Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

เหตุใด 7 ใน 10 ของคนไทยเยียวยาจิตใจด้วยขนมกรุบกรอบ

สถานการณ์โรคระบาดส่งผลต่อความต้องการของผู้บริโภคไทยในเรื่องการดูแลตัวเองและสุขภาพทางอารมณ์ผ่านการรับประทานขนมกรุบกรอบ ผลวิจัยล่าสุดของ Mintel แสดงให้เห็นว่าคนไทย 77%* หันมารับประทานขนมกรุบกรอบ** เพื่อเป็นการให้รางวัลตัวเอง ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 81% ในกลุ่มอายุ 25-34 ปี

นอกจากนี้ความเครียดและความวิตกกังวลที่เกิดจากสถานการณ์โรคระบาด ประกอบกับวิถีชีวิตแบบคนเมืองที่เร่งรีบวุ่นวาย ยังส่งอิทธิพลต่อโอกาสในการรับทานขนมกรุบกรอบ ด้วยเช่นกัน  ภาวะ “เคี้ยวไปเรื่อย” หรือการรับประทานขนมกรุบกรอบระหว่างทำงาน ระหว่างเดินทางท่องเที่ยว หรือระหว่างกิจกรรมยามว่างอื่น ๆ เป็นสิ่งที่ผู้บริโภค 76% ทำเป็นประจำ

พิมพ์วดี อากิลา นักวิเคราะห์ตลาดอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท Mintel Reports Thailand กล่าวว่า: “การรับประทานขนมกรุบกรอบเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไทยชอบทำเพื่อฆ่าเวลาในระหว่างวัน จากผลการวิจัยผู้บริโภคของ Mintel Global ในปี 2564 พบว่าคนไทยมีการรับประทานขนมกรุบกรอบและเครื่องดื่มแทนอาหารมื้อหลักมากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากคนอินเดียเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก ความสนใจของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและอารมณ์นั้นช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับแบรนด์ขนมกรุบกรอบต่าง ๆ ในการสื่อสารภาพลักษณ์ของตัวผลิตภัณฑ์และแคมเปญการตลาดในแง่ที่ว่าเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้สุขภาวะทางอารมณ์ดีขึ้น”

ผู้บริโภคไทยจำนวนมากรับประทานขนมกรุบกรอบในโอกาสที่เรียกว่า ‘we-time’ หรือช่วงเวลาที่ใช้ทำกิจกรรมพิเศษร่วมกับผู้อื่น (54%) รวมไปถึงเวลาที่พบปะสังสรรค์กับเพื่อน ๆ และคนในครอบครัว และ ‘me-time’ หรือช่วงเวลาที่รู้สึกเบื่อหรือเครียด (45%) เมื่อพิจารณาตามกลุ่มอายุ คนรุ่นมิลเลนเนียล (อายุ 25-44 ปี) จำนวน 59% จำแนกตนเองเป็นคนที่กินแบบ ‘we-time’ ในขณะที่คนรุ่น Gen Z (อายุ 18-24 ปี) จำนวน 58% กินแบบ ‘me-time’ มากกว่า

การปรับสมดุลสุขภาพด้วยการตามใจปาก

แม้ขนมกรุบกรอบจะช่วยเรื่องการผ่อนคลายอารมณ์ แต่โซเดียม สารเติมแต่ง และวัตถุกันเสียที่ใส่เข้ามาก็ยังคงขัดกับความต้องการของผู้บริโภคในเรื่อง ‘อาหารเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น’ อ้างอิงจากฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Mintel Global (GNPD)

ระหว่างเดือนมกราคม 2562 ถึงเดือนธันวาคม 2564 การเปิดตัวของขนมกรุบกรอบที่ทำด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติและไร้สารเติมแต่ง ปราศจากวัตถุกันเสียและสารก่อภูมิแพ้มีเพิ่มมากขึ้น (19%) ขณะที่ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็เติบโตขึ้นเช่นกัน (17%)

การบริโภคขนมกรุบกรอบที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์กรภายนอก อย่างการได้รับตราสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” นั้นเป็นที่ต้องการถึง 77% ในกลุ่มผู้บริโภคไทยที่เคยเห็นและทราบว่าตราสัญลักษณ์นี้มีความหมายอย่างไร

“นอกจากการลดลงของส่วนผสมที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพในขนมกรุบกรอบแล้ว (เช่น โซเดียม, สารเติมแต่ง) ผู้บริโภคไทยยังมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อที่จะทำให้รู้สึกผิดน้อยลงเมื่อกินขนมกรุบกรอบ อีกทั้งผู้ที่ชอบทดลองรสชาติใหม่ ๆ เองก็ยินดีจะจ่ายให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น การเติมสารอาหารเพิ่มเป็นแนวทางหนึ่งที่ได้รับการยอมรับ ที่แบรนด์สามารถทำเพื่อยกระดับคุณค่าด้านสุขภาพของผลิตภัณฑ์ได้ เห็นได้ชัดว่าการเพิ่มคุณประโยชน์ทางด้านสุขภาพและการสร้างสรรค์รสชาติใหม่ ๆ โดยไม่สูญเสียรสชาติที่ดีไปจะเข้ามามีบทบาทในการทำให้ขนมกรุบกรอบเป็นส่วนหนึ่งของการกินเพื่อสุขภาพในหมู่ผู้บริโภคไทย” พิมพ์วดีกล่าว

*จากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 1,464 คน อายุมากกว่า 18 ปี ที่เคยรับประทานขนมกรุบกรอบในระยะเวลา 6 เดือน จนถึงเดือนมกราคม 2565

**นับรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบที่ทำจากถั่วประเภทฝัก มันสำปะหลังและพืชหัว ข้าวโพด มันฝรั่ง ข้าว ผัก ข้าวสาลี

Post a comment

14 + 18 =