Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

meetSPACE

งานวิจัย “Smart Program” จ่ายอุปกรณ์การแพทย์ในโรงพยาบาลชี้ ช่วยสร้างความสะดวกในการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล อีกทั้งยังช่วยลดอัตราการการติดเชื้อของผู้ป่วยหลังการรักษา คาดสามารถต่อยอดองค์ความรู้สร้างประโยชน์ได้ในอนาคตในภาวการณ์การที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์มีภาระงานอยู่ล้นมือ ช่วยลดการสูญเสียทั้งค่าใช้จ่าย เวลาการทำงาน และชีวิตของผู้ป่วย การศึกษาประโยชน์การจ่ายอุปกรณ์ของ Smart Program หรือ “โปรแกรมอัจฉริยะ” เป็นส่วนหนึ่งในงานวิจัยเรื่อง “ผลการพัฒนาประสิทธิภาพการจ่ายอุปกรณ์การแพทย์ในรูปแบบ Smart Program 2019” โดยทำการศึกษา ณ โรงพยาบาลบางสะพาน อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะเวลาการศึกษาระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ถึง 30 มกราคม 2568 มีกลุ่มประชากรตัวอย่างภายใต้การวิจัยคือ บุคลากรที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วย อาทิ พยาบาลวิชาชีพ พนักงานช่วยเหลือคนไข้ เจ้าหน้าที่ทันตกรรม แม่บ้านประจำหอผู้ป่วย รวมทั้งสิ้น 152

คอลัมน์: เซาะร่องเสียง โดย นกป่า อุษาคเณย์ ความยิ่งใหญ่ในประเทศไทยของ “เติ้ง ลี่จวิน” นับตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1970 ไปต้นมา จะว่าไปก็คล้ายกับทุกประเทศที่มีคนจีนอาศัยอยู่ ความนิยมในจีนแผ่นดินใหญ่นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะเธอได้รับฉายาว่า “เติ้งน้อย” นั่นหมายถึง “เติ้ง เสี่ยวผิง ครองเมืองจีนยามกลางวัน” ส่วน “เติ้ง ลี่จวิน ครองเมืองจีนยามราตรี” เนื่องจากทั้งสองคนมีชีวิตอยู่ร่วมยุคสมัยกัน ที่มาของวลีนี้ เป็นเพราะรัฐบาลจีนแบนเพลงของเธอ เนื่องจากเธอเป็นคนไต้หวันคู่กรณีทางเมืองในยุคนั้น ทว่า ในยามค่ำคืน ไม่ว่าจะย่ำเดินไปแห่งหนไหนบนแผ่นดินจีน จะต้องได้ยินเพลงใดเพลงหนึ่งของเธอล่องลอยมาตามสายลมตราบจนฟ้าสาง แต่แล้ว กลับดูเหมือนว่าบนแผ่นดินอาทิตย์อุทัย ชื่อเสียงของ “เติ้ง ลี่จวิน” กลับยิ่งใหญ่ไม่แพ้ในหมู่ประเทศที่มีคนจีนอาศัยอยู่ เพราะนอกจากการประสบความสำเร็จมากมายในญี่ปุ่น ได้ทั้งเงิน ทั้งกล่อง และได้รับความชื่นชมจากคนญี่ปุ่น เธอยังมีอัลบั้มเพลงภาษาญี่ปุ่นหลายอัลบั้มด้วยกัน นอกจากภาษาญี่ปุ่น เธอเคยอัดแผ่นเสียงภาษาฮกเกี้ยน ภาษากวางตุ้ง ภาษาเวียดนาม ภาษาอินโดนีเซีย และภาษาอังกฤษ อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทเพลงภาษาจีนกลางนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะเธอมีตำแหน่งเป็นถึง

คอลัมน์: เซาะร่องเสียง โดย นกป่า อุษาคเณย์ ความ Classic ร็อคเล็กเล็ก คือการผสมผสานระหว่างทีมงานหลังบ้านกับทีมหน้าบ้าน ทีมงานหลังบ้านคือทีมโปรดิวเซอร์ และนักดนตรีมืออาชีพเพดานบินสูงส่วนใหญ่เป็นแบ๊คอัพให้เต๋อเรวัต ผนึกกำลังกับทีมแต่งทำนองระดับอ๋อง และทีมเขียนเนื้อร้องระดับเทพ ประกอบด้วย กฤษณา การุณย์ (กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา) จาตุรนต์ เอมช์บุตร ไพฑูรย์ วาทยะกร วิชัย อึ้งอัมพร พัชรี ศารวรรณ (อัสนี โชติกุล) นิติพงษ์ ห่อนาค เขตต์อรัญ เลิศพิพัฒน์ ยังมีทีมเทคนิคในห้องอัด ทีมถ่ายปก ศิลปกรรมออกแบบปก ทีมการตลาด ประชาสัมพันธ์ เทคโนโลยีสื่อบันทึกเสียง (แผ่นเสียง เทป) ทั้งหมดเป็นแรงเสริมส่งซึ่งกันและกัน ทำให้อัลบั้มนี้ขึ้นชั้น Classic ข้ามกาลเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีมหน้าบ้าน

