สุขทุกที ที่มาจันท์ ตามรอยหนัง ‘14อีกครั้ง’
ภาพความทรงจำอาจเลือนราง แต่เรื่องราวบางอย่างกลับชัดเจนขึ้น ที่เคยคิดว่าลืมเลือนไปแล้ว กลายเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในใจ เพียงแค่ไม่ได้ขุดค้นมันขึ้นมา….
มุ่งหน้าสู่เมืองจันท์ ย้อนวัยหวานยุค 90 ไปกับกิจกรรมท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ “14 อีกครั้ง” จากสหมงคลฟิล์มฯ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจันทบุรี จัดทริปพิเศษนี้ให้กับผู้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ทางโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ โดยคัดเลือกผู้โชคดี 6 รางวัล รวม 12 คน ซึ่งมาจากทั่วสารทิศ ทั้งร้อยเอ็ด ภูเก็ต มหาสารคาม กรุงเทพฯ เป็นการโคจรมาเจอกัน โดยมีความทรงจำในหนังเป็นจุดเชื่อมโยง
ทริปตามรอย “14 อีกครั้ง” เยือนเมืองจันท์กันแบบ EXCLUSIVE 3 วัน 2 คืน เริ่มต้นออกเดินทางจาก ททท.สำนักงานใหญ่ มุ่งสู่แดนตะวันออก
14 อีกครั้ง เธอยังจำฉันได้หรือเปล่า
กลิ่นอายของเมืองเก่าที่ผสมผสานอยู่ทุกที่ในเมืองจันท์ น่าจะเป็นคำตอบที่ทำให้หลายคนหลงรัก เพราะบรรยากาศแบบนี้ ทำให้นึกถึงครั้งหนึ่งในวันนั้น เช่นเดียวกับภาพยนตร์ “14 อีกครั้ง” ซึ่งทางผู้กำกับบอกว่า หากจะเลือกโลเคชั่นเพื่อย้อนวัยหวานในอดีต ก็อยากอิงประสบการณ์ในบ้านเกิดของตัวเอง ถึงจะเล่าเรื่องออกมาได้อย่างออกรส
“วงเวียนน้ำพุ” ซึ่งเป็นจุดขึ้นรถแทกซี่ จันท์-ขลุง เป็นโลเคชั่นแห่งหนึ่งในเรื่อง ใครที่มาเที่ยวเมืองจันท์ด้วยรถสาธารณะก็จะได้เจอกับจุดนี้ เนื่องจากเป็นสถานที่นัดพบ จุดต่อรถสองสองแถวไปยังที่ต่าง ๆ อีกทั้งยังมีตลาด ร้านค้าที่เคลื่อนไหวตั้งแต่เช้าจนดึก ถึงจะไม่ได้ใช้บริการรถสาธารณะ เวลาขับรถในเมืองจันท์ เลี้ยวไปเลี้ยวมาก็อาจจะเจอกับวงเวียนน้ำพุที่ว่านี้
อีกโลเคชั่นในตัวเมืองจันทบุรี ที่ย้อนภาพวันวานได้ดี คือ บริเวณถนนหน้าโรงเรียนเบญจมราชูทิศ รวมทั้งโรงเรียนศรียานุสรณ์ ที่อยู่ตรงข้ามกัน ฉากในหนังก็มาถ่ายทำกันแถวนี้ ด้วยความที่โรงเรียนในประเทศไทยมีหน้าตาคล้าย ๆ กันหมด ถึงไม่ใช่เด็กจันท์ ก็อินกับบรรยากาศได้ดี แต่เพราะหนัง 14 อีกครั้ง ทำให้เหล่าผู้ตามรอยล้ำไปกว่านั้น ด้วยการซื้อไส้กรอกไม้ละ 5 บาทหน้าโรงเรียน แล้วไปยืนแก้มตุ่ยอย่างมีความสุข แถมยังถ่ายรูปกับป้ายโรงเรียนได้เนียนเสมือนศิษย์เก่า 
ย่านแห่งความคลาสสิกของจันทบุรีที่อยู่ในใจใครหลายคนก็คือ “ย่านเก่าเมืองขลุง” เป็นอำเภอที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองจันทบุรีมากนัก ราว 30 กิโลเมตร ที่นี่ยังมีอาคารบ้านเรือนที่กลิ่นอายย้อนยุค มีร้านค้าเก่าแก่ ในบรรยากาศเรียบง่ายและไม่เคยเปลี่ยนไป ตรงตามคำบอกเล่าของเด็กขลุง “เป้-นฤบดี เวชกรรม” ผู้กำกับหนัง 14 อีกครั้ง
