Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

หมี่สะปำ ภูเก็ต อีกหนึ่งความเด็ดบนเกาะสวรรค์

การได้ลัดเลาะเสาะหาของกินในย่านชุมชน เป็นหนึ่งในความสุขที่หลายคนแสวงหาเมื่อได้เดินทางไปยังต่างถิ่น ทั้งในและต่างประเทศ จนบางทีอาหารกลายเป็นตัวเป้าหมายหลักของการเดินทาง

ด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมบนโลกนี้ ทำให้มีเรื่องเล่า เรื่องราวของอาหารการกิน สะท้อนให้เห็นถึงอดีตอันเป็นที่มาของอาหารนั้น ๆ เหมือนเรื่อง ๆ หนึ่งที่คิดแล้วเห็นภาพ อย่างเมนู “ปูผัดพริกฮ่องกง” ของร้าน “อำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์” ย่านพระราม 3 ซึ่งใช้ “ไต้ฝุ่นซอส” อันมีแนวคิดจากเหตุการณ์จริงที่เกิดสมัยที่เกิดพายุที่อ่าวอะเบอร์ดีน ฮ่องกง ซึ่งเล่ากันว่าในตอนนั้นชาวประมงต้องล่องเรือหลบพายุในอ่าวและใช้ชีวิตบนเรือร่วมกับครอบครัว เมื่อต้องทำอาหารเลี้ยงครอบครัว ก็หยิบจับวัตถุดิบง่าย ๆ อย่างกระเทียม พริกแห้ง เต้าซี่ ที่มีอยู่ในเรือ มาผัดกับปู ปลา หมึก กุ้ง อะไรก็ตามที่มีในตอนนั้น

จากอุปสรรค ความยากลำบาก ผ่านการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด ทำให้เกิดเมนูที่ขึ้นชื่อในร้านอาหาร พาให้นึกไปถึงอีกหลายต่อหลายเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการเกิดขึ้นของอาหารในเมืองไทย รวมทั้งวิถีการกินที่ผสานชีวิตความเป็นอยู่ อย่างที่เคยได้ยินชาวบ้านท่าระแนะ จ.ตราด เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเวลาที่จะออกเรือไปหาปลา ชาวบ้านก็พกข้าวกับน้ำพริกอย่างง่าย ๆ ไปในเรือ แล้วค่อยไปเด็ดใบโกงกางข้างหน้ามาจิ้มน้ำพริก

จากเรื่องหนึ่งก็คิดได้อีกหลายเรื่อง น่าสนุกหากจะเล่าที่มาของอาหารแต่ละชนิดของแต่ละภาค แต่วันนี้เรามุ่งหน้าไปทางใต้ เป้าหมายคือการท่องเที่ยวทะเลอันดามัน เกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต

มาภูเก็ตแล้วกินอะไรดี ขอถามว่า “มีเวลากี่วัน” เพราะนอกเหนือจากความงดงามของท้องทะเลแล้ว ภูเก็ตเป็นอีกจังหวัดที่ขอท้าให้เดินทางไปตระเวนชิม เพราะมีของกินเยอะเหลือเกิน อีกทั้งยังหลากหลายทั้งไทย จีน มุสลิม นักชิมต้องบอกว่า “ภูเก็ต เด็ด จริง ๆ”

หลังจากตระเวนชิมขนมจีน แกงใต้ ทั้งในร้านธรรมดา ๆ และ ร้านรับแขกสวย ๆ แล้ว ยังพอมีเวลาแวะไปกิน “หมี่สะปำ” ใครหนอบอกว่า ไม่ได้มากินหมี่สะปำก็เหมือนมาไม่ถึงภูเก็ต

เรามุ่งหน้าที่ไป “ร้านหมี่สะปำคุณยายเจียร” เพราะร้านใหญ่ หาง่าย ไม่ต้องรอนาน มีที่จอดรถสะดวก อีกทั้งยังมีเมนูหลากหลายให้เลือก