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด จับมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (จุฬาฯ) และมหาวิทยาลัยไปรษณีย์และโทรคมนาคมปักกิ่ง (BUPT) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้าน ICT โดยเน้นเฉพาะนักพัฒนาระบบคลาวด์ ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งอาเซียน ความร่วมมือดังกล่าวถูกนำเสนอในงาน Asia Pacific Cloud AI Forum & Huawei Developer Competition จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม 2568 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยงานนี้ได้รวบรวมผู้นำในอุตสาหกรรม นักพัฒนา และนักวิชาการกว่า 300 คนจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจด้านนวัตกรรมและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและอุตสาหกรรม ภายใต้ธีม "Spark Infinity: Innovate Today, Transform Tomorrow"

“ผู้ใหญ่ทุกคนเคยเป็นเด็กมาก่อน แต่น้อยคนที่จะจดจำช่วงเวลานั้นได้” ถ้ายังจำประโยคนี้ได้ดี และอยากจะปลุกจิตวิญญาณที่แอบซ่อนภายในใจ อยากจะชวนกันไปงานนี้ แม๊ด โมชั่น (Mad Motion) กลุ่มนักสร้างสรรค์ประสบการณ์ สร้างแรงบันดาลใจในรูปแบบImmersive Experience Creations เปิดประสบการณ์ในรูปแบบ Immersive ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจกับเรื่องราวของ “The Little Prince” หรือ “เจ้าชายน้อย” สุดยอดวรรณกรรมที่คนทั้งโลกหลงรัก ในงาน “The Little Prince Universe - An Immersive Journey” โดยได้จัดงานแถลงข่าวอุ่นเครื่องให้ทุกท่านเตรียมตัวพบกับงานสร้างสรรค์อันงดงามที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานในแบบที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม งานนี้ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก ฯพณฯ ฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ

คนเมืองร้อนย่อมรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับลมหนาว  สิ่งแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยได้เจอมากนัก ถึงขั้นต้องดั้นด้นเดินทางไกลไปสัมผัส เพื่อแลกกับประสบการณ์อันแสนพิเศษ  ขณะที่คนที่ต้องอยู่ในสภาพอากาศอย่างยาวนาน ก็ใฝ่ฝันถึงแสงแดดอุ่น และความกระปรี้กระเปร่าของฤดูร้อน   สภาพอากาศกับอารมณ์ มีความสัมพันธ์กันมากน้อยแค่ไหน ในทางจิตวิทยาอุณหภูมิที่แปรเปลี่ยนไปตามฤดูกาล สามารถสร้างผลกระทบกับความรู้สึกของคนเราได้ อารมณ์กับสายลมหนาว อากาศหนาวส่งผลกระทบต่ออารมณ์และความรู้สึกของคนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฤดูหนาวยาวนาน ความเย็นและแสงแดดที่ลดลง สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการ "โรคซึมเศร้าในฤดูหนาว" (Seasonal Affective Disorder หรือ SAD) อาการนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) และเมลาโทนิน (Melatonin) ที่มีผลต่ออารมณ์และการนอนหลับ แม้เมืองไทยอาจจะไม่ถึงขั้นนั้น แต่หลายคนก็ตกอยู่ในสภาพเหมือนคนอกหัก เพราะความเย็นของสายฝน รวมทั้งสายลมหนาว ทำให้เรารู้สึกเหงาอย่างประหลาด แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนก็ตาม ร้อน-หนาว เรารู้สึกเท่ากันไหม คนที่อยู่ในเมืองร้อนกับเมืองหนาว มักรู้สึกถึงความหนาวต่างกัน เนื่องจากร่างกายและจิตใจมีการปรับตัวต่างกัน คนในเมืองร้อนที่ไม่คุ้นเคยกับอากาศเย็นอาจรู้สึกหนาวมากกว่าคนเมืองหนาวแม้อุณหภูมิจะไม่ต่ำมาก ในขณะที่คนเมืองหนาวที่เผชิญกับอากาศเย็นจัดเป็นประจำอาจไม่รู้สึกหนาวในระดับที่เท่ากัน คนเมืองร้อนมักรู้สึกตื่นเต้นและมองว่าลมหนาวเป็นสิ่งแปลกใหม่ เป็นโอกาสในการสัมผัสอากาศที่ไม่คุ้นเคย เช่น การแต่งตัวด้วยเสื้อกันหนาว

