Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

สิงหาคม 2020

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคัล จำกัด (มหาชน) สายการบินไทยสมายล์ สายการบินไทย แอร์เอเชีย เปิดตัวแคมเปญ “ชนบทที่รัก” Silver Age 5.0 ชู 16 ชุมชนวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์สำหรับกลุ่มซิลเวอร์เอจ เชิญคนดังหลากหลายวงการร่วมโปรโมตชุมชนเตรียมพร้อมรองรับนักเดินทางรุ่นใหญ่ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ นางสาวอัจฉราพร พงษ์ฉวี รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า “กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับโครงการ Thailand Village Academy Season 2 ได้คัดเลือกแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมในชุมชนมาออกแบบสร้างสรรค์ใหม่ให้ตอบโจทย์ความสนใจของกลุ่มซิลเวอร์เอจ เช่น ออกแบบกิจกรรม ออกแบบเมนูอาหาร ของว่าง เครื่องดื่ม ให้สอดคล้องความต้องการของกลุ่มซิลเวอร์เอจ เพื่อกระตุ้นหรือจูงใจให้คนวัย

 “พิพัฒน์” ประกาศดันการท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นอันซีนไทยแลนด์ ช่วยเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวใหม่เสิร์ฟตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศ มั่นใจช่วยกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล ประเดิมชวนคนไทยและเอ็กซ์แพท เที่ยวเส้นทางแรก “คุ้งบางกะเจ้า”  เล็งหารือบริษัทนำเที่ยวช่วยศึกษาจัดทำเส้นทาง ขณะที่ อพท. ขานรับ เผยมี 80 แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนที่พัฒนาเสร็จพร้อมขาย กระจายอยู่ทั่วประเทศ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับคณะทูต นักท่องเที่ยวกลุ่มเอ็กซ์แพท (Expat) และคณะสื่อมวลชน   ที่เข้าร่วมกิจกรรม “เยี่ยมชมการท่องเที่ยวโดยชุมชนยั่งยืนพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า” อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจัดโดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกรมการท่องเที่ยว  กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนและกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า ให้คณะทูตและเอ็กซ์แพท  ได้สัมผัสประสบการณ์และกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน นำร่องเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชนใน 6 เส้นทางของคุ้งบางกะเจ้าซึ่งมีความพร้อมตามมาตรฐานการท่องเที่ยว

“ผู้พิชิตยอดเขาเทวดา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้จะต้องเดินเท้าจนกล้ามเนื้อขาแข็ง แต่เมื่อเห็นทัศนียภาพของทะเลหมอกและไอหมอกที่ปกคลุมไปทั่วยอดเขา ก็ทำให้ลืมความเหนื่อยล้าที่มีไปอย่างสิ้นเชิง” ทริปนี้ขอแนะนำสำหรับผู้ชื่นชอบสัมผัสกับธรรมชาติ ชมความงดงามหลากหลาย ตื่นตากับทะเลหมอกบนยอดเขาเทวดา ณ อุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี “อุทยานแห่งชาติพุเตย” อุทยานแห่งชาติหนึ่งเดียวของ “จังหวัดสุพรรณบุรี” ซึ่งมีขุนเขารายล้อมและอุดมไปด้วยพืชพรรณ สัตว์ป่ามากมาย ไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ “ป่าสนสองใบ” ที่มีอยู่เพียงกลุ่มเดียวในภาคกลาง และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง สภาพป่าโดยทั่วไปของอุทยานแห่งชาติพุเตย เป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ประกอบด้วย ป่าสนสองใบธรรมชาติ ป่าดงดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรังผสมป่าดิบแล้ง พรรณไม้ที่สำคัญได้แก่ นอกจาก “สนสองใบ” แล้ว ยังมี เหียง พลวง แดง ชิงชัน ประดู่ มะค่าโมง ไผ่ป่าต่าง ๆ เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำและแหล่งอาหารที่สมบูรณ์

