“ลาบเครือหมาน้อย” อาหารที่เป็นยิ่งกว่าอาหาร
ปัจจุบัน ผู้คนกำลังถวิลหาวิถีธรรมชาติ ชื่นชมกับอาหารปลอดสารพิษ เฮโลไปตามหาพืชพันธุ์สายรักษาโรค นานมาแล้ว บรรพชนคนอีสานสอดแทรกวิถีธรรมชาติลงไปในอาหารพื้นบ้าน กลายเป็นอาหารที่มีคุณค่ามากว่าความเป็นอาหาร อันควรค่าแก่การสืบสานต่อไป “ลาบเครือหมาน้อย” คือเมนูในตำนานที่ว่านั้น
อิสานมีวัฒนธรรมการกินในรูปแบบที่สามารถแสวงหาได้จากรอบตัวอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นแมลง นก หนู และสัตว์อื่น ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะสภาพการดำรงชีวิตของชาวอิสานที่ชอบอิงแอบ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยมีป่า โคก แหล่งน้ำ เป็นแหล่งหลักในการแสวงหาวัตถุดิบมาใช้ในการประกอบอาหาร
นอกจากจะนำเอาวัตถุดิบจากธรรมชาติมาประกอบเป็นอาหารแล้ว บรรพบุรุษของชาวอิสานยังเปี่ยมด้วยภูมิปัญญาในการดัดแปลง ปรับตัวให้อยู่รอด โดยการสอดแทรกตำรับยาพื้นบ้านอยู่ในอาหารอีสานเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้รับประทาน
อาหารพื้นบ้านของอีสานอีกเมนูหนึ่งที่หากินค่อนข้างยาก หรือบางทีคนต่างถิ่นอาจจะไม่กล้าลองลิ้มรส คือ “ลาบเครือหมาน้อย” บางคนฟังชื่อแล้วให้ฉงน เอาหมาน้อยมาลาบให้กินจริงๆ หรือ เปล่าหรอก หมายถึงการคั้นเอาน้ำจากต้นเครือหมาน้อย แล้วนำมำมาปรุงรสกับวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อเป็นการปรุงแต่งให้น่ารับประทานมากขึ้น เช่นนำไปผสมผสานกับป่น เป็นต้น แต่สำหรับคนที่รู้ถึงสรรพคุณทางยาของเครือหมาน้อยแล้ว จะไม่ลังเลเลยกับการยกทั้งชามขึ้นมาซดจนเกลี้ยง
ชื่อที่เรียกว่า หมาน้อยนั้น ไม่อาจทราบที่มาอันแท้จริงได้ได้ บ้างเล่าว่า เพราะใบอันมีขนนุ่ม ลูบไปแล้วเหมือนลูบหลังหมาน้อยที่เพิ่งเกิด ชาวอิสานจึงเรียกว่า “ต้นเครือหมาน้อย” ส่วนอีกหนึ่งที่มานั้น เล่ากันว่า พอคั้นเป็นน้ำแล้วถ้าไม่รีบกิน สักพักน้ำที่คั้นไว้นั้นจะแข็งเป็นตัวอ่อนนุ่มเหมือนหมาน้อย บางทีก็ว่า เดี๋ยวมันจะแข็งเป็นตัวแล้วจะวิ่งหนีไปเหมือนหมาน้อย
บรรพชนคนอีสานสอดแทรกวิถีธรรมชาติลงไปในอาหารพื้นบ้าน
กลายเป็นอาหารที่มีคุณค่ามากว่าความเป็นอาหาร อันควรค่าแก่การสืบสานต่อไป
“เครือหมาน้อย” เป็นพืชตระกูลหนึ่ง ไม่ใช่ลูกสุนัขเกิดใหม่ นอกจากจะนำมารับประทานเป็นอาหารแล้ว ยังแฝงด้วยสรรพคุณในการเป็นยาอีกด้วย เช่น เป็นยาแก้ร้อนใน ใช้แก้ไข้ แก้ดีรั่ว ดีล้น ดีซ่าน เป็นยาขับปัสสาวะ ยาถ่าย แก้ไข้มาลาเรีย ใช้เป็นยาเจริญอาหาร ฯลฯ ทั้งนี้การใช้ประโยชน์ในด้านการใช้เป็นยาอาจะมีวิธีการปรุงแต่งไม่เหมือนกัน เพราะบางครั้งอาจใช้เฉพาะราก ใช้เฉพาะใบ หรือเฉพาะเครือ เป็นต้น
