Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

เรือนเวลาสุดคูล แรงบันดาลใจจากเซเลบ

เหล่าคนดังในวงการ หนัง เพลง กีฬา มักจะถูกผูกโยงมาเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมในการออกแบบสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มนาฬิกา ซึ่งมีคอลเล็คชั่นพิเศษออกมาสร้างสีสันและความน่าสนใจ
เช่นเดียวกับการเดินทางในรอบ 25 ปี ของเรือนเวลาลุคสปอร์ต รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ (ROYAL OAK OFFSHORE) โดยแบรนด์ “โอเดอมาร์ ปิเกต์” (AUDEMARS PIGUET)  จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งสร้างผลงานการออกแบบที่ครองใจเหล่านักแสดง นักกีฬา รวมทั้งกลุ่มเซเลบริตี้ทั่วโลก ไปดูกันว่ามีรุ่นไหนจากแรงบันดาลใจใดกันบ้าง

 

1999 ROYAL OAK OFFSHORE End of Days

เรือนเวลาดังกล่าวถูกสวมใส่โดยนักแสดงมากความสามารถอย่าง อาร์โนลด์ ชวาเซเนกเกอร์(Arnold Schwarzenegger) ในขณะเข้าฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “End of Days” ซึ่งชวาเซเนกเกอร์ถือเป็นผู้ร่วมดีไซน์คนสำคัญในครั้งนี้ รังสรรค์พิเศษเพียง 500 เรือนทั่วโลก โดยรายได้จากการจำหน่ายมูลค่ากว่า 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ยังช่วยเหลือองค์กรการกุศลอย่าง After School All Stars อีกด้วย

 

2003 ROYAL OAK OFFSHORE Arnold Schwarzenegger   

ปี 2003 ชวาเซเนกเกอร์(Schwarzenegger) ถูกรับเลือกในฐานะผู้ว่าการรัฐ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่โอเดอมาร์ ปิเกต์รังสรรค์เรือนเวลารุ่นพิเศษนี้ขึ้น โดยครั้งนี้มาบนตัวเรือนเยลโลว์โกลด์พร้อมฝาหลังสลักลายเซ็น ผลิตจำกัดเพียง 400 เรือน

 

2004 ROYAL OAK OFFSHORE T3

 

เรือนเวลาอีกหนึ่งรุ่นที่ โอเดอมาร์ ปิเกต์ จับมือกับ ชวาเซเนกเกอร์ (Schwarzenegger) มาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียมขนาดใหญ่ถึง 48 มิลลิเมตร ผลิตจำนวน 1000 เรือน โดยเปิดตัวพร้อมกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่างคนเหล็ก 3 (Terminator 3: Rise of the Machines) ฝาหลังสลักโลโก้ T3

 

2005 ROYAL OAK OFFSHORE Rubens Barrichello

เรือนเวลาที่ถูกแต่งเติมไปด้วย 3 สีสันหลักของธงชาติบราซิล อย่าง เหลือง น้ำเงิน เขียว ออกแบบขึ้นเพื่อเชิดชู รูเบนส์ บาร์ริเคลโล (Rubens Barrichello) อดีตนักขับรถฟอร์มูล่าวันชื่อดังชาวบราซิล ตัวเรือนทำจากไทเทเนียม มอบความแข็งแรง ทนทาน และมีน้ำหนักเบา ผลิตจำกัดเพียง 150 เรือน

 

2008 ROYAL OAK OFFSHORE Singapore Race  

รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ สายหนังดีไซน์สปอรต์ โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีแดงเข้ม บนตัวเรือนคาร์บอนไฟเบอร์และสเตนเลสสตีล เรือนเวลาที่สื่อถึงจิตวิญญาณอันมุ่งมั่นบนสนามแข่งอันแสนท้าทาย ดังเช่นเทศกาลแข่งรถฟอร์มูล่า วัน ณ ประเทศสิงคโปร์ ที่อัดแน่นไปด้วยเหล่านักแข่งที่พร้อมปลดปล่อยอะดรีนาลีน เพื่อพิชิตเป้าหมายครั้งสำคัญ

 

2009 ROYAL OAK OFFSHORE “Bumblebee”  

ด้วยโทนสีเหลืองดำอันเป็นเอกลักษณ์ ที่มาพร้อมตัวเรือนเซรามิกและคาร์บอน ไฟเบอร์จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าผู้ชื่นชอบเรือนเวลาต่างขนานนาม รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ รุ่นนี้ว่า “บัมเบิลบี” (Bumblebee) ตามคาแรคเตอร์หลักของหุ่นยนต์ตัวเอกจากภาพยนตร์เหนือจินตนาการอย่าง “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส”

 

อีกรุ่นหนึ่งที่มีความน่าสนใจและเกี่ยวข้องกับประเทศไทยโดยตรง นั่นคือ ROYAL OAK OFFSHORE Pride of Siam ที่ผลิตขึ้นในปี 2013

รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ ที่สะท้อนถึงเกียรติภูมิของประเทศไทย โดดเด่นที่ขอบตัวเรือนเซรามิกสีขาว สื่อถึงช้างเผือกที่พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาใช้ในการทำศึกสงครามเมื่อ 700 กว่าปีที่แล้ว ฝาหลังสเตนเลสสตีลสลักรูปช้างเผือก ที่ได้แรงบันดาลใจจากธงช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นบนพื้นแดง ซึ่งเคยเป็นธงราชการของประเทศไทยในอดีต ผลิตจำกัดเพียง 100 เรือนทั่วโลก

 

ปิดท้ายด้วยคอเล็คชั่นฉลอง 25 ปี ในปี 2018 กับ ROYAL OAK OFFSHORE Tourbillon Chronograph

อัพเดทลุคที่ฉีกกรอบ ขอบตัวเรือนทรง 8 เหลี่ยมอันคุ้นเคยด้วยโครงสร้างดีไซน์หน้าปัดอันล้ำสมัย ครั้งแรกของ รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ กับตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตร มีให้เลือกทั้งแบบพิ้งค์โกลด์หรือ สเตนเลสสตีล ขับเคลื่อนการทำงานด้วยกลไกไขลานด้วยมือ คาลิเบอร์ 2947 พร้อมฟังก์ชั่นตูร์บิญองและโครโนกราฟ สำรองพลงังานขั้นต่ำ 173 ชั่วโมง เม็ดมะยมและปุ่มจับเวลารังสรรค์จาก แบล็กเซรามิก จับคู่สายยางสีดำกันน้ำลึกได้ 100 เมตร ผลิตจำกัดเพียงสีละ 50 เรือน

Post a comment

one + 18 =