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT เชิญชวนนักออกแบบ และกลุ่มผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรม เข้าร่วมโครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025 เพื่อร่วมนำเสนอผลงานศิลปหัถตกรรมไทยที่มีศักยภาพและเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาศิลปหัตถกรรมไทยไปไกลระดับโลก ชิงเงินรางวัลพร้อมเงินสนับสนุนในการผลิตผลงานต้นแบบรวมมากกว่า 650,000 บาท ภายใต้แนวคิด “Innovative Heritage Craft: หัตถศิลป์ แห่งมรดกหัตถกรรม”  ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย เผยว่า ” โครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025 ถือได้ว่าเป็นโครงการประกวด ฯ

“วูเช่” ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของคนไทย เดินหน้าสร้างแบรนด์ “Dr.Ple” เวชสำอางตัวเด็ดจากคลินิกความงามสู่ผู้บริโภคในวงกว้าง ตอบโจทย์คนใส่ใจสุขภาพผิว เน้นการบำรุงและปกป้องอย่างปลอดภัย ไร้สารสเตียรอยด์  จับเทรนด์ออนไลน์ขยายการเติบโต พร้อมอวดโฉมสินค้าต้นปี 2568  ตั้งเป้าหมาย 100 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ดร.นฤมล พุ่มฉัตร (ดร.เปิ้ล) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วูเช่ จำกัด เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมากว่า 10 ปี โดยได้การตอบรับที่ดีในกลุ่มผู้บริโภคโดยทั่วไป และกลุ่มคลินิกความงาม ด้วยคุณภาพที่เชื่อถือได้ ภายใต้โรงงานมาตรฐาน GMP ที่สามารถรองรับการผลิตในรูปแบบ OEM อย่างครบวงจร โดยมีแบรนด์ “Dermache” (เดอร์มาเช่) เป็นสินค้าเรือธงที่สร้างความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ล่าสุด

“มหกรรมสินค้าและบริการไทย-จีน 2024 CTCE Trade Expo 2024” งานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจีนใหญ่สุด ในไทย บนพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม.  ณ ศูนย์แสดงสินค้าซามาเนีย พลาซ่า ย่านถนนบางนา-ตราด  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 ธ.ค. 2567 เผยยักษ์ใหญ่กลุ่มวัสดุก่อสร้างโมเดิร์นเทรด สนใจเป็นคู่ค้าธุรกิจ ส่งทีมร่วมงานฯ พบเจ้าของโรงงานผู้ผลิตจากจีนกว่า 200 รายที่มาโชว์สินค้าในงานฯ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 เวลา 10.30 น. ได้มีการเปิดงาน  “มหกรรมสินค้าและบริการไทย-จีน 2024 CTCE Trade Expo 2024” ณ

ชมรมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จังหวัดเพชรบุรี (KU.เพชรบุรี) มอบรางวัลบุคคลดีเด่นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนประจำปี 2567 ให้กับ 2 นักอนุรักษ์หัวใจสีเขียวได้แก่ เสรี มานิช ในรางวัลประเภทบุคคลทั่วไป และชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ในรางวัลประเภทสมาชิกชมรม พิธีการมอบรางวัลได้ถูกจัดขึ้นเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ณ โรงแรมรอยัล ไดมอน จ.เพชรบุรี ท่ามกลางศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่เข้าร่วมงานกันอย่างอบอุ่น โดยมี ดร.กรัณย์ สุทธารมณ์ ประธานชมรม KU.เพชรบุรี เป็นประธานเปิดงาน ดร.กรัณย์ กล่าวว่า จุดประสงค์ของการมอบรางวัลครั้งนี้ก็เพื่อเชิดชูบุคลากรที่ทำงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมของชมรม KU. เพชรบุรี ที่มีจุดประสงค์ของการก่อตั้งชมรมไม่เพียงต้องการให้เป็นที่ที่รวมตัวกันสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องชาวเกษตรศาสตร์เท่านั้น แต่ยังต้องการส่งเสริมให้ชาวเกษตรศาสตร์ในจังหวัดเพชรบุรีมุ่งทำประโยชน์ให้กับสังคมในพื้นที่อีกด้วย โดยนำวิชาความรู้จากการร่ำเรียนมาบูรณาการปรับใช้ ในเวลาเดียวกัน ชมรมยังมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ “ทั้งสองท่านที่ได้รับรางวัลเป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ไม่เพียงในจังหวัดเพชรบุรี แต่ยังเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและรักษาระบบนิเวศทางธรรมชาติโดยรวมของประเทศ เป็นบุคคลแบบอย่างในงานด้านอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่เพื่อสานงานด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป” ดร.กรัณย์ กล่าว เสรี

