ถอดรหัสความสำเร็จของ Mr. Sunshine (สุภาพบุรุษตะวันฉาย) ซีรีส์ย้อนยุคยอดนิยมจากเกาหลี

แทบจะการันตีได้เลยว่าซีรีส์แนวพีเรียดจากเกาหลีที่เข้ามาในเมืองไทยต้องเป็นที่ถูกอกถูกใจแฟนๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการย้อนอดีต เรื่องเล่าในรั้วในวัง ศึกชิงบัลลังก์ระหว่างขุนนางหรือจอมนางทั้งหลาย แม้แต่การทำอาหารและการแพทย์ในวังหลวง ยอมรับเถอะว่าคุณต้องเคยดูซีรีส์พีเรียดจากเกาหลีมาบ้างแล้ว และ Mr. Sunshine หรือ สุภาพบุรุษตะวันฉาย ก็เป็นอีกเรื่องที่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทยไม่แพ้กัน ทั้งๆ ที่เป็นซีรีส์ที่มีให้ชมกันได้ทาง Netflix เท่านั้น

ทว่า Mr. Sunshine หรือ สุภาพบุรุษตะวันฉาย เป็นซีรีส์พีเรียดที่แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีให้เราได้รับชมกันก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่เข้มข้นซึ่งเกี่ยวข้องกับการเป็นทหาร การเมืองการปกครอง ความเป็นชาติเกาหลีและแน่นอนความรักต่างชนชั้นและปมขัดแย้งในใจของตัวละครหลักแต่ละตัว จนทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีเรตติ้งสูงสุดของช่องเคเบิ้ลละครเกาหลีไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย และกำลังไต่ระดับเรตติ้งละครเกาหลีต่อไป จึงต้องมาลุ้นกันต่อว่าตอนจบซึ่งน่าจะเป็นตอนที่เรตติ้งสูงที่สุดจะทำลายสถิติเดิมที่ Reply 1988 เคยทำไว้ได้หรือไม่

บทและการกำกับที่ลงตัว 

ถ้าจะถอดสมการความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ออกมา ตัวแปรตั้งต้นที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้คือทีมผู้สร้างระดับออล์ สตาร์ ผู้ผูกปมเรื่องได้น่าสนใจ รังสรรค์บทที่เข้มข้น และถ่ายทอดผ่านศาสตร์และศิลป์แบบภาพยนตร์ 

ถ้าใครดูซีรีส์เกาหลีบ่อยๆ ต้องรู้จักนักเขียนบทคิมอึนซอกและผู้กำกับอีเอิงบ๊ก คู่หูผู้สร้างชื่อดังแห่งวงการละครเกาหลี ที่เคยฝากผลงานในซีรีส์สุดฮิตอย่าง Descendants of the Sun (ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ) และ Goblin (ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ) ด้วยเอกลักษณ์ที่ชัดเจนในผลงานของพวกเขา เน้นเรื่องราวที่อิงกับประวัติศาสตร์ชาติเกาหลี ความสมจริงของบทและคาแรคเตอร์ และการกำกับภาพและการแสดงที่แตกต่าง ทำให้ Mr. Sunshine เป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่องทางออนไลน์ทั้งในเกาหลีและประเทศไทย

เรื่องราวและความเข้มข้นที่ต่างออกไป

Mr. Sunshine หรือ สุภาพบุรุษตะวันฉาย เป็นเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นช่วงชินมิยังเกียว (Shinmiyangyo) ซึ่งเป็นช่วงที่ทหารอเมริกันเข้ามาในประเทศเกาหลีเป็นจำนวนมากประมาณปลายศตวรรษที่ 19 เรื่องราวของเด็กชายชาวเกาหลีที่เกิดในครอบครัวทาส และพ่อแม่ของเขาถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของเจ้านาย ทำให้เขาต้องหนีเอาชีวิตรอดไปกับเรือรบอเมริกัน และกลับมาประเทศเกาหลีบ้านเกิดอีกครั้งหลังจากผ่านไป 30 ปี ในฐานะนายทหารประจำกองทัพเรือสหรัฐฯ ผู้ที่เกลียดชังแผ่นดินเกิดเกาหลีของเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งมีไม่กี่เรื่องที่ตัวเอกมีความเป็นตะวันตกผสมร่วมกับความเป็นเกาหลี ทำให้สุภาพบุรุษตะวันฉาย สามารถสะท้อนมุมมองของชาวอเมริกันและแนวคิดตะวันตกในยุคนั้นออกมาได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างความเป็นชาติเกาหลีของพระเอกร่วมกับวัฒนธรรมและการเรียนรู้จากโลกตะวันตกนั้นช่วยเพิ่มอรรถรสและสาระต่างๆ ให้กับซีรีส์เรื่องนี้แบบไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน อีกทั้งตัวละคร กูดงแม ที่แสดงให้เห็นการกดขี่ทางชนชั้น และความแตกต่างทางศักดินาของเกาหลีในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ความเข้มข้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตัวเอกอย่าง ยูจีน ชเว ได้เห็นถึงแผนการร้ายที่ใช้ปกครองประเทศเช่นเดียวกับสมัยที่ครั้งหนึ่งเขาเคยหนีจากไป แต่ในวันนี้เขาพร้อมที่จะกลับมาเปลี่ยนแปลงและแก้ไขมันให้กลับมาถูกต้องอีกครั้ง เรื่องนี้จึงแตกต่างจากละครพีเรียดที่เราเคยดูกันมาที่เน้นความเป็นชาตินิยมแท้ๆ หรือการปกครองสไตล์เกาหลีเพียงอย่างเดียว แน่นอนว่าคุณดูแล้วจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองถึงความรักชาติที่ชัดเจนของนางเอก ความเหลื่อมล้ำทางสังคมของเกาหลีในยุคนั้น และแนวความคิดของตะวันตกที่เข้ามาในโลกตะวันออก

