Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

‘อรรฆรัตน์ นิติพน’ กับภารกิจเติมฝัน SME ไทย ผ่าน ‘อายุน้อยร้อยล้านอคาเดมี่’

หนึ่งในเคล็ดลับในการทำธุรกิจ คือ การเดินตามรูปแบบของผู้ที่ประสบความสำเร็จ  แม้จะมีลักษณะของกิจการที่แตกต่างกัน แต่การได้เรียนรู้เส้นทางของผู้สำเร็จก็สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจของเราได้ และถือเป็นการสร้างแรงบันดาลให้นักธุรกิจหน้าใหม่ได้เชื่อมั่นว่าเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้

รายการ “อายุน้อยร้อยล้าน” เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2555  เป็นรายการที่มุ่งตามหานักธุรกิจรุ่นใหม่อายุน้อย  ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ หรือเส้นทางชีวิตที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักธุรกิจด้วยคนรุ่นใหม่ เพื่อปลุกไฟเติมฝันในการเป็นเจ้าของกิจการ โดยมีหัวเรือใหญ่ในการสร้างสรรค์รายการอย่าง “อรรฆรัตน์ นิติพน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอ บริษัท มัชรูม เทเลวิชั่น จำกัด  ซึ่งวันนี้ได้ต่อยอดความสำเร็จของรายการ สู่การเป็นสถาบันฝึกอบรมนักธุรกิจรุ่นใหม่ผ่านโครงการ “อายุน้อยร้อยล้านอคาเดมี่” ที่กำลังไปได้สวยในขณะนี้

“เราเริ่มทำอคาเดมี่เมื่อสองปีที่แล้ว ที่ผ่านมาผมได้เจอกับนักธุรกิจอายุน้อยร้อยล้านเดือนหนึ่งก็หลายคน ปีหนึ่งก็  50 กว่าคน รวมแล้วตอนนี้มีกว่า 300 กว่าคนที่ผ่านรายการผม และทุกครั้งที่ได้เจอกับนักธุรกิจเหล่านี้ รู้สึกว่ามีไฟพลุกพล่าน ลุกโชนอยู่ตลอดเวลา แต่การนำมาถ่ายทอดผ่านทางทีวีมันมีเวลาน้อย  ก็มีแนวคิดที่จะนำผู้ที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้มาถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านการอบรมสัมมนาแบบตาต่อตาใกล้ชิดกับผู้ชมและมีเวลาให้อย่างเต็มที่ ก็เลยเกิดโครงการอายุน้อยร้อยล้านอคาเดมีขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า แกะรอยร้อยล้าน”

อรรฆรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นจำนวนมาก เพียงครั้งแรกก็ประสบความสำเร็จ จากผู้เข้าร่วมกว่า 1,400  คน ครั้งที่สอง 1,600 คน โดยจัดไปเมื่อปี 2560  รวม 8 จังหวัด 5 ภูมิภาค ให้กับผู้สนใจในต่างจังหวัด ที่ไม่สะดวกมาร่วมอบรมสัมมนาในกรุงเทพฯ และครั้งที่สามเพิ่งจัดไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่กรุงเทพฯ มีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน โดยครั้งล่าสุดที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ จะใช้ชื่อตอนว่า  THE NEXT FOURWARD จะเป็นโครงการต่อไปที่จัดในต่างจังหวัดในปีนี้

คอนเซ็ปต์ของโครงการจัดสัมมนาประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ 1.การสร้างเติมแรงบันดาลใจ โดยให้นักธุรกิจที่เคยร่วมรายการมาเล่าประสบการณ์เส้นทางความสำเร็จให้ผู้เข้าร่วมสัมมนารับฟัง  2. นำระบบการเงินมาให้การสนับสนุน โดยทางธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ให้คำปรึกษาเรื่องเงินทุน  และ  3.การพัฒนาจากธุรกิจขนาดเล็ก ๆ ในต่างจังหวัด หรือ local ให้สามารถก้าวสู่ Global ได้

“เราต้องพยายามทำให้เป็นมากกว่ารายการทีวี  เราเชื่อว่านี่คือคอนเทนท์ หรือคอมมูนิตี้ของเอสเอ็มอีกอย่างแท้จริง จึงเริ่ม THE NEXT FOURWARD เฟส 3 นี้ ในต่างจังหวัด โดยจะเริ่มวันที่ 27 ม.ค. ถึง 24 มี.ค. 2561 โดยจะเริ่มที่จังหวัดพิษณุโลก ตามด้วย ระยอง ภูเก็ต นครพนม และ นครราชสีมา ทั้งนี้มีเป้าหมายการจัดกิจกรรมใน 15 จังหวัด ภายในปี 2561 โดยมีความมุ่งมั่นว่า เราจะจุดไฟเติมฝันให้กับเอสเอ็มอีไทยทั่วประเทศ”

ส่วนในกรุงเทพฯ อรรฆรัตน์  บอกว่า จะมีจัดสัมมนาใหญ่ในช่วงไตรมาสที่ 3-4 จำนวน 2 ครั้ง ๆ หนึ่งก็คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 2,000 คน  และปีนี้พิเศษกว่าปีที่แล้ว ๆ มา จะมีโครงการจัดสัมมนาย่อยที่ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์อีก 200 ครั้ง ที่  Central Festival Eastville  ทุกวันอังคาร กับวันเสาร์  นอกจากนี้ยังมีโครงการ S100 ที่ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเหล่านี้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจาก SCB ที่จัดเตรียมงบไว้กว่า 2,000 ล้านบาท

“การไม่มีทุนมันเป็นปัญหาชั่วคราว

แต่ระยะยาวอยู่ที่ว่าเส้นทางที่คุณจะเดินไปได้อย่างไร”

ในส่วนการดำเนินธุรกิจของบริษัท มัชรูมฯ ที่ผ่านมา  มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 30% แม้ภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมยังชะลอตัว  ซึ่งอรรฆรัตน์  มองว่ามีโอกาสเกิดขึ้นทุก ๆ ที่แม้ภาวะตลาดหรือสถานการณ์เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเอสเอ็มอีแล้วยิ่งเป็นโอกาสเหมาะ  เนื่องจากศักยภาพของโชเชี่ยลมีเดียพร้อมด้วยการเติบโตของอีคอมเมิร์ซที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐทุกกระทรวง  รวมถึงธนาคารได้ให้ความสนใจ และสนับสนุนเอสเอ็มอีเป็นอย่างดี

“บางคนมักมองว่าปัญหาในเรื่องของเงินทุนเป็นเรื่องใหญ่ในการจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ  ซึ่งความจริงผมก็ย้ำทุกครั้งว่า การไม่มีทุนมันเป็นปัญหาชั่วคราว แต่ระยะยาวมันอยู่ที่ว่าเส้นทางที่คุณจะเดินไปได้อย่างไร แต่ผมก็เชื่อว่าทุกสมรภูมิมันก็มีผู้รอด  ผู้ชนะและผู้แพ้ ปัจจุบันเอสเอ็มอีในประเทศไทยมีกว่า 3 ล้านราย  จึงมองว่าทุกที่มันมีโอกาส เอสเอ็มอีเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ถ้าเอสเอ็มอีอยู่ได้ประเทศก็แข็งแรง ตัวผมเองก็เป็นเอสเอ็มอี ทำให้เข้าใจได้แท้จริง”

Post a comment

two × 5 =