Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

meetSPACE

ในความทรงจำของใครหลายคนบอกว่า กว่าจะกินผักคะน้าเป็นก็แสนยากเย็น ด้วยรสชาติที่อาจจะเหม็นเขียว หรือแอบขม สำหรับเด็กๆ ที่ยังคุ้นเคยกับรสชาติหวานมันที่กินได้ง่ายกว่า แต่หากถามว่า กว่าจะปลูกคะน้าได้แต่ละต้น มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ได้ยินมาว่าอาจต้องใช้เวลาเกือบ 10 ปี เพราะแม้จะใช้เวลาเพียง 50 วันต่อรอบการเติบโตของคะน้า แต่ก็ไม่ได้การันตีว่า เราจะได้กินคะน้าดังใจหวัง เราได้เรียนรู้หลักสูตรเร่งด่วน จากประสบการณ์ล้วนๆ ของ คุณธานินทร์ เทพสุรินทร์ เจ้าของ “หอมค่ะน้า คาเฟ่” และ โรงคั่วกาแฟกาญจนบุรี  สถานที่พักผ่อน ชิม แชะ ชิลล์ ชมวิวสวยเมืองกาญจน์ที่บอกได้ว่าห้ามพลาด เพราะความสงสัยนำมาซึ่งการจดจำ “หอมค่ะน้า” จึงตั้งใจเติมไม้เอกลงไปตรงคำว่า “คะ” เพื่อสื่อสารถึงตัวของเจ้าของร้านซึ่งมีหลานๆ หลายคน จึงควบเสียงคำว่า “คะน้า” เป็น “ค่ะน้า” สร้างกิมมิคเล็กๆ

หนังสือคือโลกของจินตนาการ เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ เป็นเพื่อนรักที่เราอยากหยิบจับสัมผัส เป็นสื่อที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ทั้งด้านเนื้อหาและการดีไซน์ เป็นอะไรได้หลายอย่างนอกเหนือจากคำว่าความรู้  ผู้ปกครองรุ่นใหม่จึงให้ความสำคัญกับการอ่านเป็นอย่างมาก และท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ร้านหนังสือหลายแห่งปิดตัวลงไปเช่นเดียวกับตัวหนังสือหลายประเภท และแม้ว่าแพลทฟอร์มทั้งหมดจะถูกแปลงไปสู่โลกออนไลน์ แต่ใช่ว่าร้านหนังสือจะไร้ความหมาย และที่สำคัญคือ “คนรักหนังสือ” ก็ยังมีอยู่อีกมาก   บีทูเอส จึงสร้างพื้นที่ “Book Community” เปิดตัว “B2S Book Club” คลับสำหรับคนรักหนังสือภายใต้เคมเปญ “อ่านเถิดที่รัก” รณรงค์ให้เด็กนักเรียนและประชาชนทั่วไปได้เห็นถึงความสำคัญของการอ่านหนังสืออันเป็นรากฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาการเรียนรู้และต่อยอดสู่ทักษะในด้านต่างๆ พร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายอเล็กซองด์ ฮัมเมล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.บีทูเอส จำกัด เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมเชิญ คุณก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล ร่วมเผยถึงความรักในการอ่านหนังสือพร้อมแนะนำหนังสือเล่มโปรด ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักอ่าน ณ ธิงค์สเปซ บีทูเอส เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายอดิเรก

อย่างที่ทราบกันดีว่า อัญมณีและเครื่องประดับเป็นสมบัติล้ำค่าที่มีประวัติศาสตร์คู่กับมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน ดังนั้น จึงสิ่งที่เรียกว่า "สมบัติอันล้ำค่า" นอกเหนือจากมูลค่าแล้ว ยังหมายถึงรากเหง้าของมนุษย์ในแต่ละพื้นถิ่น ที่ได้ถ่ายทอดศิลปะ ความเชื่อ และวัฒนธรรม  ส่งผ่านเครื่องประดับแต่ละชิ้น เป็น "สมบัติระดับระดับชาติ" จากภูมิปัญญาของช่างฝีมือไทย ไม่เพียงแต่การเป็นฐานการผลิตที่มีช่างฝีมือระดับมือทองอยู่มาก แต่ยังลงลึกไปถึงรากเหง้าที่แตกต่างกัน อันเป็นเสน่ห์อันลึกซึ้งของเมืองไทย [caption id="attachment_18292" align="aligncenter" width="900"] ladycrystal : พังงา[/caption] ล่าสุด meetThinks ได้เข้าชมผลงานเครื่องประดับจากการออกแบบของแต่ละท้องถิ่นในเมืองไทย ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับส่วนภูมิภาค  โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ภายใต้ระยะเวลาดำเนินงานราว 2 ปี รวม 15 จังหวัด และได้นำผลงานเหล่านี้ มาจัดแสดงโชว์ในงาน Bangkok Gems

