสร็จสิ้นภายในปี 2570 “คำประกาศเจตนารมณ์จากแฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างเบอร์เกอร์คิงจะมีส่วนในการช่วยลดความทุกข์ทรมานของแม่ไก่ในประเทศไทยได้นับล้านชีวิต และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลายๆ บริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะประกาศนโยบายเช่นนี้ตามมา” วิชญะภัทร์ ภิรมย์ศานต์   ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ประจำประเทศไทยของซิเนอร์เจีย แอนิมอล

ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ห้องอาหาร ยามาซาโตะ (Yamazato) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ห้องอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับ ‘มิชลิน เพลท’ (MICHELIN Plate) จาก ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2563 พร้อมให้บริการเมนูอาหารสั่งกลับบ้านเพื่อให้ทุกท่านได้รับประทานอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับที่บ้านของตนเอง เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) หัวหน้าพ่อครัว (Master Chef) ประจำห้องอาหารยามาซาโตะ ได้รังสรรค์เมนูอาหารสั่งกลับบ้าน โดยคัดเลือกแต่เมนูที่ทุกท่านชื่นชอบที่ยังคงรสชาติอร่อยถูกปากเมื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้าน จัดเป็นหมวดหมู่ได้แก่

“ข้าวแช่” อาจจะไม่ใช่อาหารไทยมาตั้งแต่กำเนิด แต่ก็เป็นเมนูอันบรรเจิดของคนไทยมาตั้งแต่โบราณ เป็นอาหารประจำฤดูกาลที่สร้างสีสันและความชื่นใจให้กับผู้ที่ได้สัมผัส ทั้งการมองเห็นด้วยสายตา สูดกลิ่นหอมชื่นใจ รสชาติยังไม่เหมือนอาหารชนิดไหน กินแล้วพาให้กาย-ใจเย็นขึ้น “ข้าวแช่” เป็นตำรับอาหารพื้นบ้านชาวมอญ  เมนูประจำหน้าร้อน  ที่เรียกตามภาษามอญว่า "เปิงด๊าดจ์"  ซึ่ง "เปิง" แปลว่า "ข้าว" และ "ด๊าดจ์" แปลว่า "น้ำ"  ดังนั้น "เปิงด๊าดจ์" จึงมีความหมายว่า "ข้าวน้ำ"  นิยมทำขึ้นเพื่อถวายทวยเทพในเทศกาลตรุษสงกรานต์ โดยทำถวายแด่พระสงฆ์ และนำไปให้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ในสมัยก่อนคนไทยและคนมอญมีการเชื่อมสัมพันธ์กัน จนเมื่อครั้งที่สตรีชาวมอญได้เข้ารับราชการฝ่ายในเป็นเจ้าจอมหม่อมห้ามของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน จึงได้ปรุงข้าวแช่เพื่อถวาย ต่อมา ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ผู้ที่เคยทำงานห้องเครื่องต้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้นำข้าวแช่ออกมาแนะนำจนเป็นที่แพร่หลาย และมีสูตรการทำที่แตกต่างกันไปตามแบบฉบับของแต่ละคนแต่ก็ยังเค้าโครงของข้าวแช่แบบดั้งเดิมเอาไว้ วิธีการทำข้าวแช่ เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ จากการพูดคุยกับ

ห้องอาหาร อัพ แอนด์ อะบัฟ  (Up & Above restaurant) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ชวนทุกท่านมาลิ้มลอง “ข้าวแช่ชาววัง” สูตรต้นตำรับ ให้บริการเป็นพิเศษตลอดเดือนเมษายน 2563 เท่านั้น ข้าวแช่ เมนูตำรับไทยชาววังที่นิยมรับประทานกันในช่วงเดือนเมษายนเพื่อคลายร้อนมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ห้องอาหาร อัพ แอนด์ อะบัฟ  จึงมีข้าวแช่ให้บริการเป็นประจำทุกปี ประกอบไปด้วยข้าวหอมมะลิคุณภาพดีหุงสุกใหม่แช่ในน้ำลอยดอกไม้ไทยหลายชนิดหอมเย็นชื่นใจ จัดเป็นสำรับอย่างสวยงามให้บริการคู่กับเครื่องเคียงที่คุณโปรณปรานหลายชนิดที่ล้วนปรุงอย่างพิถีพิถัน อาทิ ลูกกะปิทอด ปลายี่สกผัดน้ำตาล ไชโป๊วผัดหวานกับหอมเจียว เนื้อและหมูหวานฝอย และพริกหยวกไส้หมูสับ “ข้าวแช่ชาววัง” สูตรต้นตำรับ ราคาชุดละ 490++

การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป บางครั้งก็พาให้เราไปผิดทาง เพราะหลายครั้ง ข้อมูลในโลกดิจิทัลก็ไม่ใช่เรื่องจริงที่เชื่อถือได้เสมอไป ดังที่หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ในการใช้แผนที่อิเล็กทรอนิกส์ในการนำทาง แต่คนที่ปักหมุดหรือสร้างเส้นทางไว้ อาจจะพาเราไปผิดที่ หรือไม่ก็เป็นเส้นทางที่ไม่ควรใช้งาน อ้อมเกินไป เข้าพงเข้าป่า หรือเป็นเส้นทางลัดที่แสนเปลี่ยว แต่ด้วยความใส่ใจของผู้ให้บริการก็สามารถทำให้เจ้าของกิจการตัวจริง ได้ออกมาสร้างข้อมูลจริงทั้งด้านรายละเอียดของกิจการ อัพเดทเส้นทางและข้อมูล พร้อมรับฟังข้อคิดเห็นของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ไม่ต่างจากโซเชียลมีเดีย แต่มีวงกว้างกว่ามาก เครื่องมือที่เรากำลังพูดถึงคือ Google My Business จากทาง Google ซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีที่เปิดโอกาสให้เจ้าของธุรกิจ ทั้งที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือ ธุรกิจบริการต่างๆ เข้ามาใช้เพื่อประโยชน์ของทางร้านเอง ดึงความเก๋า ก้าวสู่โลกดิจิทัล [caption id="attachment_19589" align="aligncenter" width="900"] คุณแสตมป์-กมเลศน์ กอสกุล[/caption] อย่าว่าแต่ร้านอาหารที่ตั้งชื่อเหมือนกันเลย หากมีร้านดังเกิดขึ้นที่ไหน ก็จะมีร้านที่อาศัยความดังผุดไปห้อยอยู่ใกล้ๆ แบบที่ผนังติดกันเลยก็มี หากเราเดินทางไปเที่ยว จ.สมุทรสงคราม แล้วนึกอยากกินอาหารทะเล ชื่อของ

อาหารคือเรื่องราวหนึ่งในชีวิตของผู้คน ที่แสดงออกถึงสไตล์ที่แตกต่างของคนในแต่ละวัฒนธรรม แม้ว่าวันนี้ประเทศไทยจะมีร้านใหม่ๆ จากหลายชนชาติเข้ามาเปิดให้บริการ แต่ร้านอาหารระดับตำนานที่ยืนหยัดอยู่ในความทรงจำของคนแต่ละรุ่นก็ยังไม่ได้หายไปไหน เพราะสิ่งหนึ่งที่ทุกคนสัมผัสได้นอกจากรสชาติของอาหารแล้ว “ความผูกพัน” ที่มีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง หรือ คนรัก ต่างเป็นช่วงเวลาที่เราต่างอยากให้ย้อนกลับคืนมา หรือไม่

คนอารมณ์ดี อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ดอกไม้ก็คงอารมณ์ดี เพราะเจอทุกทีก็มีแต่ความสดชื่น โดยเฉพาะเจ้าดอกเล็กๆ สีเหลือง  ที่กำลังบานเต็มทุ่งตอนนี้  บอกได้เลยว่า เธอทั้งสวย เย็นชื่นใจ เหมือนสภาพอากาศของมวกเหล็กในตอนนี้ ดอกเก๊กฮวย เป็นดอกไม้ที่มีทั้งความสวย และให้กลิ่นและรสที่หอมอร่อย แถมยังเป็นความสวย อร่อย และมีประโยชน์ เพราะออกฤทธิ์เย็น ช่วยแก้กระหาย แก้ร้อนใน เราดื่มเก๊กฮวยกันเป็นประจำ แต่อาจจะไม่เคยเห็นหน้าตาของมัน ส่วนใครที่ซื้อแบบตากแห้งมาต้มเองก็อาจจะเจอแต่กลีบเฉาๆ ไม่เป็นรูปร่าง แต่ก็ใช่ว่าจะหาตัวเธอได้ยาก แม้จะมีบางสายพันธุ์ที่อยู่ในป่า แต่วันนี้เก๊กฮวยพันธุ์ที่นิยมนำมาต้มน้ำกินก็เป็นพืชที่นิยมปลูกกันมากขึ้น ในช่วงปลายปี เก๊กฮวยกลายเป็นอีกเป้าหมายของนักท่องเที่ยว ซึ่งเดิมทีการจะเที่ยวชมทุ่งดอกเก๊กฮวยจะต้องไปทางภาคเหนือ เพราะเป็นที่สูงและมีอากาศเย็น ซึ่งเหมาะแก่การเจริญงอกงามของเก๊กฮวย แต่ตอนนี้หลายคนคงรู้แล้วว่า สามารถเที่ยวชมทุ่งดอกเก๊กฮวยได้ไม่ไกลจากกรุงเทพ “เก๊กฮวย” เป็นพืชดั้งเดิมของจีนและญี่ปุ่น แต่แพร่กระจายทั่วไปในกัมพูชา ลาว และไทย สามารถปลูกได้ดีในพื้นที่สูง ดอกเก๊กฮวย อยู่ในวงศ์ของดอกทานตะวัน มีชื่อเรียกหลากหลาย ทั้ง