นอกจากมีสรรพคุณทางด้านยาแล้ว เครือหมาน้อยยังมีสรรพคุณทางความงามอีกด้วย โดยมีกรรมวิธีง่ายๆ เพียงแค่เด็ดใบนำมาล้างน้ำ ขยี้ใบให้เป็นวุ้น ๆ แล้วนำพอกหน้า ทำเป็นสมุนไพรใช้มาส์กหน้า บำรุงผิว หลังพอกจะรู้สึกผิวหน้าเต่งตึง เปล่งปลัง ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ช่วยรักษาสิว ปัจจุบันมีผู้นำไปผลิตเป็นเจลพอกหน้า (ใบเครือหมาน้อย มีสารเพกทินอยู่ประมาณ 30% มีคุณสมบัติในการพองตัวอุ้มน้ำ)
“เครือหมาน้อย” (ชื่ออื่นๆ กรุงเขมา กลาง นครศรีธรรมราช, หมอน้อย อุบลราชธานี, ก้นปิด ตะวันตกเฉียงใต้, ขงเขมา พระพาย ภาคกลาง, เปล้าเลือด แม่ฮ่องสอน, สีฟัน เพชรบุรี ชื่อวิทยาศาสตร์ Cissampelos pareira L. var. hirsuta (Buch. ex DC.) Forman.) จัดเป็นพืชป่าตระกูลไม้เลื้อย มักอาศัยพันกับหลักหรือต้นไม้ พบได้ทั่วทุกภาคในประเทศไทยโดยเฉพาะทางแถบภาคอีสานจะพบมาก มีลักษณะใบเดี่ยวรูปหัวใจ มีขนปกคลุมทั่วทั้งใบและท้องของใบดูคล้ายๆย่านางแต่ต่างกันที่ใบย่านางไม่มีขน
“ลาบเครือหมาน้อย”
วัตถุดิบหลัก
ใบหมาน้อย 1 กำมือ
ป่น 1 ถ้วย
ตะไคร้ 1 ต้น
มะเขื่อขื่น 1/2 ผล
น้ำ 1/2-1 ถ้วย
ข้าวคั่ว ต้นหอม ใบผักชี น้ำปลาร้า เครื่องปรุงรสอื่นๆ
วิธีการทำ
- ล้างใบหมาน้อยให้สะอาด, ตะไคร้ มะเขื่อขื่น ต้นหอม ใบผักชี หั่นฝอย
- ขยำใบหมาน้อยกับน้ำ จนออกเป็นเขียว กรองเอากากออก (ระหว่างคั้นใบให้คั้นใบย่านางผสมลงไปด้วย ซึ่งจะช่วยให้เป็นวุ้นแข็งตัวเร็วขึ้น)
- นำป่น(ป่น อีกความหมายหนึ่งคือ ละเอียด ในที่นี้ หมายถึงการโขลกเนื้อปลาให้ละเอียดแล้วนำมาปรุงเป็นเหมือนน้ำพริก) ผสมกับตะไคร้ มะเขื่อขื่น ข้าวคั่ว คลุกให้นัวเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา เติมรสตามจริต
ปัจจุบัน คนอิสานรุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่ออาหารเมนูนี้แล้ว น่าเสียดาย ถ้าหากอาหารรสแซ่บ จากการดัดแปลง ปรับตัว อย่างชาญฉลาด ด้วยการผสมผสานระหว่างอาหารและยาได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นอาหารพื้นบ้านอันบ่งบอกถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษอิสาน ที่ตกทอดสืบต่อกันมาจะสูญหายไป
โครงการ “รักษ์บ้านนอก”โดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มุ่งหวังให้คนรุ่นหลัง ได้อนุรักษ์วิถีถิ่น สืบสานรสพื้นบ้านต่อไป เพื่อให้เยาวชน คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสถึงคุณค่าอาหารที่มากยิ่งกว่าอาหาร
ข้อมูล: https://medthai.com, https://www.silpa-mag.com