  ในแต่ละปี อินโดรามา เวนเจอร์ส ได้นำขยะขวดพลาสติก PET มาใช้ในกระบวนการรีไซเคิลเพื่อแปรรูปเป็นเม็ดพลาสติก และเส้นใยสังเคราะห์รีไซเคิลในปริมาณมากถึง 3.3 แสนตันต่อปี เพื่อส่งต่อให้ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และเครื่องแต่งกายทั้งในประเทศและต่างประเทศ นั่นหมายความว่า “ขวดพลาสติกที่ใช้แล้วไม่ได้เป็นแค่ขยะ”หากมองเห็นคุณค่าของ “การรีไซเคิล” หรือการนำกลับมาใช้ใหม่ที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้โดยอาศัยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ มันจะสามารถสร้างรายได้ และยังสามารถลดของเสียจากอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่งด้วย และนั่นก็เป็นแนวคิดและที่มาของ โครงการประกวดออกแบบแฟชั่นรักษ์โลก RECO Young Designer ซึ่งจัดขึ้นปีนี้เป็นปีที่ 8” [gallery columns="2" size="full" ids="18243,18242"] นายริชาร์ด โจนส์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล ผู้นำด้านเคมีภัณฑ์ระดับโลก อธิบายว่า โจทย์ในปีนี้จะเน้นการนำวัสดุรีไซเคิล PET  เส้นใยโพลีเอสเตอร์เหลือใช้

“ฮาลาล” มาจากภาษาอาหรับ มีความหมายว่า “อนุมัติ” โดยอิสลามได้กำหนดให้มนุษย์บริโภคสิ่งที่ฮาลาลและดี (ตอยยิบ) ที่ผ่านมา เราอาจจะเคยได้ยินเพียงว่า อิสลามไม่รับประทานหมูและไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกออฮอล์ แต่แท้จริงแล้ว ยังมีความเชื่อตามหลักศาสนาที่น่าสนใจอีกมาก ไม่เฉพาะผู้ที่อยู่ในศาสนาอิสลามเท่านั้น เพราะวันนี้ เรื่องของอาหาร อันเป็นอนาคตทางความมั่นคงของโลก มีทางเลือกของอาหารฮาลาล เข้ามาเป็นอีกหนึ่งในประเด็นที่น่าติดตาม ในโอกาสครบรอบ 16 ปี ของ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) ได้มีการจัดนิทรรศการสิ่งต้องห้ามและต้องสงสัยตามหลักศาสนบัญญัติอิสลาม Exhibition on Don’ts and Doubts  ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ สำนักงานสวนหลวงสแควร์ (ซอยจุฬา 12) เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้งานด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล และเป็นประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศไทยให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแหล่งเรียนรู้ให้นิสิต

ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT ชี้ทางและสร้างโอกาสให้กับผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมจากฝีมือชนเผ่าและกลุ่มชาติพันธุ์ สู่กลุ่มผู้ที่ต้องการใช้งานคราฟต์ ในชีวิตประจำวัน รวบรวมและนำมาจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย กว่า 55 ร้าน ในงาน “ชีวิตใหม่ ใต้ร่ม พระบารมี ครั้งที่ 2” เริ่ม 8 – 12 สิงหาคม นี้ ที่ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น M ควอเทียร์แกลอรี่ และชั้น G ควอเทียร์ อเวนิว นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า งาน “ชีวิตใหม่ ใต้ร่มพระบารมี”

