Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

สถานการณ์โควิด โอกาสในวิกฤต

ศัลยแพทย์ ชี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด-19 กระตุ้นให้สังคมไทยตื่นตัวในการเรียนรู้และปรับพฤติกรรมต่าง ๆ เพื่อสู้กับเชื้อโรค ทำให้ได้เห็นข้อดีและเกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปแบบใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านสุขอนามัย (hygiene) 2) ด้านการสุขาภิบาล (Sanitation) และ 3) ด้านสังคม (Social) พร้อมแนะควรใช้วิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาส ทำบ้านเมืองให้สะอาด ปราศจากมลพิษและปลอดภัยจากเชื้อโรคต่าง ๆ ให้เร็วที่สุด

นายแพทย์ชลธิศ  สินรัชตานันท์  นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งเอเชีย  และอดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยประสบปัญหามลภาวะทางอากาศ ทั้งควันพิษ และฝุ่นละออง PM2.5 จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของคนไทย ทำให้มีการณรงค์สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือฆ่าเชื้อ ซึ่งนับเป็นการรณรงค์ด้านสุขอนามัย (hygiene) พื้นฐานสำหรับคนไทย  ดังนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019  ที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอุบัติใหม่ หรือ โควิด-19 ขึ้น ในความหวาดกลัว และตื่นตระหนก ทำให้เห็นคนไทยตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขอนามัย (hygiene) อย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งเป็นข้อดีประการแรก เพราะสุขอนามัยเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี และปัจจุบันยังถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย

สำหรับหลักการดูแลสุขอนามัย เพื่อป้องกันโควิด-19 คุณหมอแนะนำดังนี้

– สวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ข้างนอกและในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน

– ล้างมือด้วยน้ำเปล่าและสบู่ หรือเจลล้างมือบ่อย ๆ อย่างน้อย 20 วินาที

– หลีกเลี่ยงการใช้มือหยิบจับโลหะ ราวบันได  ปุ่มลิฟท์ และลูกปิดประตูต่าง ๆ

– ธนบัตรและเหรียญต่าง ๆ เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเช่นกัน หลังหยิบจับควรล้างมือทุกครั้งและทำความสะอาดธนบัตร เช็ดด้วยแอลกอฮอล์หรือตากแดด ส่วนเหรียญควรนำไปต้ม เป็นต้น

– รับประทานอาหารที่ทำใหม่ร้อน ๆ  หลีกเลี่ยงการใช้มือ  และควรล้างมือก่อนรับประทานทุกครั้ง

– เข้าห้องน้ำ เช็ดทำสะอาดก่อน-หลังนั่งทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้มือปิด – เปิดประตูและกลอน

– หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีการชุมนุม ถ้าจำเป็นควรทำ Social Distancing เว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร

ข้อดีประการที่สอง ความตื่นตัวด้านการสุขาภิบาล (Sanitation)   จะเห็นได้ว่าหลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทหาร ออกมาร่วมกันทำความสะอาดถนนหนทาง สวนสาธารณะ ตลาด และฉีดฆ่าเชื้อโรคตามสถานที่ชุมชนต่าง ๆ  เพราะอาจเป็นจุดที่มีสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อติดอยู่ ทำให้เกิดแพร่กระจายของเชื้อโรคได้  สำหรับการสุขาภิบาล หรือ Sanitation หมายถึง การบำรุงรักษาของสภาพทางสุขอนามัย ผ่านการบริการต่าง ๆ เช่น การเก็บขยะ การกำจัดน้ำเสีย ทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งองค์การอนามัยโลก ได้ระบุว่า การสุขาภิบาลที่ไม่เพียงพอเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคทั่วโลกและการปรับปรุงการสุขาภิบาลเป็นที่รู้จักกันว่าจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งในครัวเรือนและในทั้งชุมชน

นอกจากนี้คุณหมอยังแนะอีกด้วยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรณรงค์ให้ความรู้กับสถานบริการ สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า  ร้านอาหาร  ตลาดสด  โรงแรมและแหล่งให้บริการที่พักต่าง ๆ ในการดูแลรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคอย่างถูกต้องและได้มาตรฐานเพื่อเร่งกำจัดเชื้อโรคโดยเฉพาะไวรัสโควิด-19 ให้เร็วที่สุดและทำอย่างต่อเนื่องด้วย

ประการสุดท้าย ข้อดีด้านสังคม (Social) จากสถานการณ์โควิด-19 แม้จะมีผลกระทบกับสังคมไทยทั้งการดำเนินชีวิต การทำมาหากินและความเป็นอยู่แล้ว ก็ยังมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นมากมาย  ได้แก่

– ครอบครัวมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น จากมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” และ Work From Home

– เกิดความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปันหน้ากากอนามัยกัน ร่วมกันบริจาคเงินซื้อหน้ากากอนามัยให้กับบุคคลากรการแพทย์ จนเกิดแฮชแท็กซึ้งๆมากมาย เช่น  #คนไทยไม่ทิ้งกัน  #ร่วมใจสู้โควิด19 เป็นต้น

– เกิดการสร้างสรรค์และนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น ผลิตหน้ากากอนามัยใช้เอง / แจก แอพ / โปรแกรมใช้งานออนไลน์ช่วยกลุ่ม WFM เป็นต้น

– มีเวลาทบทวนตัวเอง ใช้สติ ศึกษาธรรมะ เพื่อต่อสู้กับความกลัวและนำพาตัวเองและประเทศให้ก้าวผ่านสถานการณ์ช่วงนี้ไปให้เร็วที่สุด

นอกจากข้อดีจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งสามประการแล้ว ในแง่การบริหารของรัฐบาลเพื่อหยุดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้ ก็ยังเห็นการบูรณาการทำงานร่วมกันจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะแพทย์ และบุคลากรแพทย์ต่าง ๆ ออกมาเป็นนักรบแนวหน้าที่ต่อสู้กับโควิด-19 อย่างน่ายกย่อง รวมทั้งทหาร ตำรวจ รวมถึง อสม.ที่ออกมาช่วยกันปราบเชื้อโรคครั้งนี้  สุดท้ายคุณหมอยังขอฝากให้คนไทยทุกคน ดูแลสุขอนามัยของตัวเองอย่างเคร่งครัดต่อไป เพื่อป้องกันโรคภัยต่าง ๆ และมีสุขภาพที่ดี

รวมทั้งอยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสุขาภิบาลของประเทศ ร่วมกันใช้วิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาส ในการเริ่มต้นจัดการทำบ้านเมืองให้สะอาดตา  ปราศจากมลพิษ และปลอดภัยจากเชื้อโรคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว และเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้เร็วที่สุด แม้ประเทศไทยจะมีเสน่ห์มากมายทั้งสถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกิน  ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้  แต่ถ้าบ้านเมืองสะอาดตา ถนนหนทางสะอาด ปราศจากขยะ สิ่งสกปรก ก็ยิ่งทำให้น่าเที่ยวและเกิดความประทับใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

Post a comment

three × five =