“หินซ้อน”  เปิดตัวเทศกาลท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แนวใหม่  “มหัศจรรย์การอาบป่า“  ขานรับลมหนาวช่วงปีใหม่ ชวนไปรับพลังธรรมชาติ ล่องลำน้ำป่าสัก ชมไฮไลต์ “ผาหมีเหนือ เสือใต้” Unseen แห่งใหม่ สระบุรี ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตำบลหินซ้อน สมาคมท่องเที่ยวสระบุรีและอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี  ร่วมกับตำบลหินซ้อน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะผู้ร่วมผจญภัย จัดกิจกรรมเปิดตัวเทศกาลท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ “มหัศจรรย์การอาบป่า” ในลำน้ำป่าสัก ( Forest Bathing )  เพื่อนำนักท่องเที่ยวสู่เส้นทางธรรมชาติและดูแลสุขภาพและชุมชน ต้อนรับปีใหม่ ปี 2568 งานนี้ได้ขัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2567 โดย มีนายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย นายกิตินันท์ แม้นเลขา ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตำบลหินซ้อน นางสาววัณณิกา

สมาคมภัตตาคารไทย - สมาคมผู้เลี้ยงปลากะพงไทย ลงนามในเอ็มโอยู ร่วมส่งเสริมตลาดปลากะพงขาวของไทย ภายใต้การสนับสนุนจากคณะทำงานขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร หอการค้าไทย พร้อมเปิดนาทีทองปลากะพงปลอดภัย จำหน่ายราคาพิเศษในงาน TFTM 2024 ณ ศูนย์การค้าฟีนิกซ์เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 มีการลงนามเอ็มโอยูและแถลงความร่วมมือของสมาคมภัตตาคารไทย และสมาคมผู้เลี้ยงปลาทะเลไทย ภายใต้การสนับสนุนของคณะทำงานขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร หอการค้าไทย โดยการลงนามนี้เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาปลากะพงขาวที่ล้นตลาดและราคาตกต่ำให้เป็นรูปธรรม ตลอดจนส่งเสริมการบริโภคปลากะพงขาวของไทย ทั้งยังช่วยยกระดับรายได้ของเกษตรกร และประชาสัมพันธ์คุณภาพมาตรฐานสินค้าปลากะพงขาวของไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคธุรกิจเกษตรและอาหาร โดยมีนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย และนายสุทธิ มะหะเลา นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาทะเลไทย เข้าร่วมเอ็มโอยู และมีดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการคนที่ 1 หอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร เป็นสักขีพยานในการลงนาม ซึ่งจัดภายในงาน

สมาคมภัตตาคารไทย ผนึก ททท. ฟีนิกซ์ หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ สสส. จัดมหกรรมอาหารสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Thailand Food Travel Mart 2024 วันที่ 22 - 24 พฤศจิกายน 2567 ณ ฟีนิกซ์ ประตูนํ้า เดินหน้าดันไทยสู่ “ฮับ” อาหารโลก คาดปี 69 มูลค่าการค้าอาหารทะลุ 7 แสนล้าน ยกทัพ “ปลากระพง-ไข่-กุ้งลำปำ-น้ำตาล-น้ำมันพืช” นาทีทอง นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมภัตตาคารไทย ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ,ศูนย์การค้าฟีนิกซ์

หากต้องดำรงชีวิตในถ้ำที่รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ การก่อไฟปรุงอาหารเป็นภาพหนึ่งในจินตนาการ  ตามวิถีดั้งเดิมจากประกายไฟและไออุ่น ที่ได้สร้างความผูกพันและการเป็นอยู่ให้กับผู้คนในหลากวัฒนธรรมมาอย่างเนิ่นนาน

เพราะหัวใจสำคัญของการปรุงอาหาร มาจากการคัดสรรสิ่งดี ๆ ในทุกองค์ประกอบ หากมองย้อนไปในครัวไทย กับข้าวของคุณย่า คุณยาย คุณแม่ ล้วนเต็มไปด้วยความรักและปรารถนาดี  การทำร้านอาหารเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้คน จึงไม่จบลงแค่ความอิ่มอร่อยเท่านั้น