แค่คำว่า "กินข้าวโรงหนัง" ก็เชื่อว่าประสบการณ์นี้ ไม่ได้เข้าถึงกันง่ายๆ เพราะหากเป็นลูกค้าทั่วไป แค่เบอร์เกอร์ ไก่ทอด หรือ กล้วยแขก ก็ห้ามกินในโรงหนัง เพราะไม่ว่าเป็นอาหารชนิดใดที่โรงหนังไม่ได้ขาย  จะไม่อนุญาตให้นำเข้าไป แต่สำหรับลูกค้าคนพิเศษ ก็อาจจะมีแนวทางเป็นไปได้ ไม่นานมานี้ บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟรับเดือนแห่งวันแม่ “Love Inspired By Chef Chumpol” เปิดประสบการณ์ Dine – in Cinema Experience ครั้งแรกของประเทศไทย ตอกย้ำแนวคิด Class of Living ชีวิตที่มีระดับ

เยาวชน คนรุ่นใหม่ ก้าวเข้าสู่การเรียนรู้วิถีพื้นถิ่น ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของคนรุ่นเก่า จากความสนุกสนานกลายเป็นความสนใจ ต่อยอดไปสู่การสืบสาน ประกาศให้คนภายนอกได้รับรู้ว่า “บ้านนอก” หรือ “บ้านๆ” ของพวกเขา อาจจะเป็นถนนสายวัฒนธรรมสายเล็กๆ ที่ไม่ได้มีความอลังการใด แต่นี่ก็คือถนนที่หัวใจดวงเล็กๆ กำลังรวบรวมเพื่อสร้างเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ จากคนรุ่นเก่า สู่คนรุ่นใหม่สร้างสรรค์ให้ความบ้านๆ ของ “บ้านนอก” ไปสู่ “รักษ์บ้านนอก” จากความสนุกสนาน  กลายเป็นความสนใจ จากความสนใจต่อยอดสู่การสืบสาน จากคนรุ่นเก่าผู้เฝ้ารอการมาเยือนของลูกหลานด้วยรอยยิ้ม ผู้ตอบการซักถามของคนรุ่นใหม่ด้วยเมตตา บอกกล่าวถึงวิถีพื้นบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่คนรุ่นเก่าเหล่านี้บ่มเพาะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมายาวนาน สายใหมสีทอง ถูกดึงจากจากฝักเหลืองอร่าม เรียงร้อยเป็นขดงาม สายใยเส้นนี้สืบสานความรัก ความอบอุ่น จากคุณยายสู่คุณแม่ จากคุณแม่สู่ลูกสาว ตอกไม้ใผ่เส้นบาง ที่มองด้วยสายตาว่า บางมากแล้วนั้น พลันคุณตาก็กรีดคมมีดผ่าลงไป กลายเป็นตอกเส้นบางลงไปอีกเส้น

โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ขอเชิญชมงานแสดงนิทรรศการศิลปะ “ผ่านดวงตาและสีสัน” โดยศิลปินมากความสามารถ เอกรัตน์ อรุณรัตน์ และปัญจรัตน์ พลพลึก โดยรายได้จากการจำหน่ายภาพส่วนหนึ่งจะร่วมสบทบทุนให้แก่ มูลนิธิดร.กำจัด - ปราณี มงคลกุล นิทรรศการครั้งนี้ นำเสนอเรื่องราวความจริงของชีวิตและความเป็นไปในสังคมมนุษย์ ผ่านผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ขึ้น โดยศิลปินได้ตีความผลงานผ่านประสบการณ์ตรงที่กระทบจิตใจโดยตรง นำมาวิเคราะห์ ตีความ ผ่านแง่มุมการนำเสนอที่เป็นไปตามเสน่ห์ของศิลปิน และผลงานอื่นๆที่น่าสนใจ ที่ใช้สีโดดเด่น ด้วยเทคนิคพิเศษที่ควบคุมได้ยาก เนื้อสีมากมายถูกบีบหยดลงบนผืนผ้าใบสิบเฉดนับไม่ถ้วน เอกรัตน์ อรุณรัตน์ - ศิลปินผู้มีศรัทธา มุ่งมั่นตั้งใจ ผลงานของเขามีเอกลักษณ์โดดเด่นชัดเจน ถึงแม้ผลงานของเขาจะประกอบด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักโทนสีที่ดูสดใส แต่ทว่าเนื้อหาภายในสุดลึกล้ำ สะท้อนชีวิตมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ปัญจรัตน์  พลพลึก - ศิลปินผู้แสดงความงามผ่านความหยาดเยิ้ม หยดย้อยของสีเหล่านั้น  ศิลปินเชื่อว่าความงามสามารถพินิจในหลายรูปแบบ  เธอจึงสร้างสรรค์เทคนิคและรูปทรงที่บิดเบี้ยว เพี้ยนไปจากประสบการณ์ที่คุ้นเคย ขอเชิญชม นิทรรศการศิลปะ