อีกโลเคชั่นในขลุงคือ “สะพานปลาด่านขลุง” บรรยากาศบ้าน ๆ ธรรมดา ๆ แต่วิวดี มีลมพัดโชย ยามเย็นเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม
-
- อย่าลืมแวะซื้อของฝากจากเมืองจันท์กันด้วยนะ
อีกจุดเป็นถนนสายเก่าแบบเก๋า ๆ เรียกว่า “ถนนต้นยางนา” หรือ ถนนสุขุมวิทสายเก่า จันทบุรี-ตราด เส้นทางเล็ก ๆ ที่ขนาบไปด้วนต้นยางนาอายุกว่าร้อยปีเรียงรายไปบนระยะทางราว 3 กิโลเมตร สวยงาม ร่มรื่น มองเห็นแล้วเย็นสายตา เป็นอีกจุดถ่ายรูปสวย แต่ก็ต้องระมัดระวังกันด้วย แม้ว่ารถจะน้อย แต่ก็ใช้ความเร็วกันพอสมควรเลย
น้ำตกพลิ้ว มาชิลกันเถอะ
ในหนัง “14 อีกครั้ง” มีน้ำตกตรอกนอง อ.ขลุง เป็นโลเคชั่นลับที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่ด้วยระยะเวลาและระยะทาง ทำให้ทริปนี้เราแวะไปที่ “น้ำตกพลิ้ว” อ.แหลมสิงห์ ที่การเดินทางสะดวก และตัวน้ำตกมีขนาดใหญ่เป็นสายทางยาว สามารถเดินเข้าชมได้ไม่ยาก มีเอกลักษณ์ของ “ปลาพลวง” ที่แหวกว่ายอยู่เป็นฝูง มาเมื่อไหร่ก็ได้เจอ แต่ที่ต้องจับตามองดี ๆ เพราะสีของมันกลืนไปกับธรรมชาติก็คือ “กิ้งก่ายักษ์” หรือ “ตะกอง” พวกมันแฝงตัวกระจายไปทั่วริมลำธาร ตามโขดหินหรือต้นไม้
เที่ยวจันทบุรี มุมนี้ห้ามพลาด
ในทริปนี้เรายังได้ใช้เวลาแวะเที่ยวชมอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะจุดสำคัญ ๆ ที่ใครไปใครมาก็มักจะแวะมาเที่ยวชม เริ่มต้นจาก “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” ชุมชนริมเก่าแก่ริมแม่น้ำจันทบุรี มีอาคารบ้านเรือนแนววินเทจเรียงราย บ้างก็ปรับเป็นร้านอาหาร โรงแรม ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก บางบ้านก็ยังคงวิถีแบบดั้งเดิม มี “สะพานนิรมล” เป็นสะพานข้ามฝั่งไปยัง “อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล” เรียกกันว่า “โบสถ์วัดคาทอลิก” ศิลปะโกธิคอันเก่าแก่และงดงามมาก
มุมนี้อย่างเฟี้ยว ชมเหยี่ยว ล่องแพ
ถือเป็นอีกโลกใบใหม่ที่เราไม่เคยเจอมาก่อนสำหรับการล่องเรือไปชมเหยี่ยวแดง ณ หมู่บ้านไร้แผ่นดิน อ.ขลุง คืนแรกของทริปนี้เราเข้าพักที่ “บ้านมณีแดงโฮมสเตย์” บรรยากาศน่ารักท่ามกลางธรรมชาติ และมีป่าชายเลนเป็นของตัวเอง จากความร่วมมือของเจ้าของและนักท่องเที่ยวที่ช่วยกันปลูกมันขึ้นมาจนเป็นผืนป่าชายเลน ที่พักเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวดี ๆ โดยเฉพาะอาหารที่อร่อยแบบจัดเต็ม