งานบ้านเป็นภาระอันหนักหน่วงของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนเมืองที่ใช้เวลาเกือบทั้งหมดของวันไปกับการเดินทางและการทำงาน ที่เหลือก็มีเวลาพักผ่อนเพียงเล็กน้อย จึงต้องรอจนกว่าวันหยุด ถึงจะมีเวลาทุ่มเทให้กับงานบ้านอันแสนจุกจิก ขณะที่ใครๆ ก็อยากได้บ้านที่สะอาดเนี้ยบเหมือนโรงแรม แต่ด้วยทักษะและเวลา ทำให้เราต้องทนอยู่กับบ้านที่อาจจะทำได้แค่สะอาดระดับหนึ่ง แต่จะไม่เนี้ยบ เรียบร้อยตามที่ใจต้องการ ธุรกิจการจัดหาแม่บ้านและงานช่างที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน จึงมีแนวโน้มน่าสนใจ แม้ว่าที่ผ่านมา ธุรกิจแม่บ้านจะอยู่กับเรามานานแล้ว แต่แม่บ้านหรือช่างที่ได้มาตรฐาน สามารถเลือกวันและเวลาได้ตามความต้องการ โดยไม่ต้องจ้างประจำ แถมยังมีบริษัทรองรับอย่างชัดเจน จึงมั่นใจได้ระดับหนึ่งเรื่องความสะอาดและปลอดภัย และค่าใช้จ่ายที่พอแบกรับไหว ล่าสุด เซอร์วิสฮีโร่- แอปพลิเคชันค้นหาและว่าจ้างช่างและแม่บ้านมืออาชีพ  เปิดบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ รับชีวิตวิถีใหม่ คือการจ้างแม่บ้านประจำผ่านแอปพลิเคชัน โดยสามารถเลือกระบุวันเวลาที่ต้องการได้ เช่น สัปดาห์ละครั้ง สัปดาห์ละสองครั้ง หรือวันเว้นวัน ตามแต่ลูกค้าต้องการ โดยอัตราการจ้างเริ่มต้น 3,000 บาทต่อเดือน เหมาะสำหรับบ้านหรือออฟฟิศที่ต้องการการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่อยากแบกรับต้นทุนการจัดการไว้เองทั้งหมดเป็นรายเดือน ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการให้บริการค้นหาและว่าจ้างช่าง รวมทั้งแม่บ้านมืออาชีพ มานานกว่า 5 ปี

คำคืนที่ชื่นอุรา ทำให้เราไม่อยากบอกลาวันนี้ไปง่ายๆ วงสนทนาของเพื่อนร่วมทางออกสตาร์ทช้ากว่าที่ควรจะเป็น เพราะตอนที่แสงตะวันจากลา เรายังเลาะอยู่บนถนนที่มีแต่ป่าข้างทาง จากชัยภูมิถึงอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง แต่เราก็ไม่ได้รีบร้อน และยังไม่อยากรีบนอน ก็เลยแวะโอ้เอ้อยู่ที่ อ.บ้านเขว้า เดินชมการทอผ้าของชาวบ้านกันจนเพลิน แถมได้เจอผู้ใหญ่ใจดี “นายประพันธ์ เกิดถาวร” ผู้ใหญ่บ้านบูรพา หมู่ 14 หรือ “ผู้ใหญ่แอ๊ด” ทำให้ทุกคนได้พบคำว่า “ผู้ใหญ่ใจดี”  โดยไม่ต้องฟังซ้ำ หลังจากคณะเล็ก ๆ รถตู้คันเดียวของพวกเรา วิ่งวนค้นหาเพื่ออยากดูการทอผ้า (โดยไม่ติดต่อไว้ล่วงหน้า) มัคคุเทศก์ชื่อพรหมลิขิตก็พาเราไปจอดอยู่หน้าบ้านผู้ใหญ่แอ๊ดโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน เมื่อตัวแทนลงไปทักทายไม่เกิน 5 นาที จากนั้นผู้ใหญ่ก็พาเราเดินเลาะตามหมู่บ้านโดยทันที ด้วยหัวใจที่พร้อมบินแบบอัตโนมัติ หรือ อาจจะเป็นจังหวะที่เหมาะเจาะพอดี ดังนั้นกว่าจะเข้าที่พักแถบ อช.ป่าหินงาม ก็ตกค่ำ สภาพอากาศชุ่มเย็นด้วยอุณหภูมิประมาณ 24 องศา

หลายคนเคยเห็นควาย เคยเห็นมูลควาย เคยเห็นตอนที่พวกมันกำลังขับถ่าย แต่คงไม่ได้สังเกตอาการของมัน เพราะไม่ใช่เรื่องที่น่าดูชมนัก  แต่สำหรับชาวบ้านในสมัยก่อน โดยเฉพาะชาวนาที่อยู่กับควาย พวกเขาเป็นดังมิตรสหายที่ช่วยกันทำมาหากิน เป็นสัตว์ผู้มีพระคุณของคนไทยมาช้านาน คนโบราณสังเกตว่า เวลาควายจะขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย พวกมันจะไม่ยืนเฉยๆ หรือนั่ง แต่จะเดินไปด้วยขับถ่ายไปด้วย ระหว่างนั้นอวัยวะเพศของมันก็ส่ายไปส่ายมา ภาษาอีสานเรียกว่า “เอี้ยวไปเอี้ยวมา” เป็นทางยาว จากพฤติกรรมของควายซึ่งดูเป็นเรื่องทะลึ่งทะเล้น แต่คนอีสานสมัยก่อนเขาช่างคิดช่างจินตนาการ นำเอามาปรับเป็นลวดลายผ้ามัดหมี่ เรียกว่า “ลายหมี่เอี้ยวเยี่ยวควาย” แค่ 1 Story ก็กินขาด ได้ใจชัยภูมิไปเต็มๆ “พิพิธภัณฑ์ ผ้าโบราณชัยภูมิ KOMGRISH” ลวดลายผ้าของคนโบราณมาจากการหยิบจับเรื่องราวใกล้ตัวมาเป็นไอเดีย เราได้เรียนรู้เรื่องนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ “พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณชัยภูมิ KOMGRISH” หรือ “เฮือนคำมุ” ก่อตั้งโดย อาจารย์เอ๋-คมกฤช ฤทธิ์ขจร ศิลปินร่วมสมัยแห่งชาติ ทายาทพระยาแล จังหวัดชัยภูมิ นักอนุรักษ์ผ้าไทยที่มีความชื่นชอบด้านผ้าไทย ท่านเป็นลูกหลานเจ้าพ่อพญาแลโดยตรง