การได้ทำในสิ่งที่ชอบ แล้วรับผลตอบแทนเป็น “รายได้” ก็ถือว่า “คุณเป็นผู้โชคดี” มากแล้ว แต่หากการได้ทำในสิ่งที่ชอบ แล้วสามารถสร้างรายได้ พร้อมสร้างความสุขให้กับคนอื่นได้ นั่นถือเป็น “รางวัลแจ็คพอต”    เราไม่ได้หมายถึงธุรกิจที่ขายของแล้วใช้กลยุทธ์ CSR สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คน แต่หมายถึง ความสุขจริงๆ จากการได้พบเจอกัน เหมือนที่ผู้ชายคนหนึ่งมักจะยืนอมยิ้มปริ่มไปด้วยความปลื้มใจ เมื่อเห็นเด็กน้อยหัวใจพองโต หรือคนตัวโตที่หัวใจยังอ่อนโยน คอยละเลียดเมียงมองเจ้าหุ่นเหล็กรูปแบบต่างๆ ในอาณาจักรแห่งความสุขของเขา [caption id="attachment_17964" align="aligncenter" width="900"] กิตติ หรูหราพูนทรัพย์[/caption] “กิตติ หรูหราพูนทรัพย์” ผู้ก่อตั้ง Metal Art Gallery  เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยประสบการณ์ด้านวิศวกร ที่อยู่กับชิ้นส่วนของอะไหล่รูปแบบต่างๆ  ชื่นชอบช่วงเวลาได้อยู่กับชิ้นส่วนหรือโครงสร้าง จนได้เจอกับเพื่อนที่สร้างงานศิลปะจากเศษเหล็ก

เราไม่จำเป็นต้องสร้างค่านิยมให้คนไทยรักของไทย แต่คนไทยทุกคนจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าของไทยมีดีอย่างไร หากหยิบยกประเด็น “ผ้าไทย” ขึ้นมาพูดถึง นอกเหนือจากคำว่าภูมิปัญญาที่สืบทอดกันนานมา เป็นสิ่งบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ภายใต้วิถีความเป็นอยู่ของแต่ละท้องถิ่น และนี่คือหนึ่งในสินค้าที่มีอนาคตทั้งตลาดในเมืองไทยและตลาดโลก ดังนั้นความรู้สึกเดิมๆ ที่ว่า “ผ้าไทย” ใส่แล้วดูเชย ดูสูงวัย วันนี้คงต้องทบทวนความรู้สึกกันใหม่ เราไห้เห็นผ้าไทยที่เก๋ไก๋ได้ในทุกที่ เพราะมีการนำผ้าไทย มาประยุกต์ ดัดแปลง แต่งเติม จนเป็นที่น่าสนใจ บางลวดลาย บางแบบ ก็ดูดีมีราคาไม่ต่างกับแบรนด์หรู คนไทยในปัจจุบันจึงสรรหาผ้าไทยมาประดับตกแต่งหรือใส่ในโอกาสต่างๆ รวมทั้งการท่องเที่ยว ซึ่งเทรนด์ของการสวมผ้าไทย ก็ไม่ใช่แค่การนุ่งชุดไทยไปวัดเท่านั้น ล่าสุด ททท. เปิดแคมเปญ “นุ่งสยามสามฤดู” ชูแนวคิด “ซื้อผ้าไทย ใส่ผ้าไทย เที่ยวเมืองไทย” จับมือ Influencer ด้านแฟชั่นผ้าไทย สร้างแรงบันดาลใจในการเดินทาง พร้อมเปิดตัว Look Book