วันนี้จะชวนเข้าไปสัมผัสรสชาติใหม่จากการรังสรรค์อย่างพิถิพิถัน เริ่มจากตัวร้านที่อิงแอบอยู่เหมือนถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่กลางเมืองใหญ่ นำเสนอศิลปะการปรุงอาหารด้วยไฟจากฟืนและถ่านได้อย่างน่าทึ่ง
[gallery columns="2" size="full" ids="34324,34325"]
เปิดตัว La Braci BKK

La Braci ร้านอาหารสไตล์เวสเทิร์น ในรูปแบบ Casual Fine Ding เริ่มเปิดให้บริการ วันที่ 19 พฤศจิกายน  2567  ผู้ก่อตั้งคือเชฟ Sean Lai ซึ่งได้ใช้เวลาในการมองหาวิถีที่ผสมผสานโลกแห่งความทันสมัยกับความเรียบง่ายได้อย่างยั่งยืน โดยได้ตัดสินใจปักหลักทำธุรกิจในเมืองไทย ด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยในการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ มีผืนดินที่เพาะปลูกและจัดหาวัตถุดิบเพื่อการดำรงอยู่อย่างมั่นคง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยสีสันและความเคลื่อนไหวของโลก

คุณฌอน ตั้งใจไว้ว่าภายใน 5 ปี จะทำธุรกิจ 5 โปรเจกต์ในเมืองไทย หรือ 1 ปี สำหรับ 1 โปรเจกต์ โดยเริ่มต้นจาก La Braci  ในย่านเพลินจิต บนทำเลที่เรียกได้ว่าเก๋ไม่ซ้ำใคร

[gallery columns="2" size="full" ids="34295,34296"]
ถ้ำแห่งความสมบูรณ์แบบ

เมื่อเข้ามายังตัวร้าน La Braci เราจะได้พบกับบรรยากาศที่ดูดี มีสไตล์ ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ฝั่งหนึ่งของร้านซึ่งเป็นกระจกใส ปล่อยให้เราได้ทอดสายตาไปกับความเขียวขจีของร่มไม้ ท่ามกลางตึกสูงที่รายล้อม หากอยากออกไปเดินเล่นในสวนหย่อมของอาคารก็ทำได้

ภายในตัวร้าน จะมองเห็นเคาน์เตอร์ยาวแบบเปิดโล่ง ชวนให้ทุกคนติดตามการทำงานของเหล่าเชฟได้อย่างเพลิดเพลิน ด้านในสุดจำลองพื้นผิวแบบผนังถ้ำ สอดรับกับการออกแบบตัวร้านที่แทรกตัวอยู่ในอาคารขนาดใหญ่ หากมองจากด้านนอกเข้าไป จะเห็นความเป็นมุมลับดังถ้ำน้อย ๆ ที่เก็บซ่อนเรื่องราวที่น่าค้นหาอยู่ในนั้น

หัวใจของร้านอยู่ตรงเตาฟืนที่พร้อมเปล่งประกายไฟลุกโชน เป็นศิลปะการทำอาหารที่ไม่ใช่แค่ปิ้งย่างอย่างที่เข้าใจ แต่มันคือการควบคุมพลังของไฟไปกับวัตถุดิบชั้นเลิศและส่วนผสมต่าง ๆ ด้วยเทคนิคการใช้ไฟจากฟืนไม้สนทะเลคุณภาพ อันเป็นทักษะที่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ซึ่งนี่คือช่วงเวลาที่จะชวนให้เราได้ติดตามชมและสนุกไปกับมัน

[caption id="attachment_34297" align="aligncenter" width="900"] Sean Lai เจ้าของร้าน La Braci และ วชิรวิทย์ ธนันต์รัตน์ (เชฟแบงค์) กรรมการบริษัทและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ[/caption]

ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด คุณฌอนและเชฟแบงค์ ร่วมกันแชร์ไอเดียในการออกแบบร้าน โดยได้ทำการคัดเลือกไม้สักแท้จาก จ.แพร่ มาเป็นเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งคอลเล็กชันอุปกรณ์จานชาม ที่สะท้อนอารมณ์ความเป็นธรรมชาติ

"ด้วยการตกแต่งร้านที่ผสมผสานระหว่างความโมเดิร์นและธรรมชาติอย่างกลมกลืนในคอนเซปต์ของถ้ำหินและเน้นเฟอร์นิเจอร์เป็นโทนสีของไม้ ทำให้รู้สึกถึงความหรูหราและในขณะเดียวกันก็รู้สึกผ่อนคลาย ที่ร้านสามารถรับรองลูกค้าได้ถึง 50 ที่นั่ง เหมาะสำหรับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อพิเศษสำหรับครอบครัว การพบปะเพื่อนฝูง หรือดินเนอร์สุดโรแมนติก

