ตลาดโอ๊ะป่อย เช้านี้ที่รอคอย  

อาการของคนหลงราตรี เมื่อเจอบรรยากาศดี ๆ ก็มักจะไม่อยากเข้านอน อย่างการเดินทางล่าสุด ในเส้นทาง Fam Trip สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวกับ ททท. ภูมิภาคภาคกลาง ก็อยากเกเรกันซะตั้งแต่คืนแรก

เพราะค่ำคืนบนสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ช่วงปลายมกราคม ยังมีไอเย็น ๆ ให้พอชื่นใจ แค่หลบจากฝุ่นกรุงเทพฯได้ ก็อยากจะซึมซับอากาศดี ๆ เก็บไว้เยอะ ๆ แต่เมื่อรู้ว่าเช้ามืดของวันพรุ่ง ต้องออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า ก็จำยอมซุกหมอนกันแบบไม่ดึกจนเกินไป

6.15 น. เราเดินทางมาถึง “ตลาดโอ๊ะป่อย”​ แสงจากดวงไฟน้อย ๆ ยังทำงานท่ามกลางความสลัว แต่ก็เต็มไปด้วยสีสันของสิ่งที่เราคิดว่ามันคือ “ตุง” แบบทางเหนือ ซึ่งจริง ๆ มันเรียกว่า “คังด้ง” ในภาษากระเหรี่ยง แปลว่า “ใยแมงมุม” ที่ชาวบ้านเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ปกป้องคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้าย ในตลาดจึงมีคังด้งเต็มไปหมด มิน่าล่ะ แรกเห็นก็รู้สึกดีมาก ๆ เลย

ตลาดโอ๊ะป่อย มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปลายปี 2561 โดยเปิดพื้นที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ริมลำธารภาชีให้ชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงนำเอกลักษณ์ต่าง ๆ มานำเสนอ ปัจจุบันมีร้านค้าประมาณ 38 ร้าน แบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนอาหาร และโซนหัตถกรรม

ในโซนอาหาร แต่ละร้านจะขายอาหารไม่ซ้ำกัน และจะเน้นของกินพื้นถิ่นแบบชาวกะเหรี่ยง อาทิ “ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย” ที่บอกว่า ขะนอง อุ๊ย อุ๊ย หรือ อร่อยมาก ๆ “ข้าวแดกงา” ภาษากะเหรี่ยงเรียกว่า “หมี่สิ” ที่ทำมาจากข้าวเหนียวนึ่งสุก ตำกับงาดำ กินกับน้ำผึ้ง “ข้าวห่อกะเหรี่ยง” หรือ “หมี่ถ่อง”  ที่เป็นข้าวเหนียวนึ่งห่อด้วยใบตอง ฯลฯ

เมื่อฟ้าเริ่มสาง ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามา ริมลำธารคือทำเลที่ทุกคนจับจอง แต่ก็ไม่ถึงกับแออัดจนเกินไป สิ่งที่ทุกสายตาจับจ้องรอคอยเช้านี้ คือ “การตักบาตรพระล่องแพ”

ไม่ต้องกลัวว่าจะกินเพลิน เดินจนลืม เมื่อเวลาประมาณ 7.30 น. จะมีการประกาศให้นักท่องเที่ยวได้เตรียมตัวรอรับพระสงฆ์ จากนั้นแพไม้ไผ่ที่มีพระสงฆ์ 5 รูปยืนอย่างสงบ นำโดยผู้ใหญ่บ้าน “บี-ภัทรพงศ์ วงศ์กิจเกษม” ที่ทำหน้าที่ทั้งถ่อทั้งงัด สลับกับการเป่าเครื่องดนตรีเขาสัตว์มาเป็นระยะ เป็นสำเนียงยามเช้าที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ

ท่ามกลางความสงบจากศรัทธาของผู้คน จนได้ยินกระทั่งเสียงไม้กระทบน้ำ เป็นวิถีที่งดงาม ภาพของเช้านี้ถูกเลื่อนขั้นอย่างไว กลายเป็นเช้าที่น่าจดจำอันดับต้น ๆ ในทันที