ที่นี่ คือศูนย์รวมจิตวิญญาณของชุมชน ที่นี่ คือศุนย์รวมแห่งความหวังและยำเกรง ที่นี่ คือศูนย์รวมของวัตถุดิบชั้นดีของเมนูพื้นบ้าน “ดอนปู่ตา” คือป่าวัฒนธรรม เป็นอีสานสโตร์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นกุศโลบายของบรรพชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รักษาผืนป่าเอาไว้ให้เป็นแหล่งพันธุ์พืช เพาะวัตถุดิบในการประกอบอาหารตำหรับพื้นบ้าน เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ขนาดเล็ก สร้างเป็นระบบนิเวศวิทยาที่ธรรมชาติจัดสรรอย่างกลมกลืน สร้างสมดุลและสอดคล้องระหว่างชาวบ้าน พืชและสัตว์ ได้อยู่อาศัยเกื้อกูลกันเสมอมา “ดอนปู่ตา” ยังเป็นสถานที่ในการประกอบพิธีกรรมตามวิถีความเชื่อของชุมชน กรอบจารีตประเพณีอีสาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เป็นแนวทางในการดำรงชีพ และความมุ่งหวังในอนาคตเพื่อปรับสภาวะจิตใจให้มั่นคงจากผลอันเกิดจากการเสี่ยงทายที่เป็นไปในลักษณะใดก็ได้ ทั้งนี้เพื่อจะได้เตรียมรับสถานการณ์อันอาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ประมาท บางครา “ดอนปู่ตา” ก็เป็นที่พึ่งทางจิตใจของชาวบ้านในชุมชน  https://youtu.be/HGMnxLzOHic ความเป็นมา ดอนปู่ตาเป็นบริเวณป่าที่ดอนที่น้ำท่วมไม่ถึง มีไม้ใหญ่น้อย ไม้เถา ไม้เลื้อย ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น รวมทั้งยังมีผลิตผลจากป่า อาทิ เห็ดชนิดต่างๆ ทั้งเห็ดปลวก เห็ดผึ้ง เห็ดระโงก วิถีชุมชนชาวอีสานมีความเชื่อในบาป บุญ เคร่งครัดในจารีตประเพณี ปฏิบัติกิจตามความเชื่อนี้อย่างมั่นคง เพื่อสร้างขวัญ

พอเอ่ยถึง “บ้านนอก“ หลายคนคงนึกไปถึง ถิ่นที่อยู่ห่างไกล ความเชย ล้าหลัง ไม่ทันสมัย และแน่นอนต้องอยู่ต่างจังหวัด เมื่อถึงช่วงเทศกาล หรือมีวันหยุดติดกันยาวนานหลายวัน กิจกรรมหนึ่งที่คนจาก “เมือง“ มักกระทำกัน คือ ไปต่างจังหวัด ไปไหน? ไปต่างจังหวัด

“คร่ำ” งานหัตถศิลป์ชั้นสูงที่หาชมได้ยาก และอาจจะอยู่ห่างไกลจากชีวิตประจำวันของคนทั้งไป จนทำให้หลายคน โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ไม่รู้จักคร่ำ งาน “คร่ำ” เป็นการตกแต่งลวดลายบนพื้นโลหะประเภทเหล็กโดยใช้เครื่องมือสกัดให้เป็นลวดลายบนพื้นโลหะต่างชนิด เช่น เงิน ทอง นากลงไปแล้วขัด หรือที่ศัพท์ช่างเรียกว่า กวดผิวให้เรียบจะเกิดลวดลายจากสีของโลหะที่ต่างกัน ตามลวดลายที่สลักและฝังโลหะไว้ ลงบนผิวหน้าของเครื่องใช้ที่ทาด้วยเหล็ก หากใช้เส้นเงินฝังเรียก คร่ำเงิน หากใช้เส้นทองฝังเรียก คร่ำทอง หากใช้เส้นนากฝังเรียก คร่ำนาก โดยจะต้องทำให้ผิวเหล็กเกิดเป็นรอยที่ละเอียดด้วยการใช้เหล็กสกัดที่คมบางแต่แข็งแกร่งตีสับลายตัดกันไปมาบนผิวโลหะให้เกิดความขรุขระ จากนั้นจึงใช้เส้นทองหรือเส้นเงิน หรือเส้นนากตอกให้ติดเป็นลวดลายวิจิตรงดงามตามที่ต้องการ ประเภทเครื่องใช้ที่จะตกแต่งใช้วิธีคร่ำ ต้องเป็นของที่ทามาจากเหล็ก เช่น ตะบันหมาก กรรไกรหนีบหมาก หัวไม้เท้า กรรไกรตัดผม ไปจนถึงเครื่องราชูปโภค เครื่องเหล็กซึ่งนิยมตกแต่งลวดลายด้วย การคร่ำเงิน คร่ำทอง หรือคร่ำนาก มักเป็นเครื่องราชศัสตราวุธ เช่น พระแสงดาบ พระแสงหอก พระแสงง้าว

