พร้อมจะชิลล์รึยังจ๊ะ แล้วเจอกันนะ! ‘ระยอง’

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากสถานการณ์โควิด-19 ตลอดกว่าปีที่ผ่านมา คือ เรื่องของการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งเดิมทีอาจจะหมายถึง “ความเป็นส่วนตัว” ที่จะบอกหรือไม่บอกใครก็ได้ แต่ในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ต้อมยอมรับว่า ข้อมูลข้อเท็จจริง เป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ในการช่วยปิดประตูปิดทาง สะกัดกั้นการเดินทางของเชื้อไม่ให้ขยายไปในวงกว้าง

การ “เปิดใจ” คุยกันของทุกๆ ฝ่าย เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก

ย้อนไปหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งรอบแรกและรอบสอง “ระยอง” เป็นจังหวัดหนึ่งที่ตกเป็นข่าวดัง เนื่องจากเกิดเคสใหญ่จนถึงขั้นปิดเมือง ทั้งยังโยงใยไปถึงกรณีของบ่อนการพนัน ที่รับบทตัวร้ายซ้ำซ้อน เพราะนอกจากจะเป็นบ่อนทำลายที่ผิดกฎหมายแล้ว ยังกลายเป็นแหล่งกระจายเชื้อร้ายซ้ำเติมในวิกฤตครั้งนี้

เดิมทีเรารู้จัก “ระยอง” ในนามของเมืองเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เป็นจังหวัดที่มีรายได้ประชากรต่อหัว (Gross Provincial Product)  สูงที่สุดในประเทศ (ที่มา : ลงทุนแมน ปี 2563) เนื่องจากโครงการพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอยู่ที่ระยอง ทำให้รายได้เฉลี่ยของประชากรสูงถึง 1.1 ล้านบาทต่อปี แต่ไม่ได้หมายความว่าคนระยองจะมีรายได้สูงกันหมดทุกคนหรอกนะ

รอบสองช้ำหนัก หลังหยุดพักต้องเร่งเดินหน้า

มาถึงปัจจุบันหลังจากโดนผลกระทบระลอกใหม่เข้าไป “ระยอง” ก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เงียบเหงาลงไปโดยปริยาย  การทำงานของผู้นำในทุกบทบาทของเมืองระยองจึงต้องเข้มข้นหนักขึ้นทุกวัน จนล่าสุด เมื่อตัวเลขการแพร่ระบาดเริ่มเป็นศูนย์ ทาง ททท. ระยอง จึงตัดสินใจเดินหน้า

“หลังจากตัวเลขเริ่มเป็นศูนย์จากเชื้อโควิด ระยองก็เริ่มมีคนเดินทางเข้ามา ต้องบอกว่าความเป็นมืออาชีพของระยอง ทั้งผู้ว่าฯ ผู้บริหาร หรือ ทาง ททท.  มีการพูดคุยกันหลายครั้งต่อสัปดาห์ ททท. มีรูปแบบการทำงานที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ เรื่องการสร้างความเชื่อมั่น เรื่องของมาตรฐาน SHA ที่เราตระหนัก และได้พูดคุยและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเข้ามาสมัครมาตรฐาน SHA ให้เพิ่มมากขึ้น ได้ร่วมหารือกับทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวระยอง สมาคมท่องเที่ยวของเกาะเสม็ด  ซึ่งยอมรับว่า การแพร่ระบาดรอบสองนี้ค่อนข้างกระทบสูง เป็นระยะเวลาที่ยาวนานจริงๆ”  นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผอ.ททท.ระยอง กล่าว

Sea you Rayong เรียกร้องความคิดถึง

ผอ. ททท ระยอง เล่าต่อว่า เมื่อสถานการณ์เริ่มฟื้นคืนกลับ การประชาสัมพันธ์ที่ช่วยสร้างความมั่นใจจึงต้องเดินหน้า แม้จะยอมรับว่า เป็นการเชิญชวนแบบ “ไม่เต็มปากเต็มคำ” เพราะสถานการณ์อาจจะแกว่งไปมาได้ตลอด โดยในช่วงแรก ททท. และ ภาคเอกชน ได้สื่อสารผ่านธีม Sea you Rayong เพื่อสร้างความคิดถึง ความโหยหาทะเลระยอง โดยมีกลุ่มบล็อกเกอร์ประมาณ 10-20 เพจ ที่มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยวระยอง เข้ามาช่วยกระพือความคิดถึงนี้ให้มีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งได้ผลค่อนข้างดีเลยทีเดียว

เปิดเส้นทางคนโสด เที่ยวระยองในโหมดชิค

เมื่อโปรย “ความคิดถึง” ออกไป  จึง “ต้องมาหา”  ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่า การใช้โอกาสในช่วงเดือนแห่งความรักชวนกันมาพบเจอระยองอีกครั้ง ทาง ททท. จึงได้สร้างสรรค์แคมเปญสวนกระแสวันวาเลนไทน์ กับ “ทริปสายโสด” แพ็กเกจพิเศษเที่ยวระยอง พร้อมร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเส้นทางไหว้พระขอพร