เมื่อพระสงฆ์เดินทางมาถึงท่าน้ำที่ถูกจัดเตรียมอย่างเป็นระบบ ชาวบ้านต่างรอคอยพร้อมชะลอมน้อย รวมทั้งอาหารและดอกไม้ที่ทางตลาดจัดไว้ แลดูสวยงามไปในทิศทางเดียวกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการประกาศให้ทุกคนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ และค่อย ๆ ทยอยกันมาใส่บาตร ก่อนที่จะรอรับพรพร้อม ๆ กัน

จากนั้นเมื่อพระสงฆ์เดินทางกลับเข้าวัด ผู้คนก็ได้เวลาหามุมพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งในตัวตลาด และโซนริมน้ำ และที่อดไม่ได้คือการถ่ายรูปกับคังด้งหลากสีที่มีอยู่ทั่วตลาด

ตลอดเวลาเราจะเห็นเด็ก ๆ ถือถังเดินไปมา ได้คุยกับสาวน้อยนามว่า “ลีลาวดี” บอกว่าเธอคือ “จิตอาสา” มาช่วยเก็บขยะในตลาด เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม และเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของผู้ใหญ่บ้าน ที่ต้องการให้เด็ก ๆ เข้ามามีส่วนร่วมกับชุมชน อย่างน้อยก็ได้รู้จักการรักษาความสะอาด และได้มาเห็นพลังของวิถีของพวกเขาเอง

วนเวียนอยู่สองสามชั่วโมง ได้เห็นความน่ารักแบบตะโกนของตลาดโอ๊ะป่อยในหลาย ๆ ด้าน เริ่มตั้งแต่การจัดการที่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคนในท้องถิ่น มีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีการจัดระเบียบการจอดรถ การเข้าออกตลาด การรักษาความสะอาดของห้องน้ำ (ในวัดป่าท่ามะขาม ฝั่งตรงข้ามตลาด) การจัดโซนร้านค้า ฯลฯ

ที่น่ารักสุด ๆ คือแนวคิดที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม แนว Zero Waste เพราะเมื่อเป็นตลาด ย่อมมีการกินการใช้ในปริมาณสูง ภาชนะของที่นี่ส่วนใหญ่จึงเน้นใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่มีพลาสติก ไม่มีโฟมอย่างเด็ดขาด ตามจุดต่าง ๆ จะมีจุดคัดแยกขยะ ส่วนขยะที่เด็ก ๆ เก็บไปก็จะมีเจ้าหน้าที่คัดแยกอยู่ท้ายตลาด

เป็นสถานที่ที่บอกกล่าวเรื่องราวได้สมดังความหมาย  “โอ๊ะป่อย” แปลว่า “พักผ่อน” จากแนวคิดที่อยากให้สวนผึ้งมีมุมดี ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสธรรมชาติ ในราคาที่เป็นมิตรภาพ ถือเงินมา 100 บาท กินได้ 3-4 อย่างสบาย ๆ บรรยากาศแบบนี้นับว่าหาได้ยากแล้ว

เพราะ “โอ๊ะป่อย” ทำให้เราหย่อนใจได้เต็มที่ จึงเป็นเช้าที่เรายังคงรอคอยเสมอ

ตลาดโอ๊ะป่อย

“ศรัทธาพระพุทธศาสนา เคารพธรรมชาติ  เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน”

เปิดวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

เวลา 7.00-14.00 น.

(ขอความกรุณาออกจากตลาดภายใน 16.00 น.เพื่อคืนพื้นที่ให้เขตสงฆ์)

สามารถจอดรถได้ที่วัดป่าท่ามะขาม (ฝั่งตรงข้ามตลาด) รวมทั้งลานจอดรถที่ทางตลาดเตรียมไว้ (มีรถรับส่ง)