ที่นี่มีแพ็กเกจล่องแพชมเหยี่ยว โดยจะพาคณะนักท่องเที่ยวที่เข้าพักไปล่องเรือหรือแพเปียกออกไปยังป่าชายเลนลุ่มน้ำเวฬุ พื้นที่รอยต่อของจันทบุรีและตราด เป็นป่าชายเลนผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก บรรดาเหยี่ยวแดงเลยมาอาศัยกันอยู่ที่นี่ ช่วงเย็น ๆ พวกมันจะออกมาโชว์ลีลาอลังการ พร้อมการดินเนอร์โฉบเฉี่ยวเหนือสายน้ำจากอาหารที่ชาวบ้านนำมาให้ การล่องแพจะไปสุดทางบริเวณปากแม่น้ำ ท่ามกลางวิวมุมกว้างของทะเลและภูเขาตรงหน้า จุดนี้กระโดดลงไปเล่นน้ำได้ (ต้องสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลา) รวมไป-กลับใช้เวลาราว 1.30 ชั่วโมง
แวะเล่นกับโลมาโชว์ โอเอซิสซีเวิลด์
ชื่อของ “โอเอซิสซีเวิลด์” อ.แหลมสิงห์ เป็นแหล่งเรียนรู้และชมโลมาที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันก็ยังคงความสดใสให้นักท่องเที่ยวทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ได้ชื่นชมความแสนรู้ของเจ้าโลมา ไม่ว่าจะเป็นการแสดงโชว์ การถ่ายรูปคู่กับโลมา และการว่ายน้ำกับเจ้าโลมา
ใกล้ ๆ กับร้านอาหาร มีร้านกาแฟ “ลานไทรคาเฟ่” บรรยากาศดี นั่งสบาย ระหว่างรอรอบการแสดงโชว์โลมา ก็มานั่งเล่นกันได้ วันนี้ลองสั่ง “กาแฟมะปี๊ด” รสชาติจี๊ดถูกใจ เข้มข้นลงตัวมาก ๆ ภายในโอเอซิสซีเวิลด์ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกหลายอย่าง รวมทั้งร้านขนม ไอศกรีม ของฝาก และของที่ระลึก
หมูชะมวง
เที่ยวจันท์อย่างฟิน ตระเวนกินให้ตัวแตก
ภายในโอเอซิสซีเวิลด์ มีร้านอาหารริมบึง “ท่องนทีซีฟู้ด” มีอาหารหลากหลาย โดยเฉพาะเมนูท้องถิ่นอย่างข้าวคลุกพริกเกลือ เส้นจันท์ผัดปู หมูคั่วเค็ม ไก่ต้มกระวาน และหมูชะมวง หนึ่งในเมนูจากหนัง 14 อีกครั้ง
-
- เส้นจันท์ผัดปู
-
- ข้าวคลุกพริกเกลือ
-
- น้ำพริกปูไข่
-
- ไก่ต้มกระวาน
-
- หมูคั่วเค็ม
-
- ทะเลเข่ง
พูดถึงอาหารอร่อย รอบนี้ถูกใจท่านผู้ชมมาก ๆ กับอาหารท้องถิ่นเมืองจันท์ จากที่เคยคิดว่า คนภาคตะวันออกกินอะไรก็หวานไปหมด มารอบนี้กลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลย
ตั้งแต่ “ป้าติ๊ดก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง” อ.ท่าใหม่ เมนูถิ่นที่ฟินแบบบ้าน ๆ มาถึง “มณีแดงรีสอร์ท” ที่จัดเต็มอาหารทะเลสด ๆ ตัวโตๆ น้ำจิ้มจี๊ดจ๊าด ก่อนจะไปเช็คอินที่ “เจ้าหลาวคาบาน่ารีสอร์ท” ที่พักริมทะเล อ.ท่าใหม่ ห้องพักสบาย บรรยากาศดีงาม อาหารเย็นในโรงแรมยังถึงรสถึงชาติ ไม่หวาน ไม่เลี่ยน ชอบใจสุด ๆ
-
- เจ้าหลาวคาบาน่า
-
- เจ้าหลาวคาบาน่า ห้องพักดีงาม อาหารอร่อยมาก
ทริปนี้ยังได้แวะชิลที่ “Asterisk Cafe” หรือ “กาแฟดอกจันท์” ทำให้นึกถึงกิมมิคเล็กจากหนัง 14 อีกครั้ง ร้านอยู่ติดชายหาดย่านแหลมสิงห์-บางกะไชย แม้ว่าวันนี้ฟ้าครึ้ม แต่ก็ได้บรรยากาศละมุน ด้วยตัวบ้านสีขาวสไตล์วินเทจ แต่ละมุมเต็มไปด้วยเรื่องราว อากาศดี ลมพัดเย็นสบาย ถูกใจสายมินิมอล