ความรักคลาสสิกตลอดกาล

นอกจากเรื่องราวเกี่ยวกับทหารและการปกครองแล้ว ความรักระหว่างชนชั้นก็เป็นอีกส่วนผสมหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้กลมกล่อมและทำให้สุภาพบุรุษตะวันฉายเป็นละครที่ครบรสและถูกใจชาวไทยอย่างแน่นอน โดย ยูจีน ชเว ตัวละครเอกของเราได้ตกหลุมรักกับโกแอชิน ลูกสาวคนสวยจากตระกูลสูงศักดิ์ในเกาหลียุคนั้น จนเกิดเป็นเรื่องราวความรักที่เข้มข้น ที่นอกจากจะแตกต่างทางชนชั้นแล้วทัศนคติที่พวกเขามีต่อประเทศบ้านเกิดยังแตกต่างอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย และยังมีอีกหลายตัวละครที่ล้วนมีส่วนทำให้เรื่องราวความรักของพระนางมีมิติมากขึ้น เมื่อมีชายหนุ่มอีก 2 คนที่ตกหลุมรักนางเอกเช่นกันและกลายมาเป็นคู่แข่งความรักครั้งนี้  

เสน่ห์ของทุกตัวละครจากนักแสดงฝีมือเยี่ยม

ส่วนประกอบที่สำคัญและขาดไม่ได้เลยที่ทำให้ Mr. Sunshine (สุภาพบุรุษตะวันฉาย) กลายเป็นละครที่ถูกอกถูกใจแฟนๆ และกลายเป็นที่พูดถึงทั่วโลก คือความมีเสน่ห์และความลงตัวของนักแสดงนำทั้ง 5 โดยนักแสดงนำที่แฟนๆ จะต้องรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเขาเคยฝากผลงานระดับฮอลลีวูดมาแล้วคือ อีบยองฮอน นักแสดงที่ได้รับบทสตอร์ม แชโดว์ (Storm Shadow) จากภาพยนตร์เรื่อง G.I. Joe ถึง 2 ภาค และบทฮันโชไบ ในภาพยนตร์เรื่อง Red 2 ซึ่งในเรื่องนี้เขารับบทนายทหารเรือหนุ่มยูจีน ชเว ตัวละครเอกของเรา ส่วนคิมแทรี นั้นโด่งดังจากเรื่อง The Handmaiden (ล้วงเล่ห์ลวงรัก) รับบทเป็น โก แอชิน ลูกสาวของครอบครัวชนชั้นสูง ที่มาพร้อมความจงรักภักดีต่อแผ่นดินเกิดเหนือสิ่งอื่นใด เขาและเธอต้องมาประชันกันทั้งเรื่องของทัศนคติ ความรักชาติ ความแตกต่างทางฐานะ ซึ่งล้วนแต่เป็นอุปสรรคสำตัญของความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน และเราต้องตามดูว่าจะลงเอยอย่างไร 

ร่วมด้วยยูยอนซอก ที่แจ้งเกิดจาก Old Boy (เคลียร์บัญชีแค้นจิตโหด) และโด่งดังจากเรื่อง Reply 1994 (ย้อนรอยรัก 1994) เขารับบทเป็น กูดงแม เด็กชายที่เกิดในครอบครัวคนขายเนื้อ ซึ่งในสมัยนั้นมีฐานะทางสังคมที่ต่ำต้อยยิ่งกว่าคนรับใช้ เขาถูกรังแกและได้รับการกดขี่ทางสังคมจนต้องหนีไปอยู่ประเทศญี่ปุ่น และกลับมาอีกครั้งในฐานะซามูไรญี่ปุ่นที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเงิน นอกจากนี้ยังมี คิมมินจอง รับบทเป็น คุโดะ ฮินะ เจ้าของโรงแรมกลอรีที่เป็นสถานที่สำคัญในภาพยนตร์ เธอแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพและความเข้มแข็งของหญิงสาวเกาหลีในยุคนั้นได้อย่างโดดเด่น และบยอน โยฮัน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากเรื่อง Misaeng: Incomplete Life (หนุ่มออฟฟิศพิชิตฝัน) รับบทเป็น คิม ฮีซอง ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมจากตระกูลสูงศักดิ์ที่มีปมในอดีตกับพระเอก และเป็นคู่หมั้นของโก แอชิน ที่สุดท้ายเขาตกหลุมรักโก แอชินและพยายามแสดงให้เห็นถึงความรักและปกป้องนางเอกด้วยวิธีที่น่าสงสัยของเขาอยู่เสมอๆ  เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่านักแสดงนำทั้ง 5 ล้วนมีเสน่ห์และช่วยเพิ่มสีสันและความเข้มข้นให้กับซีรีส์เรื่องนี้ได้แค่ไหน

เห็นแต่ละองค์ประกอบที่โดดเด่นของ Mr. Sunshine (สุภาพบุรุษตะวันฉาย) กันแล้ว รับประกันได้เลยว่าซีรีส์พีเรียดเกาหลีเรื่องนี้จะต้องถูกใจและแฝงข้อคิดดีๆ อีกเพียบ เพราะตั้งแต่บท การกำกับ นักแสดง และเรื่องราวล้วนเข้มข้นและเต็มไปด้วยสาระที่อิงกับประวัติศาสตร์ในมุมใหม่ๆ ที่คุณต้องไม่เคยเห็นจากซีรีส์เรื่องไหนแน่ๆ อย่าลืมติดตามชม Mr. Sunshine (สุภาพบุรุษตะวันฉาย) สตรีมกันได้แล้วทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ทางNetflix