“คนชัยภูมิต้องมีเมียเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปแย่งกับใคร” คำเปรียบเปรยที่แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาตัวเอง ซึ่ง “อ.ยักษ์-ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร” นายกสมาคมดินโลก และที่ปรึกษามูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ได้เล่าให้ฟัง ในโอกาสที่ได้ร่วมลงพื้นที่กิจกรรม “เอามื้อสามัคคี”  โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ปีที่ 8  ณ ศูนย์ปราชญ์ศาสตร์พอเพียง บอกเล่าก้าวตาม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ “คำว่า ชัยภูมิ ก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นพื้นที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในทุกมิติ” อาจารย์ยักษ์ย้ำ เพราะจังหวัดชัยภูมิ มีป่าต้นน้ำอยู่กว่า 7 ล้านไร่ เป็นป่าต้นน้ำซึ่งถือเป็น “ธนาคารน้ำของภาคอีสาน” ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สู่ อ.วารินชำราบ ซึ่งชื่อก็บอกแล้วว่า “วาริน” หมายถึง “น้ำ” “ชำราบ” หมายถึง

การก้าวสู่ประเทศที่ทรงอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ทำให้ถนนแห่งการลงทุนมุ่งหน้าสู่จีน ขณะเดียวกัน จีนก็ได้ปูทางการลงทุนในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันจีนถือเป็นผู้ลงทุนต่างชาติอันดับ 1 ในบ้านเรา นั่นหมายความว่า โอกาสของการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ จะเกิดขึ้นทางทางตรงและทางอ้อม ทั้งการเข้าทำงานในบริษัทในจีน หรือการผลิตสินค้าและบริการเพื่อป้อนตลาดชาวจีน ทั้งในและต่างประเทศ ที่ผ่านมา ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาสากลของโลก แต่เมื่อการขยายอำนาจทางเศรษฐกิจของจีนกระจายไปทั่วโลก ทำให้ภาษาจีนกลายเป็นภาษาที่ทรงอิทธิพลตามไปด้วย จนกลายเป็นภาษาที่ 3 ของโลก นายธกานต์ อานันโทไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โกลบิช อคาเดเมีย (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า ภาษาจีนกลายเป็นภาษาที่ 3 ที่ผู้คนทั่วโลก รวมถึงคนไทยเลือกเรียน โดยเฉพาะภาษาจีนกลาง (Mandarin) ซึ่งเป็นภาษาราชการของประเทศจีน และเป็น 1 ใน 6 ภาษาราชการขององค์การสหประชาชาติ

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าพร้อมวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะวิถีของเด็ก ซึ่งปัจจุบัน เด็กส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้ตั้งแต่ตัวน้อยๆ อีกทั้งยังได้รับการส่งเสริมจากผู้ปกครองให้มีกิจกรรมที่กล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็ก ก็มีความหลากหลายขึ้นเช่นกัน ล่าสุด กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ระบุว่า การส่งออก “เครื่องสำอางเด็ก” ในตลาดจีนมีแนวโน้มเติบโตสูง เนื่องจากพ่อแม่นิยมใช้แต่งหน้าให้ลูกในการเข้าร่วมกิจกรรมการแสดง ทั้งเล่นเปียโน ร้องเพลง เต้นรำ แนะศึกษาแนวโน้มตลาด กฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องสำอางให้ดี ก่อนเข้าไปลุย  นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กวางโจว ถึงแนวโน้มตลาดเครื่องสำอางเด็กในจีนที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าปัจจุบันมีการเติบโตกว่า 300% จากการที่พ่อแม่นิยมซื้อเครื่องสำอางให้ลูกของตัวเองใช้ เพื่อเข้าร่วมในกิจกรรมการแสดงต่างๆ เช่น การเล่นเปียโน ร้องเพลง และเต้นรำ ทำให้เครื่องสำอางได้กลายเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นสำหรับเด็กเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิตและผู้ส่งออกเครื่องสำอางของไทย ที่จะศึกษาแนวโน้มตลาด