La Braci ให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองผ่านการออกแบบครัวระบบเปิดที่เชฟและทีมงานสามารถเชื่อมต่อกับแขกได้โดยตรง แขกทุกท่านสามารถมองเห็นเรื่องราวกระบวนการสร้างสรรค์เมนูของแต่ละจาน พร้อมทั้งสัมผัสกลิ่นหอมอันยั่วใจจากเตารมควัน ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับอาหารแต่ละเมนู" Sean Lai กล่าว

ศิลปะแห่งฟืนไฟเพื่อช่วงเวลาที่เป็นมิตร

การคัดเลือกวัตถุดิบชั้นเยี่ยมเป็นลักษณะสำคัญของอาหารประเภท Fine Dining ที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันตั้งแต่ต้นทาง เมื่อหลอมรวมกับองค์ประกอบที่เพียบพร้อม ทักษะและความชำนาญของเชฟ รวมทั้งบรรยากาศที่ช่วยยกระดับความผ่อนคลาย จนถึงนาทีที่ยกเสิร์ฟแล้วเริ่มชิม จะรับรู้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่ว่ามาทั้งหมด

Sean Lai  ผู้ก่อตั้งร้าน La Braci อธิบายให้ฟังว่า คำว่า La Braci เป็นภาษาอิตาเลียน ที่สื่อถึงความหมายของการใช้ไฟที่คุกรุ่นในการปรุงอาหารด้วยทักษะความชำนาญ โดยในร้านจะมีครัวเปิดและมีการใช้ฟืนในการทำอาหารจริง ๆ

ภายในเตาไฟที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ มันคือถ่าน "บินโจตัน" (Bincho-tan) ซึ่งเป็นถ่านคุณภาพสูง ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน จากไม้โอ๊กคุณภาพดี เผาด้วยเตาพิเศษนานหลายสัปดาห์ เพื่อให้ได้ถ่านที่มีความบริสุทธิ์สูง แทบปราศจากสารก่อมะเร็ง

ด้วยคุณสมบัติความร้อนที่สม่ำเสมอ ควันน้อย และไร้กลิ่น ทำให้เนื้อสัตว์ที่ย่างด้วยถ่านบินโจตัน คงความชุ่มฉ่ำ หอมกรุ่น และรสชาติแท้จริงของวัตถุดิบ ไม่มีกลิ่นควันมาบดบัง ที่พร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัส

Casual Fine Dining เรียบหรูแต่เรียบง่าย

โดยรวมแล้วนี่คือร้านในสไตล์ Casual Fine Dining ภายใต้บรรยากาศที่เรียบหรูแต่ยังดูเรียบง่าย เป็นกันเอง ทางร้านตั้งใจนำเสนอช่วงเวลาพิเศษที่มีได้ทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องรอวันหรือโอกาสพิเศษเท่านั้น แต่นี่คือช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายที่เลิกงานแล้วก็แวะเวียนเข้ามาได้

“ปรัชญาการทำอาหารของเรา เกิดจากความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อทั้งประเพณีและนวัตกรรม เราตั้งใจรังสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารสไตล์ไฟน์ ไดนิง แบบสบายๆ แต่ทันสมัย เชิดชูเสน่ห์ดั้งเดิมของการปรุงอาหารด้วยไฟที่จุดจากไม้ที่ผสานกับเทคนิคสมัยใหม่ เป้าหมายของเราคือการส่งเสริมให้รสชาติตามธรรมชาติของวัตถุดิบที่เราคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันได้เปล่งประกายอย่างเต็มภาคภูมิด้วยวิถีแห่งความซับซ้อนและละเอียดอ่อนที่ได้จากไฟและควัน แต่ละจานเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนเพื่อรังสรรค์ประสบการณ์ที่น่าจะจดจำ”

[gallery columns="2" size="full" ids="34294,34320"]

เอกลักษณ์อีกประการที่สำคัญของ La Braci คือแนวคิดอาหารจานแชร์  “เราเชื่อว่าอาหารจะอร่อยมากขึ้นเมื่อทานด้วยกัน เราจึงออกแบบเมนูเพื่อส่งเสริมประสบการณ์การมีส่วนร่วมนี้ให้แขกของเราได้ลิ้มลองรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลายด้วยกัน นอกจากจะช่วยยกระดับความสุขในการรับประทานอาหารแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง สะท้อนถึงหัวใจของความเป็นอยู่แบบไทยที่มักกินข้าวด้วยกัน” Sean Lai กล่าว