อีกร้านที่แวะก่อนกลับกกรุงเทพฯ คือ ร้านอาหาร “Lighthouse Bar&Grill” เป็นส่วนหนึ่งของ “Peggy’ s Cove Resort” ริมชายหาดคุ้งวิมาน เป็นอีกร้านที่ปรุงอาหารได้รสชาติดี วันนี้ได้ชิมพิซซ่า และอาหารท้องถิ่นอย่าง ไก่ต้มกระวาน หมูกรอบคั่วพริกเกลือ ปลาทอดสมุนไพร น้ำพริกลงเรือ และทีเด็ดอย่าง “พล่าปลา” แบบภาคตะวันออก กินกับน้ำจิ้มถั่วตัด เป็นอีกมื้อที่ทุกคนขอจัดเต็ม
ตัวที่พัก Peggy’ s Cove Resort จะลัดเลาะเข้าไปบนสะพานไม้ สไตล์หมู่บ้านชาวประมงในแคนาดา เป็นบ้านขนาดเล็ก-ใหญ่สีสันสดใส จำลองบรรยากาศด้วยสระน้ำที่คดเคี้ยว ได้บรรยากาศที่แปลกไปจากรีสอร์ตโดยทั่วไป และแน่นอนว่ามีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก
โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน วัดปากน้ำแขมหนู
ในเขตอำเภอท่าใหม่ มีวัดสวยแปลกตาอย่าง “วัดปากน้ำแขมหนู” (แขม-หนู) โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงินคือไฮไลต์ที่ดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาสัมผัสความงดงาม แม้ว่าทริปนี้จะมีฝนโปรยปราย สีของท้องฟ้าไม่เป็นใจนัก แต่ความสดของเซรามิกสีขาว-น้ำเงินยังคงเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์
โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2534 ทดแทนโบสถ์หลังเก่าที่ผุกร่อนจากการกัดเซาะของน้ำทะเล เนื่องจากทะเลใกล้ปากอ่าว เป็นสาเหตุที่ทำให้เลือกใช้เซรามิกที่มีความมันเงา คงทนและแข็งแรง มาเคลือบชั้นปูนไว้ รายละเอียดต่าง ๆ มีความสวยงาม ปัจจุบันเป็นโบสถ์ที่เหล่าโซเชียลต้องพากันไปชม ทำให้วัดมีความคึกคักในทุก ๆ วัน
เนินนางพญา ทะเลและท้องฟ้าเป็นใจ
“จุดชมวิวเนินนางพญา” ตั้งอยู่ใน อ.นายายอาม ไม่ไกลจากหาดคุ้งวิมานและปากอ่าวคุ้งกระเบน เป็นส่วนหนึ่งของถนนเฉลิมบูรพาชลทิต เส้นทางเลียบทะเลแสนสวย ไฮไลต์ของที่นี่คือการได้ชมความโค้งของถนนชล-จันท์เลียบทะเล โดยเฉพาะยามพระเย็นเมื่อน้ำและฟ้าเป็นใจ จะได้ชื่นชมกับแสงสุดท้ายของวันอย่างอิ่มเอมหัวใจ
ตามรอย “14 อีกครั้ง” เหมือนดังได้ตามความทรงจำของตัวเอง ด้วยอดีตของความแก่นเฟี้ยวในวันวาน ผสานกับบรรยากาศหอมกรุ่นของวัยเยาว์ เมื่อเข้าวัยทำงานก็วนเวียนมาจันท์อยู่นับครั้งไม่ถ้วน เป็นอีกจังหวัดที่มีสีที่เข้มจัดในภาพของความคิดถึง และมันก็ทำให้ “จันทบุรี” อยู่ในความคำนึงของเราอยู่เสมอ
ผู้โชคดีทริปตามรอย 14 อีกครั้ง สนุก สดใส เปี่ยมด้วยความทรงจำดี ๆ ที่เมืองจันท์
#สุขทันทีที่เที่ยวจันท์ สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี เพิ่มเติม ททท. สำนักงานจันทบุรี
https://www.facebook.com/TATChanthaburi