ที่ต้องอธิบายเช่นนี้เพราะเพื่อนที่ไปด้วยกันยังเข้าใจว่า “หมี่สะปำ” คือ ชื่อของร้าน แต่จริง ๆ แล้ว หมี่สะปำ คือ เส้นบะหมี่ตามแบบฉบับของชาวจีนฮกเกี้ยน ซึ่งเข้ามาอาศัยทำงานในภูเก็ตสมัยที่ยังเป็นเหมืองดีบุก หนึ่งในย่านอาศัยคือ หมู่บ้านสะปำ ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต และด้วยความขยันขันแข็งของชาวจีน นอกจากจะทำประมง ก็ยังมีการทำค้าขาย ใครมีวิชาอะไรก็งัดเอามาโชว์ อย่าง “หมี่ฮกเกี้ยน” ซึ่งเป็นเส้นบะหมี่เหลืองกลมขนาดใหญ่ โดยคุณยายเจียร ซึ่งอาศัยอยู่ทีสะปำ ก็ได้ทำผัดหมี่สะปำขายมาตั้งแต่ปี 2495 ด้วยความไม่มีชื่อร้าน ลูกค้าก็เรียกกันว่า “หมี่สะปำ” จนลูกหลานสืบทอดกิจการกันมาจนถึงรุ่นที่ 3

ใครไปใครมาก็ต้องไปกินหมี่สะปำ เป็นที่เลื่องลือมานาน จนเป็นที่มาของคำว่า “มาภูเก็ตทั้งที ต้องกินหมี่สะปำ” เพราะมันหากินที่อื่นได้ยากมาก หากจะใกล้เคียงกันก็มีทั้งที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย ซึ่งมีชาวจีนอาศัยอยู่มากเช่นกัน

ส่วนในภูเก็ตเอง นอกจากร้านของคุณยายเจียรแล้ว ยังมีร้านที่ทำหมี่ฮกเกี้ยนอร่อย ๆ อยู่หลายเจ้า มีสูตรเด็ดเคล็ดลับความอร่อยแตกต่างกันออกไป และกลายเป็นขวัญใจนักชิม อาทิ หมี่ต้นโพธิ์ (วงเวียนหอนาฬิกา), โกลาเจ้าเก่า (หมี่ฮกเกี้ยน), หมี่โกล้าน ลกเทียนเจ้าเก่า, หมี่อ่าวเก เป็นต้น

เลือกเนื้อสัตว์ได้ กุ้ง หมึก ลูกชิ้นปลาเส้นทอด หรือ ฮือก๊วย (ใส่ไข่ 65 ไม่ใส่ไข่ 60 แบบพรีเมียม 220-350 บาท)

รวมทอด มีทั้งปอเปี๊ยะทอด เต้าหู้ทอด เกี๊ยวทอด และทอดมัน อร่อยทุกอย่าง (จานรวม 60 บาท)

ปอเปี๊ยะสดไส้หมู ชิ้นละ 18 บาท ไส้ปู ชิ้นละ 25 บาท

ลูกชิ้นปลาลวกจิ้ม เมนูเด็ดของจังหวัดภูเก็ต เนื้อเนียน เด้ง อร่อยมาก (จานเล็ก 70 บาท)

เมนูอาหารถิ่นในจังหวัดภูเก็ตยังมีให้เลือกลิ้มอีกเยอะมาก ต้องบอกว่าเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องกินจริง ๆ  ต้องมาชิมหลาย ๆ ครั้ง ถึงจะครบร้านครบเมนู แต่หากใครอยากได้สูตรสำเร็จแบบมาร้านเดียวได้กินหลาย ๆ อย่าง ก็มาที่ร้านหมี่สะปำยายเจียรกันได้ แม้จะมีเมนูท้องถิ่นไม่ครบทุกอย่าง แต่ก็มีหลายอย่างให้ลอง ทั้ง “หมี่สะปำ” ซึ่งเป็นเหมือนหมี่ผัดน้ำขลุกขลิก ความอร่อยจะอยู่ที่น้ำซุปเข้มหอมจากการเคี่ยว ตัวเส้นเด้งดึ๋ง, “โอ่ต้าว” หรือ “โอต๊าว”  ลักษณะคล้ายหอยทอด, “ฮูแช่” หรือ สลัดสไตล์ภูเก็ต, “โลบะ” หรือ “ล้อบะ” หูหมู ปอด ลิ้น หัวใจ ไส้หมู ต้มพะโล้ แล้วมาทอดสะดุ้งน้ำมัน, “เต้าหู้ทอด” ที่ความนุ่มคล้าย ๆ กับเต้าหู้ยูนนานที่แม่ฮ่องสอน อร่อยมาก ๆ  ฯลฯ