ตลาดของเล่นของสะสมพุ่งแรงต่อเนื่อง Toytopia ผนึกกำลัง Robotime ยักษ์ใหญ่ผู้สร้างสรรค์ของสะสม DIY ระดับโลก ปักธงเมืองไทย เปิดตัว Rolife Flagship Store @Central Westgate ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอกองทัพสินค้าสุดน่ารัก อัพเดท Rolife ได้ครบทุกคอลเล็กชัน พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ เผยเทรนด์อาร์ตทอย-กล่องสุ่ม-DIY มัดใจสาวกชาวไทย โชว์จุดแข็งด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับสากล จัดเต็มไอเดียสุดสร้างสรรค์ เหนือชั้นทุกรายละเอียด ตั้งเป้าขยายสาขาครบ 10 แห่งภายในปี 2568 นายชาญวิทย์ วิทยสัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด (Toytopia) เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาดของเล่นของสะสมในประเทศไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มของ “อาร์ตทอย”

‘องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย’ จัดแสดง ‘นิทรรศการผลงานการออกแบบสื่อโฆษณาพิทักษ์สิ่งแวดล้อม’ หัวข้อ ‘ผลกระทบของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ต่อสิ่งแวดล้อม’ จำนวน 30 ผลงาน ณ ‘หอศิลปกรุงเทพฯ’          นิทรรศการผลงานการออกแบบสื่อโฆษณาพิทักษ์สิ่งแวดล้อม องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก คัดมาจากผลงานส่งประกวดกว่าหลายร้อยราย นำมาจัดแสดง 30 ผลงาน ใน แคมเปญ Print Ads Contest โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด ทั้งในระดับนักศึกษาและประชาชนทั่วไป เริ่มเปิดรับผลงานเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา           พร้อมเปิดนิทรรศการ Behind The Feed Print Ads จัดแสดงผลงานสร้างสรรค์จากผู้เข้ารอบ 30 ผลงาน จากผลงานที่ส่งเข้าประกวดอย่างล้นหลามกว่า 200  ผลงาน ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 60,000 บาท โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมตัดสินพร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญในวงการครีเอทีฟ และการศึกษา เป็นต้น           สำหรับผู้คว้ารางวัลชนะเลิศ ได้แก่ คุณอริยา อุง  นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพชั้นปีที่ 5 คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ กับผลงานชื่อ อู๊ด อู๊ด         รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ คุณชนินทร์ จันทวงค์ กับผลงานชื่อ The true cost of your

บริษัท ฟอร์วิส มาซาร์ส จัดงานสัมมนาประจำปี ‘อนาคตประเทศไทย เติบโตให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง’ ร่วมขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย โดยงานนี้มีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขามาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและวิสัยทัศน์เกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของไทย ทิศทางและแนวโน้มในอนาคต พร้อมเสนอแนะวิธีการเตรียมพร้อมขององค์กรไทยในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ  โดยมีผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต่างๆ เข้าร่วมงานกว่า 100 คน [caption id="attachment_34180" align="aligncenter" width="800"] ร็อบ ฮูเรนคัมป์[/caption] นายร็อบ ฮูเรนคัมป์ หุ้นส่วนผู้จัดการของฟอร์วิส มาซาร์ส ประเทศไทย กล่าวเปิดงานโดยเน้นย้ำถึงความท้าทายสำคัญที่องค์กรไทยต้องเผชิญในสภาพแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว "งานสัมมนานี้เป็นเวทีสำคัญในการให้ข้อมูลและความรู้แก่ลูกค้าและพันธมิตรของเราเกี่ยวกับแนวโน้มทิศทางทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ รวมถึงกฎหมายภาษีและด้านต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานทางธุรกิจในประเทศไทย ทั้งสำหรับบริษัทไทยและบุคคลไทยที่ดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ  มีปัจจัยท้าทายมากมายที่องค์กรต้องเตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่" ดร. อานันท์ชนก สกนธวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานยุทธศาสตร์และแผนงานเศรษฐกิจมหภาค สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อธิบายถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจในอนาคต รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในพลวัตทางการเมือง การดำเนินนโยบายด้านกฎระเบียบต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อความมั่นคงและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบการค้า และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