เพราะกลุ่มคนโสด เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ชื่นชอบการท่องเที่ยว และออกเดินทางหาประสบการณ์ โดยทริปนี้ มีกิจกรรมต่างๆ อาทิ กิจกรรมปล่อยปูหาคู่แท้ บริเวณป่าชายเลน สะพานรักษ์แสม มีไฮไลท์เป็นสะพานแขวนทางเดินไม้ ทอดผ่านป่าชายเลนคลองท่าตาโบ๊ย บ้านเนินฆ้อ อ.แกลง ใครที่มาเที่ยวเองก็สามารถปล่อยปูสู่ธรรมชาติได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยเพื่ออุดหนุนกิจกรรมของทางชุมชน ระยะทางของสะพานยาวประมาณ 100 เมตร ส่วนทางเดินไม้ยาว 200 เมตร ปล่อยปูแล้ว ก็เดินชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนกันต่อได้

ระยองสาย SUP เชิญครับ ที่ “อ่าวไข่”

จากนั้นก็ถึงเวลาชิคๆ จากกิจกรรมที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง “Sup Board” (SUP : Stand Up Paddle Board) ส่วนใหญ่ใครที่อยากเล่น SUP ก็จะมุ่งไปทะเลใต้ แต่ทะเลหลายแห่งในระยองก็เล่นได้ โดยในครั้งนี้ไปกันที่ “อ่าวไข่” อีกมุมส่วนตัวของระยองแบบไม่ต้องลงเกาะ ด้วยชายหาดขาวๆ น้ำทะเลไสสะอาด พร้อมที่พักและร้านอาหาร หนึ่งในนั้นคือ “Drift Bar”  ที่ให้บริการกระดาน SUP และเรือคายัค พร้อมครูฝึก ยามเย็นของอ่าวไข่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง

“ทริปสายโสด ชวนคนโสดออกมาเที่ยว ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากส่วนกลาง เปิดแคมเปญไปมีคนจองเข้ามาอย่างถล่มทลาย” นายอัครวิชย์ กล่าว

เอาใจสายมู ขอพรคู่แท้ที่ “วัดป่าประดู่”

นอกจากทะเล จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของระยองแล้ว ในตัวเมืองระยองก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งให้แวะชม สำหรับสายโสด สายมู หรือ สายธรรม รวมทั้งสายอาร์ท แนะนำให้ไปที่ “วัดป่าประดู่”  พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ  เดิมมีชื่อว่า “วัดป่าเลไลยก์”  สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีจุดที่น่าสนใจเยอะมาก อาทิ “พระนอนตะแคงซ้าย” พระนอนขนาดใหญ่ ยาว 11.95 เมตร สูง 3.60 เมตร เป็นพระพุทธไสยาสน์ซึ่งประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย จากข้อมูลระบุว่าเป็น “1 เดียวในประเทศไทย” อีกด้านหนึ่งยังมีโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 มีการผสมผสานศิลปะจีนปรากฏเป็นลาดลายบริเวณหน้าบันด้านหน้า มีใต้ถุนโบสถ์ไว้ให้พุทธศาสนิกชนลอดใต้โบสถ์เพื่อความเป็นสิริมงคล ฯลฯ

เดินหน้า “ระยอง” เที่ยวดี มีคืน

กิจกรรมที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นการโปรย เพื่อเกริ่นนำว่า หากคิดถึงกันก็ให้มาหา มาเติมพลังแห่งความสุขกายสบายใจกันที่ระยอง โดยหลังจากนี้ ทาง ททท. ยังคงเดินหน้าโปรโมทกิจกรรมอันเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว รวมทั้งมีแผนการจัดโครงการ  “เที่ยวดี มีคืน จังหวัดระยอง” มอบสิทธิพิเศษเป็น E-Voucher ส่วนลดสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ เมื่อเข้ามาพักในระยอง อาทิ การซื้อของที่ระลึก สวนผลไม้ สนามกอล์ฟ ดำน้ำ การรับประทานอาหารบนเกาะเสม็ด นอกจากนั้นยังเชิญชวนกลุ่มท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะในการทำกิจกรรมซีเอสอาร์ หรือการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อตอบแทนคืนสังคมและสิ่งแวดล้อม  รวมทั้งการจัดกิจกรรมร่วมสนุก ผ่านสื่อโซเชียล ชวนสร้างสรรค์คลิปวีดีโอพร้อมชวนเพื่อมาเที่ยวจังหวัดระยอง ผ่าน TIK TOK ในกิจกรรม SeaYouRayongEP1  ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2564

“อยากเรียนให้นักท่องเที่ยวทุกท่านมั่นใจ และสบายใจในการมาเยือนระยอง เพราะไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน ภาครัฐเราร่วมกันทำเรื่องมาตรการด้านสาธารณสุขเป็นอย่างดี เกือบสองร้อยแห่งมีผู้ประกอบการเกือบ 200 แห่งที่มีมาตรฐาน SHA เพราะฉะนั้น เมื่อท่านเดินทางมา ท่านจะได้รับการดูแลอย่างมีมาตรการด้านสาธารณสุขที่มีมาตรฐาน”

จากการลงพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดระยองเมื่อ 13-15 ก.พ. ที่ผ่านมา Meetthinks ได้พบว่า บรรยากาศของระยองยังเต็มไปด้วยสีสันแห่งความสุข พร้อมมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขที่เคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ตัวนักท่องเที่ยวเอง มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเองและใครต้องตกอยู่ในความเสี่ยง

ปฏิบัติตามระเบียบการป้องกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนก็ปลอดภัยได้

ส่วนใครที่บอกว่า “พร้อมจะเที่ยวมานานแล้วนะ” ก็เลือกหาเส้นทางเที่ยวเมืองไทยที่ถูกใจกันได้ หาก “ระยอง” เป็นหนึ่งในความคิดถึง “ก็มาสิจ๊ะ” ระยองพร้อมต้อนรับเสมอ