[caption id="attachment_18974" align="aligncenter" width="900"] วิวแม่น้ำท่าจีนจากห้องพัก[/caption] นับจากปี พ.ศ.2505 ก้าวสู่ 58 ปีของสวนสามพราน  ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากรุ่นคุณปู่คุณย่าที่เข้ามามองหาพื้นที่สร้างบ้านพักริมแม่น้ำ สืบสานเป็นแหล่งท่องเที่ยว ตกทอดมาถึงรุ่นคุณพ่อคุณแม่ จนมาถึง Gen 3 ลูกหลานคนรุ่นใหม่ ซึ่งตั้งใจให้สวนสามพราน ก้าวสู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ พร้อมเชิดชูวิถีธรรมชาติแบบไทยๆ เปิดให้ทุกคนเข้ามาเที่ยวชม หลายคนเคยมาท่องเที่ยวหรือพักผ่อนที่สวนสามพราน ซึ่งปัจจุบันมีความก้าวหน้าเพื่อมุ่งหาความยั่งยืน ก่อเกิดเป็นเครือข่าย สามพรานโมเดล จนเป็นหนึ่งต้นแบบของวิถีเกษตรของประเทศไทย ที่ดีต่อสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะส่งต่อแนวคิดที่ดีนี้ไปยังหน่วยงานหรือองค์กรอื่นๆ เพื่อสร้างสังคมที่สุขใจ ทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้บริโภค เป็นรากฐานความสมดุลในวิถีธรรมชาติที่ใครได้มาสัมผัสแล้วจะหลงรัก สวนสามพรานก่อตั้งในปีพ.ศ. 2505  โดยเป็นแหล่งนันทนาการเพื่อการเรียนรู้ใกล้กรุงเทพฯ ที่ถ่ายทอดวิถีความเป็นไทยผ่านกิจกรรมในหมู่บ้านไทย และโรงละคร โดยหลังจากสวนสามพราน ได้เป็นผู้นำร่วมขับเคลื่อนระบบอาหารยั่งยืนภายใต้สามพรานโมเดล(โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม)  ตั้งแต่ปี

ความทรงจำเป็นรสชาติของความสุขที่กลมกล่อม เราต่างมีความทรงจำดีๆ ประทับอยู่ในใจ ยิ่งเนิ่นนานไป รสชาติก็ยิ่งชัดเจน แม้ภาพจะลางเลือน แต่ความรู้สึกกลับเข้มข้นมากขึ้นทุกที วันนี้เราพบภาพแห่งรอยยิ้ม บนเส้นทางท่องเที่ยวชมวิวรอบเกาะรัตนโกสินทร์โดย Siam Gourmet Bus ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 11/11/2562 รสบัส 2 ชั้น ขนาด 28 ที่นั่ง ถูกออกแบบให้หันsหน้าเข้าหากันโดยมีโต๊ะคั่นกลาง แบบ 2 ที่นั่ง และ 4 ที่นั่ง ทั้งหมดตั้งอยู่บนชั้น 2 ของรถ ส่วนชั้นล่าง เป็นห้องครัวสำหรับการจัดเตรียมอาหาร และห้องน้ำ ชื่อว่า Siam Gourmet Bus ก็บอกแล้วว่าต้องเกี่ยวข้องกับการกินดื่ม คอนเซ็ปต์ของการนั่งรถชมวิวเมืองกรุง จึงมาพร้อมกับการดื่มด่ำมื้ออาหารที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน จากร้านอาหารชื่อดัง เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้สัมผัสถึงรสชาติแห่งความเป็นไทย ไปพร้อมๆ กับการชื่นชมความงดงามของกรุงเทพซึ่งได้ชื่อว่า

ชาวอีสานมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับการทำประมงน้ำจืด ไม่ว่าจะเป็นห้วย หนอง คลอง บึง หรือ แม่น้ำขนาดใหญ่ อย่างแม่น้ำโขง ที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในหลายจังหวัด แต่หากถามว่า แหล่งการทำประมงน้ำจืดขนาดใหญ่อยู่ที่ไหน ต้องไปพิสูจน์ให้เห็นกับตา ที่ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ [caption id="attachment_18757" align="aligncenter" width="900"] จุดชมวิวบริเวณเขื่อนลำปาว สามารถแวะชมได้ก่อนเข้าตัวเมืองสหันขันธ์[/caption] [caption id="attachment_18751" align="aligncenter" width="900"] อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว[/caption] [caption id="attachment_18752" align="aligncenter" width="900"] คุณไก่-สมฤทธิ์ จัตุเทน[/caption] บริเวณอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนลำปาว ใน อ.สหัสขันธ์  เป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ สามารถทำการประมงได้ทั้งปี  คุณไก่-สมฤทธิ์ จัตุเทน ประธานท่องเที่ยว ต.ภูสิงห์ เล่าว่า ปัจจุบันมีกระชังเลี้ยงปลาในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ราว 65,000 