วันที่ลืมตาดูโลก ฉันอาจจะเป็นคนหนึ่งที่ได้นอนบนเสื่อกระจูด  ป้าของฉันเรียกมันว่า “สาดจูด” ตามประสาคนใต้ที่ชอบรวบรัดตัดคำให้สั้นลง นั่นคงเป็นสิ่งแรกที่นึกถึงกระจูด แม้วันนี้เราเดินทางมาไกล และอาจจะห่างจากบ้านเกิด ห่างจากสาดจูด และห่างจากลุงป้าน้าอา แต่ความทรงจำยังไม่เคยเลือนหาย ภาพของกระจูดยังแจ่มชัด เช่นเดียวกับความผูกพันของคนในเครือญาติ เมื่อมีโอกาสตามติดชีวิตของกระจูดอีกครั้งจึงได้รู้ว่า กระจูดเองก็เดินทางไปไกลแล้วเช่นกัน กระจูดเป็นพืชตระกูลเดียวกับ “กก” จริงๆ แล้วเกิดขึ้นเป็นวัชพืชในที่น้ำขังตลอดเวลา ดังนั้นที่ที่กระจูดจะใช้ชีวิตอยู่ได้ก็ต้องเป็นแหล่งน้ำจืดที่ไม่เคยแห้งแล้ง รู้จักกันในนาม “ป่าพรุ” ซึ่งเป็นดินโคลนที่มีน้ำขังทั้งปี ดังนั้นใครที่สนใจปลูกกระจูดก็สามารถนำกระจูดไปปลูกไว้ในอ่างได้ กระจูดตามธรรมชาติของพื้นที่ในประเทศไทย มีอยู่ใน 5 จังหวัดทางภาคใต้เท่านั้น คือ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา นราธิวาส แต่ละพื้นที่ก็มีการสานกระจูดมานาน มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์และรูปแบบของตัวเอง สำหรับกระจูดที่พัทลุง ซึ่งเราได้เดินทางไปเจอมาล่าสุด จากการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า มีเรื่องราวที่ยาวนานมา เพราะในอดีตนิยมสานเป็นเสื่อและกระสอบใส่ข้าวสารและน้ำตาลเพื่อเป็นบรรณาการมานาน ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตกทอดมาจนกลายเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน การเดินทางทำให้เราได้มาเจอกับ “วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมกระจูดวรรณี” (Varni)

โครงการ “Upcycling the Oceans, Thailand” รณรงค์การใช้ทรัพยากรหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุด ตามแนวคิด “Circular Living..ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนโลก” เดินหน้าสร้างมิติใหม่ในวงการอุตสาหกรรมไทย ด้วยการเปิดตัว “Thailand Collection” ในโครงการ  “Upcycling the Oceans, Thailand” ต้นแบบการอัพไซเคิลจากขยะขวดพลาสติกของโครงการฯ เพื่อให้คนไทยได้มีส่วนร่วมในการใช้สินค้ารีไซเคิลคุณภาพดี ในราคาที่ซื้อหาได้ พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวลำภู เดินหน้าสานพลังไทยนิยมยั่งยืน จัดโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี นำเสนอของดี วิถีเด่น ชูเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ใน 6 หมู่บ้าน พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนภายใต้การประกวด “นักเล่าเรื่อง” เสริมเสน่ห์ท่องเที่ยววิถีไทย สืบสานคุณค่าภูมิปัญญาท้องถิ่น หนุนฐานรากอันเข้มแข็ง สู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน [caption id="attachment_17145" align="aligncenter" width="900"] สงวน มะเสน (ขวา)[/caption] นางสงวน มะเสนา พัฒนาการจังหวัดหนองบัวลำภู  เปิดเผยว่า จังหวัดหนองบัวลำภู มีศักยภาพและความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยสภาพทางธรรมชาติที่มีความงดงาม เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และวิถีชุมชนอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยภูมิปัญญาที่ทรงคุณค่า สามารถพัฒนาและต่อยอดเพื่อขยายการรับรู้ไปในวงกว้าง เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้และความเข้มแข็งให้กับชุมชน ส่งผลต่อการเติบโตในภาพรวมของเศรษฐกิจระดับประเทศ โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาลมอบหมายให้ทุกจังหวัดดำเนินการขับเคลื่อนภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน โดยเป็นแนวคิดในการพัฒนา

สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ภูมิปัญญา ความคิด หรือ ความงาม เรียกกันว่า “ศิลปะ” แต่ไม่ใช่ว่า อารมณ์ความนึกคิดทุกอย่างจะเป็นศิลปะ เพราะต้องสอดแทรกด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยมีจุดประสงค์ที่แน่นอนแฝงอยู่ และที่สุดแล้ว  ต้องถูกกลั่นกรองออกมาจากความตั้งใจ แต่อย่าไปสนใจหรือบีบบังคับด้วยการท่องจำเลยว่า ศิลปะจะหมายถึงอะไร เพราะหากหัวใจเปิดรับความงดงามของศิลปะได้ก็เพียงพอแล้ว รอยขูดเขียนบทผนัง หรือ กราฟฟิตี้ (Graffiti) อาจจะเคยอยู่ในโลกปิด และไม่อาจจะยอมรับได้มาก่อน เพราะหากจิตรกรมีหน้าที่ในการซื้อผืนผ้าใบของตัวเอง เหล่าศิลปินกราฟิตี้ ก็น่าจะต้องสร้างผนังของตัวเองมาเช่นกัน แต่ใช่ว่าผนังกำแพงจะสามารถขวางกั้นความงดงามได้ เพราะวันนี้มีพื้นที่อีกมากมาย พร้อมเป็นเฟรมขนาดใหญ่ให้ศิลปินผู้เต็มไปด้วยไอเดียและฝีมือเข้ามาบรรเลงกันให้หนำใจ และดูเหมือนว่าตอนนี้ เกือบทุกที่จะมี Street Art เท่าที่เดินทางไปในหลายจังหวัด ก็ได้เจอศิลปะแนวนี้อยู่แทบจะทุกแห่ง และมันไม่ใช่ศิลปะของคนเมืองอีกต่อไป เพราะแม้จะอยู่ในชนบทห่างไกลก็ยังเจอ วันนี้เราเดินทางมายังจังหวัดร้อยเอ็ด ที่นอกจากเกินร้อยแล้ว มักจะเป็นคำโดนต่อท้ายด้วย “เจ็ดย่านน้ำ” ทำให้เป็นจังหวัดที่ดูพลังล้นเหลือ แล้วก็ได้เห็นจริงๆ ก่อนหน้านี้ ราว

รู้สึกดีที่ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปถึงไหน แต่เราก็ยังมีสายตามองเห็นความงามได้เช่นเดิม สิ่งที่เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่อยากให้ลืม เกิดขึ้นหลายอย่างในปีนี้คือ “คนทำดีถือว่าเท่” และกลายเป็นแบบอย่างให้เราได้อุ่นใจอยู่เสมอ ท่ามกลางข่าวสารที่แสดงให้เห็นความน่ากลัวของคน มากขึ้นทุกวัน ที่พัทลุงเขาก็เท่ ไม่ได้เท่เพราะแคมเปญ “เที่ยวไทยเท่” อย่างเดียวหรอกนะ ได้กลับไปเยือนครั้งนี้ ได้เห็นมุมมองดีๆ จนอยากจะบอกต่อ เพราะสิ่งที่เขาทำ เกิดเป็นความดีที่เท่แท้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องของการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เป็นจุดขายของแต่ละพื้นที่ สิ่งที่ทำได้ง่ายและทำได้เลยก็คือ การรวมตัวของคนในชุมชนเป็นตลาดนัดชุมชน ที่นำของดีของเด็ดของแต่ละคนมานำเสนอ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสกันแบบที่เดียวครบ จบทุกของดีของอร่อย [caption id="attachment_17064" align="aligncenter" width="799"] เท่ตั้งแต่แรกเห็น[/caption] ที่พัทลุงเขามีตลาดใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง ซึ่งไม่ได้มีแค่เอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่มีความเท่แท้อย่างที่เราบอกไป เริ่มต้นจาก “ตลาดป่าไผ่” ชื่อเต็มๆ ว่า “ตลาดป่าไผ่สร้างสุข” อ.ควนขนุน ห่างจากตัวเมืองพัทลุงแค่ 17 กิโลเมตร จะไม่สุขได้อย่างไร เพราะที่นี่เป็นตลาดแห่งความรักษ์ รักโลก รักสิ่งแวดล้อม ด้วยการร่วมมือร่วมใจของคนซื้อและคนขาย ตลาดป่าไผ่สร้างสุข