อีกเมนูอร่อยคือหม่อหมก ใช้ปลาทะเลผสมเครื่องแกงใต้ หอม รสเข้ม อร่อย หากินได้ในหลาย ๆ ร้าน (ห่อหมกเนื้อปลาเก๋า 35 บาท ห่อหมกปูม้า+ปลา 45 บาท)

เบือทอด อีกหนึ่งอาหารพื้นเมือง ทำมาจาก “ใบช้อง” ที่ขึ้นตามธรรมชาติในน้ำสะอาด มาชุบแป้งผสมเครื่องแกงเล็กน้อย กินกับน้ำจิ้มแดง หาชิมได้ในหลาย ๆ ร้าน จานนี้จากร้าน กันเอง@เพียร์

แค่ที่ร่ายมาในร้านเดียวก็ต้องเลี้ยวมาชิมกันหลายรอบ ถ้ามาตระเวนกินให้ทั่วรอบเกาะภูเก็ต ก็จะสนุกยิ่งกว่า ย้ำอีกครั้งว่า มีของอร่อย ๆ เยอะมาก แต่จะอยู่ในย่านตัวเมืองเป็นส่วนใหญ่ ส่วนย่านริมทะเลก็มีบ้างประปราย  น่าเสียดายมากที่ทริปนี้ไม่ได้ออกไปกินติ่มซำ เพราะเป็นอีกจังหวัดที่มีติ่มซำอร่อย ๆ อยู่หลายร้าน มาภูเก็ตแล้วแยกร่างทางการกินลำบากมาก อันโน่นก็อยาก อันนี้ก็ใช่

มารอบนี้ยังได้พบเพื่อนซึ่งเป็นคนในท้องถิ่น อาสาพาไปกินข้าว 1 มื้อ เราบอกเพียงขอเป็นอาหารท้องถิ่น อะไรก็ได้ สบาย ๆ เพื่อนคงกลัวต้อนรับไม่สมกับการคิดถึง เลยพาไปร้านท้องถิ่นที่อดีตเคยเป็นร้านซีฟู้ดเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียง ปัจจุบันโด่งดังจนขยายสาขาใหญ่ เป็นร้านรับแขกหน้าตาดี แถมปรับเมนูแพงขึ้นตามบรรยากาศที่พัฒนา (ตัวร้าน) แต่ก็ยังคงความอร่อย ดุ เด็ด ตามแบบฉบับใต้ เป็นความแพงที่ยังคงรสชาติไว้ แม้จะไม่เหลือกลิ่นอายบ้าน ๆ แต่ก็ให้ผ่าน

เมนูของหวานหอมเย็นชื่นใจแบบฉบับภูเก็ต “โอ๋วเอ๋ว” หากินได้ในหลาย ๆ ร้าน หลายระดับราคา ถ้วยนี้จากร้านกันเอง แอท เพียร์ สวยงามสมกับเป็นร้านรับแขก

กลับมาแล้วก็ยังคิดถึงภูเก็ต ไม่ได้คิดถึงแต่หาดสวย ๆ ทะเลใส ๆ ที่มาเมื่อไหร่ก็ไม่มีเบื่อ แต่คิดถึงจริง ๆ กับบรรยากาศของอาหารการกินที่มีทุกระดับ บอกแล้วว่าภูเก็ต เด็ดจริง ๆ

Post a comment

4 − 3 =