ความเงียบสงบ ปลอดภัย และเป็นมิตร คงเป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เรามองเห็นบรรดานกยูง เดินเล่นกันอย่างเย็นใจ โดยไม่ได้ตื่นกลัวผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย นี่อาจจะเป็นเสน่ห์ของเมืองไกลที่หลายคนอาจจะไม่เคยคุ้นอย่าง “สหัสขันธ์” จ.กาฬสินธุ์ อำเภอเล็กๆ เงียบๆ ที่ซ่อนของดีไว้เพียบ โดยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นำคณะสื่อมวลชนมาสัมผัสถึงความงดงามในครั้งนี้ ทันทีที่มาถึง อ.สหัสขันธ์ เรามุ่งหน้าไปที่ “วัดเวฬุวัน” เพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ ภายในพระพุทธเจดีย์ศรีสัตตราช ลักษณะเจดีย์เป็นแบบศิลปะประยุกต์ผสมผสานระหว่างภาคกลางและภาคอีสานตอนบนแถบลุ่มแม่น้ำโขง ด้านหลังและชั้นบน จัดแสดงพิพิธภัณฑ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันสำคัญเพราะเป็นพุทธสถานที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้ขอพรตลอดทั้งปี จากนั้นเดินทางต่อไปยังสวนไดโนเสาร์ ซึ่งมีรูปปั้นไดโนเสาร์ตัวใหญ่น้อย ออกลีลาท่าทางเป็นที่ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สังเกตได้จากสภาพอากาศท่ามกลางแดดจ้า แต่ก็ไม่มีใครยอมละสายตาออกจากความสนุกไปง่ายๆ เที่ยงวันนี้ เรารับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารไทนิคม ซึ่งอยู่ตรงข้ามสวนไดโนเสาร์ โดยมีเมนูเอกเป็น “จุ่มปลา” จากนั้นก็เดินทางเข้าที่พักเพื่อเก็บสัมภาระที่ “นฤมลโฮมสเตย์”  ห้องพักแบบเรียบง่ายวิวอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว แถมด้วยเพื่อนข้างบ้านเป็นฝูงควายน่าตาขี้สงสัย วนเวียนกินนอนอยู่ทั้งบนบกและในน้ำ อยากจะอยู่เล่นด้วยนานๆ แต่ก็มีสถานที่สำคัญให้เราออกตามหาต่อไปในช่วงบ่ายนี้ อ.สหัสขันธ์ เป็นเมืองเล็กๆ  ไปไหนมาไหนจึงใช้เวลาไม่มาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวชื่นชอบชีวิตแบบสโลไลฟ์จริงๆ

 "เขา"  นอกจากจะเป็นชื่อเรียกสรรพนามบุรุษที่ 3 "เขา" ทางภาคใต้ ยังหมายถึง "ภูเขา"  ในดินแดนแห่ง “เขา ป่า นา เล” ของเมืองนคร ฝั่งหนึ่งก็คือความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขาที่งดงามอลังการ โดยวันนี้ เราได้เดินทางไปที่ อ.นบพิตำ ที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อกันมากนัก แต่บอกเลยว่า ระวังจะตกหลุมรักได้ง่ายๆ ที่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ มีจุดชมทะเลหมอกยามเช้าอันแสนสดชื่นและสวยงามไม่แพ้ที่ไหน 3 จุด ในทริปนี้เราได้แทรกตัวลงในที่พักท่ามกลางขุนเขา แล้วก็ต้องตัดบทในเช้ามืด สะบัดผ้าห่มอุ่นๆ มาพร้อมความงัวเงีย มุ่งไปคลอเคลียไอหมอกที่  “จุดชมทะเลหมอกเขาเหล็ก” เช้าที่ยังมืดมาก ราวตีห้ากว่าๆ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นอะไรในเบื้องแรกที่มาถึง จากบริเวณจุดจอดรถ ใช้เวลาเพียงอึดใจเดียวก็เดินไปถึงจุดชมวิว “ทะเลหมอกเขาเหล็ก” ซึ่งมีชื่อเรียกตามความเป็นมาในอดีต โดยพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองแร่เหล็กมาก่อนที่จะปิดตัวลงในปี พ.ศ. 2512 เขาเหล็กเป็นภูเขาที่มีความสูงประมาณ 330