Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

อพท. เตรียมแผนช่วยเอกชน หลังพ้นวิกฤตโควิด-19

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เดินหน้างานพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวให้กับชุมชนตามแผนที่วางไว้ ส่วนระบบภายในใช้รูปแบบ Work from home พร้อมกันนี้ยังเตรียมแผนการดำเนินงานหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้น

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.  กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ และส่งผลกระทบต่อบริษัทนำเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร เป็นต้น

อพท. ในฐานะหน่วยงานต้นน้ำ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  ยังคงใช้ช่วงเวลานี้มุ่งพัฒนาเพิ่มศักยภาพให้กับชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวตามแผนงานเดิมที่กำหนดไว้ เช่น การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษให้ได้มาตรฐาน TOP 100  และการขับเคลื่อนเมืองในพื้นที่พิเศษเพื่อเข้าสู่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network – UCCN)

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ

พ้นโควิด-19 ผนึกเอกชนพัฒนาไกด์และเส้นทาง

แต่อย่างไรก็ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดหาแนวทางช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยว ตลอดจนคณะกรรมการ อพท. ก็ได้มอบเป็นนโยบายนั้น อพท. จึงได้เตรียมดำเนินงานภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เริ่มดีขึ้น โดยจะปรับแผนการทำงาน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ  ส่วนของการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับภาคเอกชน โดยการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2563 จัดเป็นกิจกรรมอบรมนักสื่อความหมายท้องถิ่นให้แก่ชุมชน โดยใช้มัคคุเทศก์อาชีพเป็นวิทยากรให้ความรู้  เพื่อยกระดับเพิ่มศักยภาพให้แก่ชุมชน ขณะเดียวกันมัคคุเทศก์อาชีพก็จะมีรายได้และมีงานทำจากความชำนาญที่มีอยู่ และจะร่วมกับบริษัทนำเที่ยวพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชนและพื้นที่พิเศษของ อพท. เพื่อจะได้สินค้าและบริการที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

ส่วนของการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว จะร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และ สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวภูมิภาคแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว โดยจะดำเนินการในแผนงานนี้ภายหลังสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ

“ทั้ง 2 กิจกรรดังกล่าว ถือเป็นการช่วยเหลือมัคคุเทศก์ และบริษัทนำเที่ยว ไปพร้อมกัน เพื่อช่วยแก้ไขผลกระทบจากภาคท่องเที่ยวที่จะได้ผลกระทบจากการแพร่ระบาทของเชื้อไวรัส โควิด -19  โดยในการปรับแผนการดำเนินงานนี้ อพท. จะใช้เงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรประจำปีงบประมาณ 2563 ตามเดิม แต่ปรับเปลี่ยนเพียงกิจกรรมในการดำเนินงาน แต่ยังคงไว้ซึ่งเป้าหมายและยุทธศาสตร์ของ อพท. ในเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย พัฒนาและสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยวในพื้นที่ต้นแบบและพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายมุ่งสู่ความยั่งยืน”

ประกาศ Work from home

ผู้อำนวยการ อพท. ยังกล่าวถึงการบริหารจัดการภายในองค์กรเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ว่า ได้ดำเนินการตามประกาศของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดในเรื่องของการให้แนวทางแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ โดยล่าสุดได้ประกาศให้เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้ปฏิบัติงานของ อพท. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค Work from home ทำงานผ่านระบบ อี-ออฟฟิศ  ประสานงานผ่านโทรศัพท์ และโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ เฟสบุ๊ค  ในเบื้องต้นเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 6 เมษายน 2563 เริ่มทำงานปกติในวันที่ 7 เมษายน 2563 กรณีมีภารกิจที่จำเป็นก็สามารถเข้ามาปฏิบัติงานที่ออฟฟิศได้ เช่น รับและส่งเอกสารที่ไม่สามารถนำเข้าระบบได้ หรือกรณีการประชุมจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น

สำหรับ อี-ออฟฟิศ คือ ระบบปฏิบัติการที่ อพท. พัฒนาและใช้เป็นระบบหลักในการทำงานภายในองค์กรมาเกือบ 10 ปี เป็นระบบที่สามารถลงนาม  บันทึกข้อความ หรือ จัดการงานด้านเอกสาร ได้เกือบครอบคลุมทั้งกระบวนการทำงาน ซึ่งที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานได้ขอเข้ามาศึกษาดูงานระบบดังกล่าว ที่ อพท. ปีละหลายๆ หน่วยงาน  เพื่อเป็นต้นแบบไปปรับใช้ในองค์กรของตัวเอง

Post a comment

2 × three =