Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

ทุ่งกะมัง อีกกี่ครั้ง ก็ยังฮีลใจ

ต้นเดือนพฤษภายังคงอยู่ในหน้าร้อน แต่สำหรับพื้นที่สูงซึ่งมีต้นไม้ปกคลุมอย่างหนาแน่น เมื่อตกกลางคืน เราสามารถนอนรับลมธรรมชาติในอุณภูมิที่เทียบเท่าการเปิดแอร์เลยก็ว่าได้

“ทุ่งกะมัง” อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ มีเนื้อที่ราว 5,000 ไร่ สภาพส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติ เป็นเนินสูงต่ำลดหลั่นกันไป

เราเดินทางมาถึงทุ่งกะมังในช่วงเย็น ได้พบกับ “ต้นเหมือด” ต้นเดิมที่ยังคงยืนต้นตระหง่าน กิ่งก้านใบของมันชูช่อเป็นพุ่มทรงกลม เนี้ยบ… ราวกับว่ามีใครมาแอบตัดแต่งให้เป็นรูปทรงอยู่เสมอ ทางเดินเล็ก ๆ ที่ลัดเลาะเข้าไป ยังถือเป็นภาพคลาสสิคประจำทุ่งที่ทุกคนจำได้

เย็นวันนี้เหล่าเก้ง กวางและเนื้อทราย ออกมาหากินอยู่ในบริเวณทุ่งหญ้าในแอ่งกระทะ ลักษณะคล้ายกะละมัง อันเป็นที่มาของชื่อ “ทุ่งกะมัง” พวกมันยังคงใช้ชีวิตอย่างอิสระ เดินเล่น เล็มหญ้า หาอาหาร โดยไม่สนใจสายตาของผู้คนที่มองเข้ามา แต่ก็ทิ้งระยะห่างไว้ตามสัญชาตญาณ บ้างก็นั่งนิ่ง ได้แต่ใช้สายตาจดจ้องบรรดาผู้มาเยือนเอาไว้แบบไม่ลดละ

ริ้วน้ำเคลื่อนไหวในแอ่งน้ำเล็ก ๆ กลางทุ่ง นับเป็นอีกความโชคดีที่วันนี้เราได้พบกับ “เป็ดก่า” นกเป็ดน้ำชนิดหนึ่งที่หาได้ยากแล้ว วันนี้มันคงสบายใจ ออกมาเล่นน้ำและว่ายวนโชว์ตัวกับพวกเราอยู่นาน

สภาพของทุ่งโล่งในป่าใหญ่ กับบรรดาสัตว์อิสระทั้งหลาย เป็นเสน่ห์ที่ไม่ได้หาชมได้ง่าย ๆ แต่กลับเป็นช่วงเวลาสบาย ๆ ที่ทุ่งกะมัง เนื่องจากพวกมันค่อนข้างคุ้นเคยกับผู้คน และผู้มาเยือนเองก็ให้เกียรติเจ้าบ้านด้วยการอยู่อย่างสงบ ไม่สร้างความรบกวนรำคาญให้กับธรรมชาติ

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามายังทุ่งกะมัง เป็นสายรักษ์ธรรมชาติ การมาเยือนทุ่งกะมัง มีข้อจำกัดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ซึ่งต้องจองล่วงหน้า ไฟฟ้าเปิดให้ใช้แค่พอเพียงตามเวลา คือ 18.00-21.00 น. ร้านอาหารก็เช่นกัน ทุกอย่างถูกจัดการอย่างเป็นระบบระเบียบ เพื่อให้บ้านของพวกเขา ยังคงสวยงามสำหรับพวกเราทุกคน

ค่ำคืนที่ทุ่งกะมังผ่านไปอย่างเย็นใจ จากสภาพอากาศที่ลดลง แต่ก็ไม่หนาวเกินไปสำหรับหน้าร้อน ในความมืดมิด เรามีเพียงไฟฉายและโคมไฟเล็ก ๆ ตกดึกสรรพสัตว์ส่งเสียงเป็นระยะ ทุ่งกะมังยังได้ชื่อว่าเป็นเขตท้องฟ้ามืด (Dark Sky) ในคืนข้างแรมจะมองเห็นดวงดาวเต็มฟ้า รวมทั้งทางช้างเผือกที่นักล่าดวงดาวตามหา

รุ่งสางของวันใหม่ เราออกเดินไปรับตะวันกันอย่างเงียบ ๆ จดจ่ออยู่บนลานกว้าง เมื่อพระอาทิตย์ทอแสงมา แดดอุ่น ๆ ฉาบทั่วทุ่ง ความสุขนี้ช่างเรียบง่าย

เช้านี้เรายังเดินเข้าป่าศึกษาธรรมชาติ ซึ่งจะมีเส้นทางให้เลือกทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว โดยจะมีทางเดินลัดเลาะเข้าไป เป้าหมายของวันนี้อยู่ที่ “สะพานแขวน” กลางป่า ที่มีความสวยงามน่าประทับใจ

ช่วงเวลาแห่งความสุขและความอิ่มเอมใจผ่านไปไวราวกับเพิ่งมาถึง เมื่อกลับมาอาบน้ำอาบท่าในบ้านพักแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวออกเดินทางต่อไป มีเพียงภาพถ่ายพร้อมความประทับใจ ที่เก็บกลับไปเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อจะกลับมาอีกครั้ง

และไม่ว่าจะอีกกี่ครั้ง ทุ่งกะมัง ก็ยังโดดเด่นอยู่ในทุกความทรงจำเสมอ

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว

อยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยว 3 อำเภอคือ อำเภอภูเขียว อำเภอคอนสาร และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ และเป็นส่วนหนึ่ง ของผืนป่าอีสานตะวันตก เชื่อมรวมเป็นผืนป่าเดียวกันกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 3 แห่ง และอุทยานแห่งชาติอีก 4 แห่ง คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาผึ้ง , เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ , เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง , อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน , อุทยานแห่งชาติภูกระดึง , อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว และอุทยานแห่งชาติตาดหมอก

ดูแลด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า การเพาะเลี้ยงและ การขยายพันธุ์สัตว์ป่า เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ นกยูง เก้ง กวาง และเนื้อทราย เป็นต้นโดยปล่อยสัตว์ให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติสามารถ สืบพันธุ์และขยายพันธุ์ได้เอง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวได้มีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมชาติ อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวยังถือว่าเป็นแหล่งเป็น”แหล่งศึกษาธรรมชาติ” เช่น ดูนก ดูผีเสื้อ หรือเดินป่า

ทุ่งกะมัง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ

เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.00 น.

ค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท , ต่างชาติ 200 บาท

Post a comment

1 × 4 =