Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

เศรษฐกิจสร้างสรรค์ Tag

เน็ตฟลิกซ์เผยข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจจากรายงาน “เน็ตฟลิกซ์ในประเทศไทย: พลังขับเคลื่อนอนาคตจากการเล่าเรื่องท้องถิ่น” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่องของเน็ตฟลิกซ์กับคอนเทนต์และผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ชาวไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยบนเวทีโลก รายงานฉบับใหม่นี้เผยว่า ระหว่างปี 2564 ถึง 2567 เน็ตฟลิกซ์ได้ลงทุนในคอนเทนต์ไทยรวมกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เกิดผลงานซีรีส์และภาพยนตร์ออริจินัลของไทยมากกว่า 20 เรื่อง พร้อมสร้างงานกว่า 13,500 ตำแหน่ง ครอบคลุมหลากหลายบทบาทในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทย มาโลบิกา (เมล) บาเนอร์จี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายคอนเทนต์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เน็ตฟลิกซ์ กล่าวว่า “ด้วยทีมงานประจำในกรุงเทพฯ เราจึงมีความเข้าใจลึกซึ้งต่อวงการสร้างสรรค์ของไทย คอนเทนต์ของเราไม่เพียงแต่ถ่ายทอดความงดงามของสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย แต่ยังสะท้อนถึงศิลปะและเอกลักษณ์ของการเล่าเรื่องแบบไทยอย่างมีชั้นเชิง เราได้ร่วมงานกับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ชาวไทยมากฝีมือ เพื่อนำเสนอเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความเป็นไทยและเชื่อมโยงกับผู้ชมได้อย่างแท้จริง รายงานฉบับนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงบทบาทการลงทุนของเน็ตฟลิกซ์ที่มีต่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย และชี้ให้เห็นถึงการสนับสนุนและผลกระทบเชิงบวกต่อการสร้างงาน การพัฒนาทักษะบุคลากร และการขยายโอกาสให้กับชุมชมท้องถิ่น”  นอกจากจะได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้ชมในประเทศแล้ว คอนเทนต์ไทยบนเน็ตฟลิกซ์ยังได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบจากผู้ชมทั่วโลกอีกด้วย โดยมีผลงานออริจินัลของไทยกว่า 15เรื่องที่ติดอันดับ Global Top 10 สำหรับคอนเทนต์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และมียอดชั่วโมงการรับชมรวมสูงถึง 750 ล้านชั่วโมงบนเน็ตฟลิกซ์ รายงานบทบาทและผลกระทบเชิงบวกฉบับนี้ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานแถลงข่าว ณ กรุงเทพฯ โดยมีตัวแทนจากภาครัฐ ผู้ผลิตภาพยนตร์ และผู้บริหารของเน็ตฟลิกซ์เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับอนาคตของคอนเทนต์ไทย ผู้เข้าร่วมเสวนาได้แก่ รูเบน ฮัตตาริ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเน็ตฟลิกซ์, ปราบดา หยุ่น

การเกิดขึ้นของตลาด NFT (Non-fungible Token) กำลังจะพลิกโฉมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทั่วโลก และถือเป็นโอกาสใหม่ของนักสร้างสรรค์ไทยและอุตสาหกรรมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยในการก้าวสู่ “ตลาดศิลปะดิจิทัล” หรือ “ตลาด NFT” ด้วยการแปลงผลงานของตนเองให้เป็นรูปแบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้จากการขาย NFT กับศิลปะในยุคดิจิทัล NFT คือ สินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่สามารถทำซ้ำหรือดัดแปลง ซึ่งจะบันทึกอยู่ในระบบบล็อกเชน (Blockchain) ที่มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบสิทธิ์ความเป็นเจ้าของได้โดยไม่ต้องอาศัยตัวกลาง ดังนั้น นักสร้างสรรค์สามารถแปลงผลงานของตนเอง อาทิ งานศิลปะ เพลง ภาพยนตร์ ข้อความ วิดีโอ รูปภาพ หรือสินทรัพย์ทางกายภาพอื่น ๆ (Physical Asset) มาเป็นรูปแบบดิจิทัล พร้อมกับสร้างรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ (Royalty Payments) จากการแปลงผลงานของตนเองเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรักษาความเป็นต้นฉบับ สร้างสภาพคล่องให้กับผลงาน โดยช่วงไตรมาสแรกของปี 2564

ความท้าทายของประเทศไทยในการก้าวสู่  ศตวรรษที่ 21 ท่ามกลางวิวัฒนาการของประชาคมโลก มีประเด็นสำคัญหลายด้านที่ต้องนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนา เพื่อมุ่งหน้าเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยมีเป้าหมายการเติบโตทาง GDP ให้อยู่ที่ระดับ 7-8% เหมือนเช่นในอดีต เป็นที่มาของการปฏิรูปหน่วยงานด้านอุดมศึกษา  วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมให้กับประเทศ ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนา เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  ลบคำว่า “งานวิจัยบนหิ้ง” สู่การพัฒนาและต่อยอดทางนวัตกรรมที่สร้างผลประโยชน์แบบองค์รวมให้กับประเทศ ดังนั้น จึงมีการจัดตั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว.อย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 โดยรวมหน่วยงานอุดมศึกษากับหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมของประเทศทั้งหมดมาอยู่ภายใต้กระทรวงเดียวกัน ล่าสุด  มีการจัดการจัดงาน “การประชุมชี้แจงระบบ แผน และแนวทางการจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” ระหว่างวันที่