บริษัท มาร์ส อินคอร์ปอเรท (Mars, Incorporated) ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง อาหารขนม และอาหารทั่วไป ผู้ผลิตแบรนด์ที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม th.WeR4HappyTails.com ซึ่งเป็นความริเริ่มที่เกิดขึ้นจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสัตว์เลี้ยงไร้บ้านในประเทศไทยผ่านการส่งเสริมการรับเลี้ยงสัตว์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทันสมัย แพลตฟอร์มนี้เปิดตัวร่วมกับสามมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ ได้แก่ มูลนิธิเดอะวอยซ์, มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย และมูลนิธิใจด๊อกเรสคิว (Jai Dog Rescue) ที่งาน Global Adoption Weekend ของมาร์ส ที่มุ่งเน้นเรื่องความเข้ากันได้ระหว่างสัตว์เลี้ยงที่ถูกรับเลี้ยงและเจ้าของสัตว์เลี้ยง เพื่อช่วยให้สัตว์ในศูนย์พักพิงหาบ้านที่อบอุ่นได้ งาน Global Adoption Weekend จัดขึ้นในประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2024 ที่ผ่านมามาร์ส เพ็ทแคร์ ได้นำเทคโนโลยีมาใช้เชื่อมโยงเจ้าของสัตว์เลี้ยงกับสัตว์ที่อยู่ในศูนย์พักพิง โดยไฮไลท์ของงาน

อัตลักษณ์ท้องถิ่น เป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนของคนในชุมชนต่าง ๆ ซึ่งในโลกนี้มีเอกลักษณ์แห่งตัวตนอยู่อย่างมหาศาล มากจนน่าประหลาดใจว่า เราสามารถสร้างสรรค์ตัวเองที่แตกต่างได้แบบที่แทบจะไม่ซ้ำกัน หากสิ่งใดที่ถูกสะท้อนออกไปจนได้รับการชื่นชม ติดตาม และสร้างมูลค่าทั้งในแง่ของกระแสนิยมหรือเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ นั่นก็คือ Soft Power ที่กลายเป็นวาระแห่งชาติในปัจจุบัน ในแวดวงอัญมณีเครื่องประดับ การสะท้อนพลังละมุนจากเอกลักษณ์ท้องถิ่นก็ถือเป็นอีกแนวทางขยายการเติบโตของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยมีช่างฝีมือและแรงงานในระดับกว่า 800,000 ราย เมื่อไม่นานมานี้ Meetthinks มีโอกาสได้ร่วมงาน Bangkok Jewelry Week 2024 ซึ่งจัดโดย GIT หรือ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)  และมีโอกาสเดินสายเที่ยวชมถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับในเขตบางรัก สัมพันธวงศ์ และพระนคร หนึ่งในสถานที่แวะชมก็คือ สถาบัน GIT ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบางรัก ซึ่งที่นี่มีพิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องประดับและอัญมณีไว้ได้อย่างน่าสนใจ สามารถแวะไปชมกันได้ เข้าไปชมแล้วก็เกิดสะดุดตากับนิทรรศการที่จัดขึ้นเพื่องาน Bangkok

เมื่อกล่าวถึงถนนสายอัญมณี เราก็มักจะนึกถึง “จันทบุรี” เนื่องจาชื่อเสียงของ "ถนนอัญมณี" ซึ่งเป็นแหล่งเป็นที่ตั้งของร้านเจียระไนพลอย ร้านค้าอัญมณีต่าง ๆ และร้านทองรูปพรรณ มากกว่า 120 ร้าน แต่เรื่องราวการเดินทางและวิวัฒนาการของอัญมณีในเมืองไทยนั้นมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน โดยแหล่งใหญ่ในการผลิตและค้าขายที่สำคัญก็คือกรุงเทพฯ หากคุ้นตากับย่านเยาวราชที่ได้ชื่อว่า “ถนนสายทองคำ” ก็พอจะนึกภาพออก แต่นอกเหนือจากนั้น ยังมีแหล่งอัญมณีและเครื่องประดับที่รวมรวมช่างฝีมือดี ผลงานสวย ๆ ให้เลือกซื้อหาอยู่อีกหลายแห่ง และนี่คือเรื่องราวที่ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ได้รวบรวมข้อมูลไว้ โดยได้เชื่อมโยงเรื่องราวของอัญมณีและเครื่องประดับเข้ากับการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการ Bangkok Jewelry Week by GIT  มุ่งเน้นการพัฒนาต่อยอดเครื่องประดับเพื่อการท่องเที่ยวชุมชนเก่าแก่เชิงสร้างสรรค์บนถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับ กรุงเทพมหานคร (บางรัก สัมพันธวงศ์ พระนคร) ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม บางรัก บางรัก เป็นศูนย์รวมของพหุวัฒนธรรมและความเจริญทางเศรษฐกิจนานนับร้อยปีที่